จิตอาสาท่านหนึ่งถามว่า มีคนไข้มะเร็งถ่ายรูปมาให้ดูว่า เหตุที่เขาไม่มามูลนิธิอีก เพราะไปเจอพระรูปหนึ่งทำยาสมุนไพรแก้มะเร็งให้ และทำพิธีต่อชะตาให้
ตอนนี้เขามีอาการดีขึ้น และก็แจ้งว่าคงไม่ได้มาที่นี่แล้ว
จิตอาสาถามว่า คิดเห็นอย่างไร
เราจึงตอบเขาไปว่า ทุกสถานที่ที่คนทุกข์แห่ไปหาในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะทุกข์ด้วยอะไร สถานที่นั้นมักจะบอกเสมอว่าช่วยได้ แก้ได้ แต่เราชี้ให้เห็นว่า สถานที่นี้ นับแต่บูรพาจารย์ แม่ชีเมี้ยน มาหลวงพ่อนิพนธ์ จนถึงยุคท่านอาสิ จะบอกเสมอว่า ช่วยใครไม่ได้เลย
สิ่งที่แม่ชีเมี้ยนนำมา คือศาสน์ของพระภูมีนั้น ใครทำได้ คนนั้นช่วยตนได้
จึงไม่แปลกที่บทสรุปของทางเลือก ที่ที่บอกช่วยได้ เดินมาหามกลับ แต่สถานที่นี้ มีแต่สอนให้ช่วยตน จากหามมาแล้วเดินกลับ
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้พิจารณาง่ายๆ ก็ถ้าสิ่งที่ว่านั้นช่วยได้ ช่วยให้หายโรคได้ ช่วยต่อชะตาได้ ช่วยให้พ้นทุกข์ได้ .... ท่านยังรู้เลย คนที่มีอำนาจ มีเงิน เขาจะไม่รู้หรือ ถ้าทำได้จริง คิวของท่านก็คงไม่มีวันถึงอย่างแน่นอน
ถ้ามีหมอรักษามะเร็งได้ สมมุติในประเทศไทย ลองคิดสิว่า สตีฟ จอบส์ เจ้าของบริษัทแอปเปิล ที่เป็นมะเร็งจะทำอย่างไร
ถ้าต่อชะตาได้ ท่านคิดว่า คนที่รวยติดอันดับโลก กำลังจะเสียพ่อไป เขาจะทำอย่างไร
นี่แหละหลวงพ่อนิพนธ์ จึงบอกว่า มันถูกจริตมนุษย์ กรรมมันส่งเสริม ดึงให้ไกลศาสนา รู้อีกทีก็หาทางกลับไม่ได้แล้ว
ทำไมหรือ ก็มันอายไง
นี่แหละบทจบของคนมากมาย ไม่ใช่รายแรก ไม่ว่าเศรษฐีระดับประเทศ เพื่อนบอก นี่เลยอาจารย์ของอาจารย์หมอบอกคีโมเข็มละล้าน ครบคอร์ส 30 เข็มหายแน่นอน แล้วก็ตายคาเข็มที่ 30 ก็เห็นมาแล้ว
หรือจะแบบด่วน ยาวิเศษ 3 หยด ใส่น้ำกินหายขาด แล้วคนเก็บใบยาท่านหนึ่งก็บอกขอลาไม่มาเก็บ จะไปเอา แล้วก็หายไปพักใหญ่ โทรมาบอก นอนโรงพยาบาล ทานไปแล้วกัดไส้ขาด
พระพุทธเจ้าท่านลองมาหมดแล้ว ท่านจึงตรัสสอน หลักตนพึ่งตน
ไม่ห้ามหรอก จะเลือกทางไหนก็ตามแต่ ไม่ว่ากัน แต่พิจารณา คำหลวงพ่อนิพนธ์ ถ้าพระพุทธสอนผิด ท่านไปนิพพานไม่ได้หรอก
ที่นี่จึงบอกเสมอ ใครก็ช่วยใครไม่ได้ นอกจากตนของตน หวังพึ่งผู้อื่น ไม่มีทางสำเร็จสมดังหวังอย่าว่าแต่หายโรคเลย แค่โรคกระเพาะก็จนปัญญาแล้ว
ไม่มีปัญญาของคนใดในโลก ที่เอาชนะกรรมได้แน่นอน
หลักนี้จึงเรียกหลักปราชญ์ คนที่เรียนและรู้ ฟังแล้วบอกที่โน่นที่นั่น คนนี้คนนั้นช่วยได้ หางตายังไม่แลให้เสียตาเลย มีแต่คนโง่ที่หลงเป็นเหยื่อ เอาความอยากมาล่อเท่านั้นเอง