ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2561
ไม่เชื่อหรือ
ศาสน์ชี้ความจริงของมนุษย์ให้เห็นว่า "ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว" นั่่นหมายความ พฤติกรรมที่แสดงย่อมสื่อถึงสิ่งที่ใจตนคิด นั่นเอง
หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า พระพุทธเจ้าตรัสรู้เรื่อง "กรรมอุปาทาน" อันหมายถึง ทุกสรรพสิ่งย่อมเป็นไปตามกรรม หรือ ตัวกระทำที่ตนทำมาทั้งสิ้น
แลผลกรรม หรือ ตัวกระทำ ที่ทำไว้แล้ว กลายเป็นพรหมลิขิต ให้เราท่านทั้งหลายต้องรับ ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือ กรรมชั่ว ปฏิเสธสักฉันใด ฤาใครจะมาแย่งมาทำลาย ไม่ได้เลย
ถ้าไปถามคนทั้งหลาย ว่ารู้ไหม เคยได้ยินไหม ทุกคนก็บอกรู้ ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าที่ไหนๆ ไปไหน ในแผ่นดินไทย ก็ได้ยินได้ฟังสิ่งเหล่านี้
แต่ประเด็นคือ "แล้วเชื่อไหม"
ก็หากดูตามพฤติกรรม คนทั้งหลายทั้งปวงแล้ว แม้นความจริงจะปรากฎ ดั่งที่แม่ชีเมี้ยนทรงตรัส นั่นคือ "มนุษย์มีกรรม กันทุกทาง" หากแต่คนทั้งหลายทั้งปวง กลับไม่ตื่่นตัว เกรงกลัว หนี้กรรม ของตนที่สร้างกันมากมายมหาศาลอันนี้เลย พูดง่ายๆ คือ "ไม่เชื่อในเรื่องกรรม" นั่นเอง
แล้วเชื่ออะไร ก็วิทยาศาสตร์ เชื่อสติปัญญาแห่งตน เชื่อความคิดตน ว่าสามารถทำได้ทุกอย่าง แก้ไขได้ทุกสิ่ง แสวงหานำมาซึ่งความสุขใส่ตนได้ เป็นโรคก็มียารักษาโรค อยากได้สิ่งใด ก็หามา ไม่ว่าจะฉ้อฉล ชิงเขามา ปล้นเขามา ฤาจะสุจริตก็ตามที
เราจึงไม่แปลกใจเลย เมื่อพิจารณาถึงในยุคที่ยังคงมีพระพุทธเจ้า แม้นดูว่า สาวกเรือนแสน จะเป็นจำนวนที่มาก แต่เมื่อเทียบกับคนทั้งอินเดีย นั้น น้อยกว่าน้อย ยิ่งถ้าเทียบกับคนทั้งโลก ไม่รู้เป็นเศษเสี้ยวสักเท่าใด ทั้งๆที่คนทั้งหลายทุกคนพูดอยากมีสุข แลธรรมคำสอนก็สร้างสุข คนส่วนใหญ่ก็กล่าวกันว่า "ธรรมของพระโคดมนั้นดีนักหนา แต่ไม่เอา"
หากแต่วันนี้ เราท่านที่กรรมมาถึง บันดาลทุกข์คือ โรค แลผ่านกลวิธีที่ตนคิดว่าจะช่วยตนได้ มาเนิ่นนาน สัจจธรรมความจริงก็ปรากฎว่า ไม่มีสิ่งใดที่ช่วยตนได้ วันนี้โรคร้ายของตน ยิ่งมายิ่งโตใหญ่ แลดูท่าจะมาเอาถึงชีวิตตนแล้ว
ความคิดก็ยังไม่เปลี่ยน คือ หวังจะมาเอายาสมุนไพร ไปช่วยตน ยาดีต้องช่วยตนได้
หากแต่ความจริง พระพุทธเจ้าชี้ให้เห็น ว่านั่นเป็นหนี้กรรม แล้วการมานั่งเฉยๆ จะหมดหนี้ได้โดยวิธีใด แถมยิ่งไปกว่านั้น ยังสร้างหนี้ใหม่ตลอดเวลา
แม่ชีเมี้ยนจึงชี้ชัดว่า หนี้ที่เกิด เหตุมาจากนิสัย ทำไมไม่เอาวินัยธรรมของพระพุทธเจ้า มาหยุด มาลด มาตัดทอน ลงเสียบ้างเป็นบางสิ่งบางอย่าง ที่สร้างกรรม สร้างหนี้ มากจนเกินไป ทำให้พรหมลิขิตแห่งตน หักกลางบ้างเสียเล่า แล้วใช้หนี้เก่า ยอมรับ ด้วยขันติ อดทน เพราะนั่นเราท่านทำไว้แล้ว
