วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ของจริงหรือไม่


โลกทุกวันนี้มันอยู่ยาก เพราะเราท่านไม่รู้เลยว่า สิ่งใดเป็นของจริง สิ่งใดเป็นของปลอม หรือ ที่พบเจอพบเห็นเชื่อ นั้นล้วนแล้วแต่ของปลอมทั้งหมดทั้งมวล

บทพิสูจน์ที่เห็นชัดในยุคจรวด หรือ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย มีเฟสบุ๊ค มีไอจี มีไลน์ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ นั่นคือ การทำโพรไฟล์ของตน ให้ดูดี น่าติดตาม ก็จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับหลายคน ไม่ว่าจะเป็นแอฟที่สามารถตกแต่ง ไปจนกระทั่งการเรียนรู้ในการเมคอัฟแต่งหน้าผม แต่งองค์ทรงเครื่อง จนวันนี้ บางทีแทบไม่รู้เลยว่า ไหนชายไหนหญิง

หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักชี้ให้พิจารณาเสมอว่า ไม่ต้องไปดูที่เหตุ เถียงกันว่าเหตุไหนดีกว่ากัน ดูให้ชัดว่าจริงแท้ ควรพิจารณาดูที่ผลอันเกิดจากเหตุนั้นๆ ย่อมเป็นเครื่องประจักษ์ยืนยัน ว่าสิ่งไหนจริง สิ่งไหนปลอม

หากแต่คนมากหลาย มักเชื่อในสิ่งที่ตนชอบ จึงไม่พิจารณาผล หรือไม่ก็เข้าข้างตนเอง เลือกที่จะเชื่อสิ่งที่ตรงกับความคิดตรง ปัญหาที่ตามมา นั่นคือ ความสับสนในความเชื่อ หากเกิดกับคนปกติธรรมดา ก็ไม่มีอะไรสักเท่าไหร่ แต่หากคนผู้นั้นตกอยู่ในกรรม ทำให้เกิดโรค แลยิ่งสาหัส อันหมายถึงพลังแห่งวิญญาณของตน เริ่มเสื่อมโทรม จิตของตนอ่อนล้า สิ่งนี้มีความหมายยิ่งนัก ด้วยวันนี้จะช่วยตนได้ ก็ต้องพึ่งผลที่ถูกเพียงประการเดียวเท่านั้น

จึงไม่ต้องแปลกใจ ว่าทำไมคนทั้งโลกไม่หายโรค หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้พิจารณาว่า ก็เชื่อผิด ทำผิด ด้วยคิดว่าสิ่งที่ตนเชื่อ สิ่งที่ตนทำ มีผลตอบแทน หรือพึ่งได้ กว่าจะรู้ตนอีกที ก็เวลาตายมาถึงแล้ว ว่าสิ่งที่ทำ สิ่งที่เชื่อ นั้นไม่มีผลอะไรแก่ตนเลย จะกลับมาบอกก็ไม่ได้แล้ว

บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ว่า เมื่อเราท่านปรารถนาสุข ก็ควรที่จะพิจารณา สิ่งที่ตนเชื่อ สิ่งที่ตนทำ มีผลจริงแท้แน่นอนหรือไม่ สิ่งใดที่ทำแล้วไม่มีผล ช่วยตนไม่ได้ ก็ควรตัดทิ้งไป ไม่ให้เป็นภาระแก่จิต แก่วิญญาณ ด้วยยึดถือไปก็มีแต่ลม ท่านจึงยกตัวอย่างในวัยเด็กของท่าน ครั้งยังอยู่ที่ตรอกไผ่สิงโต ในย่านคลองเตย ที่ซึ่งบ้านของท่านจะอยู่ประมาณกลางซอย ในวัยเด็ก มักเที่ยวซุกซน จะกลับบ้านก็มืดค่ำ แลก่อนจะถึงบ้านก็มีต้นมะขามใหญ่ ริมคลอง อันจะต้องเดินผ่านทุกวี่วัน แลกิจวัตรประจำวันก็คือ แวะฉี่ก่อนถึงบ้าน ทำเช่นนี้มาหลายปี วันหนึ่งก็มีคนนำศาลพระภูมิมาทิ้ง และก็เริ่มเยอะขึ้น ท่านก็ยังแวะฉี่เหมือนเดิม จนกระทั่งมีคนนำผ้าเจ็ดสีมาคล้อง และมีคนมากราบไหว้ บอกว่า มะขามต้นนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ด้วยความเป็นเด็ก จากแวะฉี่ก็เลยต้องรีบวิ่งผ่าน แลวันหนึ่งท่านก็คิดว่า ถ้ามันมีจริง ท่านก็คงไม่รอดมาจนถึงวันนี้ได้ ผ่านคราใดก็ไม่กลัว ยืนฉี่เหมือนเดิม เมื่อมาบวชท่านจึงรู้ว่า เพราะคนมันสร้างขึ้นมาเอง ไม่มีตัว ไม่มีตน มันจึงไม่ให้ผลประการใด ทั้งคุณทั้งโทษ ไม่มีเลย

