วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561

จบแค่รู้


สิ่งประการสำคัญที่หลวงพ่อนิพนธ์มักจะเน้นย้ำ คือ "ไม่เชื่อหรือว่ากรรมมันมีอำนาจ ไม่เชื่อหรือว่ากรรมมีจริง"

คนทั้งหลายมักมุ่งหวังอยากจะรู้เรื่องของศาสนา ยิ่งรู้มากก็ยิ่งเชื่อว่าตนนั้นเข้าใกล้มาก แลจะเป็นคนดีได้

หากแต่ความเป็นจริง หากความรู้นั้น มีไว้แต่เพียงเพื่อพูด เพื่อแสดงภูมิรู้ เพื่อข่มผู้อื่นว่าฉันรู้มากกว่า ความรู้ที่มีนั้นก็ไร้ค่า ด้วยไม่ได้ถูกนำมาปฏิบัติ พัฒนาจิตวิญญาณของตนให้สูงเลยแม้นแต่น้อย

ยิ่งไปกว่านั้น หลวงพ่อนิพนธ์ ชี้ให้พิจารณาเสมอ คำของศาสนา ฟังง่าย เข้าใจได้ ทำได้เลย ที่สำคัญ ขอเพียงจับจุดใดจุดหนึ่ง ที่ตนพอทำได้ มาเริ่มต้นทำ ก็ยังผลแก่ตนแล้ว

ไม่จำเป็นเลยที่ต้องเหมือนคนอื่น เพราะธรรมของพระภูมีที่พระโคดมทิ้งไว้ให้ มีถึงแปดหมื่นกว่าพระธรรมขันธ์ ตรงไหนทำได้ ก็หยิบมาทำ

เป้าหมายก็คือ "ให้สุขแก่ผู้อื่น" เมื่อทำแล้วสุขนั้นจะย้อนคืนมายังตน คงไม่ต่างกับทุกข์ที่เกิดในวันนี้ ก็ย่อมด้วยเราท่านสร้างไว้แล้วในอดีตนั่นเอง

ถามใครก็บอกว่ารู้ แต่มันก็จบตรงที่รู้ มองไปหาคนทำมีน้อยนิด คนที่เชื่อแล้วทำตามเพื่อยังผล นั้นน้อยยิ่ง ส่วนใหญ่ก็เชื่อกรรม เชื่อนิสัยตน เชื่อความคิดตน แล้วก็วางตนนิ่งเสีย อันต่างกันยิ่ง เมื่อจะทำกรรม เขาด่ากัน เห็นเขาด่า ก็ร่วมวงกันไปไม่รอช้า ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ หยุดไม่อยู่

จึงไม่แปลก ที่หลายคน มานอนรอ นั่งรอ คุยรอ แล้วก็หวังสมุนไพรช่วยให้หายโรค ทั้งที่ความจริงก็ปรากฎ ต้องให้ก่อน ผลจึงเกิด ให้ทุกข์เขาก่อน ทุกข์ก็มาเกิดในวันนี้ แล้วครั้นเวลาอยากหายโรค ย้อนซะงั้น ต้องให้ฉันหายก่อน แล้วฉันจะมาทำโน่นนี่นั่น มันจะเป็นไปได้หรือ

ก็เห็นอยู่ต้นยา ที่จะนำไปให้สุขแก่ผู้อื่น เห็นมีหญ้าจะคว้าดึงออก ก็เฉยเสีย เห็นอยู่คนเดินไม่สะดวก คนแก่ ก็ทำไม่เห็น เดินเบียดเสียด จะรีบไป ตาที่หยอด จะเมียงมอง คนไหนจะล้ม คนไหนจะลุก เราแข็งแรงกว่าจะได้ช่วย ก็เมินเฉย เร่งรีบเอาแต่ตน แล้วจะหยอดตาให้ตาดีไปเพื่ออะไร

ไม่ได้ด่า ไม่ได้ว่า เพียงแต่ชี้ให้เห็นว่า ทำไมการเดินไปให้หายโรค ที่ควรจะง่ายดาย กลับกลายเป็นเรื่องยาก เพราะอย่างที่ท่านอาสิชี้ พระพุทธเจ้าทำรอยให้ดู คือ เห็นสุขของผู้อื่นก่อนสุขของตน จึงพ้นทุกข์ แต่เราจะมาพ้นทุกข์ เดินสวนรอยซะงั้น โรคมันเลยตึ๊งหนืด หายยาก หายเย็น หรือไม่หาย

บทสรุป ความรู้ที่มากมายของศาสนา รู้ไปก็เท่านั้น ถ้าไม่ทำ ก็ช่วยตนไม่ได้ แลอย่าไปหลงตำราพราหมณ์ เอาแต่สรรเสริญคุณ พระพุทธดีอย่างงั้น พระพุทธดีอย่างนี้ แต่ควรเดินตามรอย ทำเท่าที่ความรู้แลกำลังเรามี ก็เพียงพอให้หายโรคได้ไม่ยากนัก แค่ตอบคำถามเดียว สิ่งที่ทำให้ทุกข์หรือสุขแก่ผู้อื่น เพราะนั่นคือผลตัวกระทำที่รอเราอยู่วันข้างหน้า

ถ้าเราเฉยกับการให้สุขผู้อื่น ความปรารถนาของเราก็คงเฉย ไม่มีวันเป็นจริงแน่แท้ จะรอให้ใครช่วย พระพุทธจะเมตตาสักฉันใด ท่านอาสิก็ชี้ ช่วยใครไม่ได้ ได้แต่สอน แล้วเอาไปทำเพื่อช่วยตน

รู้แค่เอากายไปรดน้ำพรวนดินต้นมะกรูด เพื่อผลจะได้นำไปให้สุขแก่ผู้อื่น แล้วทำ มันจึงดีกว่ารู้ นักธรรม มากหลายนัก รู้กตัญญูพ่อแม่ ดีกว่าสร้างโบสถ์ ศาลา มหาศาล แต่รู้แล้วไม่ทำ จบแค่รู้ ... สุขที่หวัง เป็นแค่ดั่งความฝัน ที่ไม่อาจเป็นจริง

ก็ทำไมเราจึงรู้แล้วไม่ทำ นั่นแลกรรม อะไรที่เป็นดอกบัว มันจึงหลอกล่อให้เห็นเป็นกงจักร เมื่อไม่พิจารณา ไม่รู้ทัน ก็จึงเฉย ตกอยู่ในวังวนของกรรม ช่วยตนไม่ได้

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44