หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ว่าศาสตร์สมุนไพรและธรรมคำสอนของแม่ชีเมี้ยน กว่าท่านจะเชื่อ ต้องผ่านการพิสูจน์มากมาย แลเห็นเป็นประจักษ์แล้วจึงเชื่อ
อาทิเช่น สมุนไพรเขียว ก็เริ่มจากคนป่วยหญิงท่านหนึ่ง ที่ต้องออกจากโรงพยาบาลมิชชั่น พร้อมคำกล่าวของหมอว่า "ให้พากลับไปตายที่บ้าน ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว" สภาพที่ปรากฎ คือ ร่างกายทุกส่วนแข็งตัวหมด แม้นแต่กลืนอาหารยังไม่ได้ ญาติก็พาใส่เปลไปถ้ำกระบอก เพื่อหาแม่ชีเมี้ยนให้ช่วย แต่ก็ถูกปฏิเสธ ครั้นพาลงจากถ้ำ สวนกับหลวงพ่อนิพนธ์ ที่ต้องมารดน้ำต้นไม้ และแปลงผักทุกวัน เห็นก็ถาม รู้ความแล้ว ด้วยความอยากช่วยหนึ่ง ที่สำคัญคือ อยากลองวิชาของแม่ชีเมี้ยนหนึ่ง ที่ตนร่ำเรียนมา ยังไม่เคยได้ใช้
การฟื้นฟู จึงเริ่มด้วยการบอกให้เณรไปแจ้งแก่แม่ชีเมี้ยนว่า รับมาแล้ว แม่ชีเมี้ยนจึงเรียกไปถามว่า ท่านรับมาได้อย่างไร หลวงพ่อนิพนธ์ก็ตอบว่า คนป่วยหญิงนี้ อายุก็ยังไม่มาก ในเมื่อท่านบอกว่า ศาสตร์สมุนไพร ช่วยคนได้ ธรรมเปลี่ยนพรหมลิขิตคนได้ แล้วก็อ้างอีกว่า ท่านให้ผมมีหน้าที่ในการหาเสบียง ด้วยขณะนี้มีคนป่วยยาเสพติดมาก อาหารไม่พอเลี้ยง นี่ไงเสบียงผม ถ้าศาสตร์ของท่านดีจริง ช่วยคนนี้ได้จริง ผมจึงจะเชื่อ แม่ชีเมี้ยนจึงให้สูตรสมุนไพรเขียว แล้วมาทำให้คนป่วย พร้อมบอกว่า ถ้ารอดอยู่ถึงเช้า คนนี้ก็รอด หลวงพ่อนิพนธ์ ก็รีบไปเก็บใบยา มาทำให้ คนป่วยทานไม่ได้ ก็ต้องลูบคอ ง้างขากรรไกร กรอกยาลงทีละน้อย ทุกชั่วโมง ในที่สุดคนป่วยท่านนั้นก็รอด แลอยู่มาจนทุกวันนี้ นั่นจึงเป็นความมั่นใจของหลวงพ่อนิพนธ์ในศาสตร์สมุนไพร
แลธรรมของพระภูมี ก็ทำให้คนป่วยยาเสพติดทั้งหลาย เปลี่ยนตนเป็นคนดี จนแม้นจะเจอคดี ส่องสุมผู้คน กระทำตนเป็นคอมมิวนิสต์ ของจอมพลสฤษดิ์ ในเวลาต่อมาก็ตาม ผลของการตรวจประวัติ พระในถ้ำกระบอกขณะนั้น กว่าเจ็ดสิบรูป มีทั้ง เสือร้ายที่ดังที่สุดในยุคนั้น อย่างเสือเอี้ยง มีทั้งนักเลง รวมไปถึงราชนิกูลหลายท่าน ที่ได้เข้ามาบวช จนต้องถอนข้อหานี้ไปในที่สุด
ดังนั้น กว่าจะทำให้คนเชื่อ หลวงพ่อนิพนธ์จึงบอกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องผ่านการพิสูจน์ จากคนมากหลาย แลที่สำคัญ คือ ผลงาน ต้องมีเป็นที่ประจักษ์ให้ยอมรับ อาทิเช่น อเมริกา อังกฤษ ส่งรถโมบาย มาอยู่ที่ถ้ำกระบอก ๒ คัน ในเวลานั้น พร้อมคนป่วยยาเสพติด ชุดละ สามสิบคน สองชุด ผ่านการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ทั้งก่อนและหลังการบำบัด ในที่สุดก็ยอมรับ และให้การสนับสนุนกิจกรรมของถ้ำกระบอก ในเวลาต่อมา