บทสรุป คนทั้งหลาย กรรมชั่วยังไม่อุบัติ เขาย่อมเพลิดเพลินเจริญใจ กับรูปงาม น้ำใส เป็นธรรมดา แต่เราท่านวันนี้ ทำไมยังประมาทเช่นนั้นเล่า ยังไม่เชื่ออีกหรือ ว่าสิ่งที่ปรากฎในวันนี้ คือ "กรรม" ที่เราทำมา ก็คนทั้งโลก สถิติก็ชี้ชัด ถ้าวิถีทางโลกช่วยได้ การตายด้วยโรค ที่เพิ่มขึ้นทุกปี มันบอกอะไร คนที่จะหายจากโรคตายได้ ด้วยทำแบบเดียวกับคนทั้งโลกทำกัน มันจะจบต่างกันได้โดยวิธีใด นั่นเขาไม่เชื่อกรรม ก็ถ้าเชื่อกรรม ก็ต้องเชื่อว่า เราทำไว้แล้ว หนี้อันนี้จะหมด ต้องเดินตามผู้ที่เคยชนะ เคยทำให้หมดมาก่อน นั่นคือ พระพุทธเจ้า มิใช่หรือ แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า ศาสนา คือ "เราทำ" ตัวกระทำ ต้องทำด้วยมือ นี่มาเจอศาสนา เจอกรรมบันดาลทุกข์ คือ เป็นโรค แล้วจะหายด้วยมือซุกกระเป๋า รอยาสมุนไพร... ตกลง เชื่อใคร เดินตามใคร
หลักปราชญ์ ไม่ต้องรอก็รู้ผลแพ้ชนะ ตั้งแต่เริ่มแล้ว ด้วยพุทธองค์ชี้ชัด "ให้สุขแก่ท่าน สุขนั้นถึงตัว ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นก็ถึงตัว" จะมาสุข มาหายโรค หลวงพ่อนิพนธ์จึงบอกง่ายนิดเดียว "ใจสั่งมือทำ ให้สุขแก่ผู้อื่นเป็นอุปนิสัย" โรคอะไรก็ไม่เหลือ นี่มาอะไรกันเล่า เวลาเขาด่ากันกระโดดเข้าร่วมวงไมลังเล แต่จะปลอกมะพร้าวสักลูก มะกรูดสักผล ไว้ทำสมุนไพรเพื่อช่วยคน ต้องอ้อนวอนแล้ว อ้อนวอนอีก กรรมอะไรของคนไทยเล่า
โรคไม่น่ากลัวเลย นิสัยของคนต่างหากที่น่ากลัว เขาจะมาเอาแต่ถ่ายเดียว ไม่ยอมเปลี่ยน ไม่ยอมลดพฤติกรรมของตนเลย แม้นแต่น้อยเดียว ไม่เดินตามรอยพระภูมี แล้วจะไปกันอย่างไรเล่า จะเอาผลบุญผลทานที่ไหน ไปใช้หนี้กรรม จะทานสมุนไพรสักฉันใด ก็มีแต่พอกพูนหนี้แก่ตน ด้วยไม่มีหยาดเหงื่อแห่งตนแม้นแต่น้อยเดียว เจือปนในสมุนไพรนั้นเลย ก็ไม่ว่าไร เพราะเขาไม่เชื่อนั่นเอง เขาจึงทำตนเป็นชูชก จะชี้ช่องพระเวสสันดรให้ช่วยตนสักฉันใด กายเขาก็ไม่ขยับ เพราะใจเขาไม่สั่งนั่นเอง
เราได้ยินคนสองคน คนหนึ่งบอกทานมาตั๊งนานแล้ว ยังไม่หายสักที เดี๋ยวต้องรีบไปก่อน มาเพื่อซื้อของถูกในตลาดข้างหน้า รู้หมด อะไรถูก ในขณะที่อีกคน บอกว่า ฉันมาเป็นจิตอาสาในโรงยาหลายปีแล้วสบายใจ เพราะตอนนี้ กว่าสามปีแล้วที่ฉันไม่เคยไปหาหมอ ไม่ต้องทานยาหมอ ไม่ง้้นตั้งแต่เล็ก จนโต หาหมอตลอด ... สองคนนี้ ใครเชื่อ ... แลเขาเชื่อใคร
ฝรั่งเขาไม่เชื่อกรรม แล้วมีฝรั่งคนไหนที่เป็นโรคตายแล้วหายโรค ไม่มีเลย มีแต่จะหายไปจากโลก