วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561

เพื่อน


คนเราตลอดชีวิต เจอะเจอเพื่อนมากมาย แล้วก็ทุ่มเทชีวิตไปให้เพื่อน ตามแบบที่ตนชอบ

หลายคนอาจมีความสุขเพลิดเพลินไปกับเพื่อนเหล่านั้น และที่สำคัญคือคิดว่า ชีวิตตนจะเป็นเช่นนั้นตลอด

วันเวลาผ่าน ความจริงที่ศาสนาชี้ให้พิจารณา แต่เราท่านไม่เคยคิด นั่นคือเมื่อเวลาเจ็บ เวลาตาย เหลียวซ้ายแลขวา เพื่อนกายอาจพอมี แต่เพื่อนใจ หามีใครไม่

หลวงพ่อนิพนธ์ ให้สติสงฆ์ของท่าน ถึงเหตุที่ทำไมต้องมาหา มาพึ่งศาสนา ก็เพราะ ยามเจ็บยามตาย ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องโดดเดี่ยว เฉพาะตน จะหาใครมาเจ็บ าตายแทนไม่ได้เลยนั่นเอง

ก็แล้วตอนนี้เราท่านทำอะไรให้เพื่อนเจ็บเพื่อนตาย ให้มีความหมายบ้างเล่า ไม่มีเลย ท่านอาสิจะชี้สักฉันใด ก็อ้างความเห็นความจำเป็น บังหน้า ... เอาไว้ก่อน ไม่อยากฟัง ไม่อยากทำ ขอทานแต่สมุนไพร พอแล้ว

แล้วก็เอาเวลา ความคิด จิตใจ ไปให้เพื่อนกาย เพื่อนกิน เพื่อนนอน หาเงิน หาร้านอร่อยทาน หาสถานที่รื่นเริงบันเทิงใจ เอาแต่ที่ใจตนชอบ

พฤติกรรมเยี่ยงนี้ ไม่ใช่มีมาในวันนี้ อดีตก็มีผู้ทำ จนถ้ำกระบอกล่มสลาย ด้วยทุกคนเอาแต่ตามความอยากตน ไม่สนธรรมของพระภูมี

ภาพสะท้อนเห็นชัด คนรับสมุนไพรเป็นพัน แต่คนจะไปรับธรรมมาปฏิบัติ มีสิบกว่าคน ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย

หากแต่ใจเขาใจเรา น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะยังคงอยู่เพื่อคนส่วนใหญ่ ที่เอาแต่สมุนไพรไปฟื้นฟูตน แล้วบรรเลงนิสัยตน ได้นานสักเพียงใด มองแล้วน่าหดหู่ นี่แหละคนไทยไม่เอาศาสนา

หวนนึกถึงคำของหลวงพ่อนิพนธ์ก่อนลาสังขาร แม้นเจ็บสักฉันใด ก็อยากทำยาตาแจกในวันงานรำลึกคุณแม่ชีเมี้ยน แต่ทำแล้วยากลับเละเป็นโคลน เสียซะงั้น แล้วรำพึงว่า “เราทำยามานับพันครั้ง ไม่เคยเสีย แทบจะเรียกว่าหลับตาทำก็ยังทำได้ ครั้งนี้มาเสียผล ด้วยเขาไม่ให้เราทำไปให้คนที่ไม่รู้ค่า

กระนั้น หลวงพ่อนิพนธ์ก็ยังร้องขอให้โอกาสคนไทยอีกครั้ง จึงเป็นคำขาดที่หลวงพ่อนิพนธ์สั่งเสียว่า”หนทางบุญทั้งหลายนั้นจบสิ้นแล้ว เหลือเชือกเส้นเดียวที่แม่ชีเมี้ยนให้ใช้สร้างบุญ นั่นคือทำนิสัย” แล้วก็ทำยาตาอีกครั้ง นั่นคือครั้งสุดท้าย พร้อมนำคำของแม่ชีเมี้ยน มาบอกต่อในวันงานปีนั้น

บทสรุป เราท่านทั้งหลาย จะเห็นในความเมตตาของหลวงพ่อนิพนธ์ ที่พยายามยื้อสิ่งนี้ไว้ในแผ่นดินไทยจนนาทีสุดท้าย แม้นจะเหลือช่องเล็กๆ ก็ตามที ไว้ให้เราท่านได้ทำเป็นเพื่อนเจ็บเพื่อนตาย อันทำแล้วมีความหมาย ต่อวิญญาณ ให้พ้นเจ็บและตายดี มีนิสัยพระภูมีติดวิญญาณตนไปในวันข้างหน้า

ฤาเราท่าน จะทำให้ล่มสลายเหมือนถ้ำกระบอก

หลวงพ่อนิพนธ์ ให้สติเสมอว่า “หากธรรมของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา ช่วยท่านไม่ได้ ก็อย่าหวังเลยว่า จะมีที่ไหน ยาอะไรช่วยท่านได้"

เห็นคนตื่นเต้น เตรียมตัว ตื่นตัว กับแค่ละครดัง ตาลุกวาว แต่กับสินัยของพระภูมี นั่งหน้าเศร้า คิ้วขมวด อมทุกข์ นี่แลกงจักร มันเป็นดอกบัว ดอกบัวมันถูกเห็นเป็นกงจักร แต่ครั้นพอเจ็บ ไม่ร้องให้ละครช่วย กลับมาร้องพระภูมีช่วยด้วย เมื่อไม่ทำ เขาก็เมินไม่ว่าจะร้องสักฉันใด ก็เพราะหลักของเขา คือ “ทำเอง” แล้วไยวันนี้ จึงทุ่มเททุ่มใจให้กับเพื่อนกาย เพื่อนกิน แล้วทิ้งเพื่อนเจ็บเพื่อนตาย

ครั้นจะรอจนกายเจ็บ จะตาย อยากทำ ก็หมดสภาพทำไม่ได้แล้ว

ถ้าเราเป็นท่านอาสิ คงไม่รอให้ศาสนาฉิบหายก่อน ไม่เห็นแก่พันแต่ควรเห็นแก่คนสิบ มานั่งตำยางกๆให้คนสิบเสียดีกว่า ทิ้งคนพันที่ทิ้งวินัย ไม่ยอมทำเพื่อช่วยตน มาช่วยคนสิบที่ไม่สนหรอกว่าเป็นโรคอะไร หนักแค่ไหน ที่อยากเป็นคนดีตามคำสอนของพระภูมี ช่วยแล้ว รอดแน่ แลศาสนาก็ได้คนดี

ถามใจตน หากมีลูกที่ไม่คิดจะเป็นคนดี ท่านจะฟูมฟักสนับสนุนเขาหรือไม่ ฉันใดก็ฉันนั้น หรือควรทุ่มเทส่งเสริม แล้ววันหนึ่งลูกก็ทิ้งท่านให้นอนข้างถนน ยามท่านหมดคุณค่า ยกสมบัติให้หมดแล้ว

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44