ของจริง มันต้องเป็นสากล ใช้ได้ทุกตัวคน ไม่แบ่งแยก แบ่งเขา แบ่งเรา แบ่งเชื้อชาติ แบ่งศาสนา นี่แล ศาสนาพุทธในอดีต จึงเป็นที่ยอมรับ หากแต่ปัญหาที่ท่านทั้งหลาย ต้องขบคิดนั่นก็คือ คำสอนพุทธกาลนั้นเป็นเยี่ยงไร ทำอย่างไร ... มิใช่เอาแต่เพียงเขาเล่าว่า เขาสอนว่า แล้วทำตาม ดูผลของผู้ทำ ผู้สอนสักนิด ว่าทำแล้วเป็นเยี่ยงไร

แม่ชีเมี้ยนจึงตรัสว่า พระพุทธเจ้าทรงเล็งเห็น จึงมอบแว่นส่องจักรวาล ให้มนุษย์ในภายหน้าได้ส่องเพื่อมองหาศาสนา อยากรู้ว่าศาสนาอยู่ที่ใด ก็ให้มอง เอกลักษณ์ของศาสนา แมื่อ ทำแล้ว ทำได้ ได้ลาภอันประเสริฐ คือ "ความไม่มีโรค" อยากรู้ที่ใดมีธรรมของตถาคต ก็เอาคนเป็นโรค ที่คนทั้งโลกช่วยไม่ได้ ไปถวายสิ ที่ใดช่วยได้ ที่นั่นแลมีธรรม

ไม่เชื่อหรือ ว่าโรคเกิดจากกรรม ไม่เห็นหรือว่า ไม่มีใครในโลกนี้ชนะกรรมได้ โรคตาย มันจึงรักษาไม่ได้ ไม่มียารักษาโรค จะใช้วิธีของคน ไม่ว่าวิธีใด ที่ซึ่งอยู่ในนิสัยกรรม มาชนะกรรม เป็นไปไม่ได้

ผู้ที่อ้างเอ่ยตนว่ารักษาโรคได้ มียารักษาโรค พิจารณาเอาเถิดว่าเป็นคนประเภทใด ... ตัวเลขคนตายด้วยโรค มันฟ้อง ด้วยมีแต่เพิ่ม ไม่มีลด

เอาแค่โรค ไม่ต้องพูดถึงภัยพิบัติ ที่อ้างกันนัก อ้างกันหนา ที่นั่นศักดิ์สิทธิ์ ที่โน่นศักดิ์สิทธิ์ ใครมเดียว ระเนระนาด ก็เห็นๆกันอยู่

สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ไม่เป็นเช่นนั้นหรอก แม่ชีเมี้ยนชี้ ผู้ใดเดินอยู่ในวินัยของพระโคดม ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นหรอก สงฆ์ของท่านไม่มีหรอกเป็นโรคตายน่ะ

หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวอย่างมั่นใจเสมอ ผู้ใดมาธำรงวินัยของพระภูมีครั้งพระพุทธกาลที่แม่ชีเมี้ยนนำมา ไม่ตายด้วยโรคแน่ จึงไม่แปลก ไม่ว่าใครมาด้วยโรคอะไร สมัยปี ๓๐ หากเชื่อ ยอมบวช ไม่มีใครตายด้วยโรคสักคน

อยากมีสุข หาของจริงให้เจอ แล้วจะได้สุข เมื่อเห็นผลสุข นั่นก็ย่อมเป็นเครื่องยืนยันว่า เหตุ หรือ ความเชื่อ การกระทำ ที่ทำอยู่นั่นแลของจริง ... หากแต่สุขที่ว่า มิใช่เงินทอง ลาภ ยศ สรรเสริญ แต่เป็น "กินเป็นสุข นอนเป็นสุข" ที่ซึ่งเป็นสุขที่แท้จริงของมนุษย์ทุกตัวคน

หากไม่ยอมพิจารณา แลทำตามความคิด ความเชื่อ ก็ไม่ได้ห้ามอันใด แต่อย่าร้องให้พระภูมีช่วย หรือขอสวดมนต์อ้อนวอน ไม่มีทางสมปรารถนา ทำเหมือนคนทั้งโลก ก็ได้แบบคนทั้งโลก

เพราะคนทั้งโลก เขาก็ล้วนบอกว่าเขามีของดี กันทุกตัวคน คนที่จะต่าง ย่อมต้องสวนกระแส ไม่ทำแบบคนทั้งโลก เหมือนพระโคดม ทิ้งความเป็นเจ้าชาย ทิ้งสมบัติ ทิ้งลาภ ยศ สรรเสริญ ฉันใดก็ฉันนั้น นั่นแหละรอยที่ทิ้งไว้ อยากได้ก็เดินตาม

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44