แต่เราสงสัยว่า สิ่งที่ผ่านการพิสูจน์นี้ คนบางคนยังคลางแคลง ลังเล ตั้งข้อรังเกียจ ทั้งที่กระบวนการทำ และวัตถุดิบ ล้วนเห็นด้วยตาตน ว่า เป็นของธรรมชาติทั้งสิ้น แลก็เห็นผลที่เกิดกับคนมากหลาย ก็ยังยากทำใจยอมรับ
ในขณะที่ เวลาไปใช้วิธีอื่นๆ ที่ตนชอบ ไม่เคยรู้เลยว่า สิ่งที่เขาเอามาให้ทาน นั้นมาจากอะไรบ้าง มีของที่เป็นอันตรายแก่ตนหรือไม่อย่างไร รู้แต่ว่า เขามีปริญญา เขาน่าเชื่อถือ แต่ไม่คำนึงว่า "เขาไม่ใช่คนทำยา แลคนทำยาก็ไม่ใช่คนรักษา" หลวงพ่อนิพนธ์ จึงมักชี้ให้พิจารณาว่า แล้วมันจะเหมาะกับแต่ละบุคคลได้โดยวิธีใด จึงไม่แปลก ที่จะเกิดสภาวะที่เรียกว่า ร่างกายได้รับยาน้อยไป ไม่พอสู้โรค หรือมากไป จนเกิดอันตราย เป็นธรรมดา
อุปมาทางโลก เอาเงินไปฝากกองทุน กองทุนเป็นใคร ก็ไม่รู้ ไม่เคยบอกเลยว่า ใครคนไหน กลุ่มไหน เป็นผู้บริหาร มีประวัติน่าเชื่อถือหรือไม่ ล้มบนฟูกมาหรือเปล่า แค่พะยี่ห้อ แล้วก็บอกว่าผลตอบแทนสูง กระโดดเข้าไปแล้ว
ฟังหมอดีๆ พูดบ้าง "คอเลสเตอรอลจำเป็นต่อร่างกายมาก ยิ่งมากยิ่งดี บริษัทยามีอิทธิพลต่อการกำหนดค่าคลอเลสเตอรอล ว่าต้องไม่เกินเท่าไหร่" น.พ.ดำรงค์ เชี่ยวศิลป์
"คลอเลสเตอรอลไม่ใช่สาเหตุการอุดตันในเส้นเลือดหัวใจ"
Dr.Dwight Lundell ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดหัวใจและหลอดเลือด เคยผ่าตัดหัวใจมากว่า ห้าพ้นรายในสหรัฐ
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์ ชี้ว่า พระภูมีสอนให้เป็นปราชญ์ เชื่อในเหตุและผล พิจารณาผลแล้วจึงเชื่อ เชื่อแล้วทำ แล้วนำผลที่เกิดกับตน คือ ผลถูก ไปสอนผู้อื่น ไม่ใช่ เล่ากันมา บอกกันมา แล้วบอกต่อ หลวงพ่อนิพนธ์ให้สติสงฆ์เสมอว่า สิ่งที่บอก คนเขาเชื่อแล้วไปทำตาม ถ้าบอกถูก ก็เป็นบุญมหาศาล ถ้าบอกผิด ก็กรรมมหาศาลเช่นกัน
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวเสมอ ศาสตร์ของท่านไม่ได้มาให้เชื่อ แต่เสนอตัวมาให้พิสูจน์ ถ้าทำแล้วดี ก็ทำต่อไป ถ้าไม่ดี ก็ทิ้งเสีย
แต่ชี้ให้คิดว่า แค่จุดเริ่มที่มาของสิ่งต่างๆ ศาสตร์ของแม่ชีเมี้ยน เริ่มที่การให้ ไม่หวังผลตอบแทน ... แต่ศาสตร์ของมนุษย์ เริ่มด้วยความโลภ จึงไม่แปลก ที่ตำราหมอ ที่หมอบางท่านกล่าว ยุคผมเรียน ความดันโน่น ร้อยสี่ห้าสิบ ผ่านมามันก็ลดเหลือ ร้อยยี่สิบ ตอนนี้มันบอกร้อยสิบ ก็สูงแล้ว มันเปลี่ยนเพราะอะไร คนหรือ
คนมากหลายรู้ตำราพระพุทธเจ้า กาลามสูตร ให้พิจารณาในการเชื่อ แต่รู้ไปก็เท่านั้น เพราะรู้แล้วไม่นำมาทำ จึงช่วยตนไม่ได้ กรรมมันจึงบังตา บังใจได้ เห็นดอกบัวเป็นกงจักร ส่วนกงจักรที่เข้าไปใกล้แล้ว ตัดโน่นนี่ขาดหมด กลับชอบ
จำไว้น่ะ หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ สังขารนี้ เราท่านยืมเขามา ตอนยืม ครบ สามสิบสอง ตอนคืนเล่า .... รุ่งหริ่ง แล้วยามจะยืมใหม่ มันจะได้แบบไหน ... ถ้าคุณเป็นคนให้ยืมช่วยตอบหน่อย