วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

มองข้ามโรค แล้วให้มองไปไหน


สิ่งหนึ่งที่คนไข้หลายท่านเมื่อมาที่นี่ แล้วเหลียวซ้ายแลขวา รอจนอดรนทนไม่ไหว ต้องถามเจ้าหน้าที่ว่า หมอจะมากี่โมง จะได้ตรวจตอนไหน ยิ่งเห็นคนจำนวนมากด้วยแล้ว ก็วิตกว่า หมอจะตรวจทันหรือ

หลักของพระภูมี คือหลักตนพึ่งตน สิ่งที่มองหาจึงไม่มี เพราะไม่มีหมอที่ไหนมาช่วยตนของเราท่านได้ นอกจากตัวของเราท่านเอง สมุนไพรจึงเป็นเพียงวัตถุดิบ ดุจดั่งอาหาร เพียงแต่ทำหน้าที่ต่างกัน นั่นคือ ใช้ในการฟื้นฟูร่างกาย และที่ต่างจากอาหาร นั่นคือ การทาน การทำ การได้มา ต้องเป็นไปตามบัญญัติของฟ้าดิน ด้วยเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติ

บัญญัติที่ว่านี้ จัดเป็นธรรมหมวดหนึ่งของพระภูมี ที่ทรงตรัสรู้ และทิ้งไว้ให้ ประเด็นที่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็น ความสำคัญของสมุนไพร มีไว้ทำไม เพราะโลกนี้แม้นไม่มีสมุนไพร ไม่มียารักษาโรค มนุษย์ก็มีพรหมลิขิต ดูแลปกป้องตัวเองอยู่แล้ว นั่นหมายถึง ทุกผู้ทุกนามล้วนดำรงตนอยู่ได้ โดยไม่ต้องพึ่งศาสนา

แต่ก็มีมนุษย์จำพวกหนึ่ง แม้นยังไม่เบื่อโลก หากแต่ก็เบื่อ ไม่อยากเจ็บ นี่แหละคือความสำคัญ ของสมุนไพร

เพราะเมื่อมนุษย์สร้างกรรม กรรมก็ให้ทุกข์ เมื่อมนุษย์อยากจะพ้นกรรม หรือมีสุข หลวงพ่อนิพนธ์วงเล็บว่า สุขในที่นี้คือสุขของวิญญาณ นั่นจึงต้องพึ่งธรรมคำสอนของพระภูมี เพียงอย่างเดียว จึงจักประสพความสำเร็จ

สัจจะธรรมที่หลวงพ่อนิพนธ์กล่าว คนเราไม่ซึ้งในเรื่องของกรรม ตราบใดที่ยังไม่รู้รส นั่นคือ ยากปกติก็เริงร่า ทำในสิ่งต่างๆ ตามนิสัยสันดานของตน ปล่อยไปตามกิเลสความชอบของตน ปฏิเสธที่จะรับรู้เรื่องกรรม จนวันหนึ่งเมื่อกรรมมันอุบัติเป็นรูปธรรม นั่นคือ โรค ความเจ็บบังเกิด ก็ดิ้นรนแสวงหาหนทางให้พ้นกรรมอันนั้น ยิ่งดิ้นก็ยิ่งพัน เหมือนลิงแก้แห สุดท้ายก็รู้ว่าไม่มีอะไรช่วยตนของตนได้เลย ไม่ว่าเงินทอง เกียรติยศ ลาภ สรรเสริญ ที่แสวงหามาตลอดชีวิต เมื่อนั้นแลก็จะหวนมาหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

แลหนึ่งเดียวที่ปรากฎรูปธรรมในการเอาชนะกรรม ก็คือ พระพุทธเจ้า ที่ทรงใช้ธรรม ให้ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับว่า สามารถเอาชนะกรรมได้จริง และยิ่งไปกว่านั้น หนีกรรมไปนิพพานได้

โจทย์ใหญ่ในเรื่องของศาสนา หลวงพ่อนิพนธ์จึงจำกัดความว่า เป็นเรื่องสุขของวิญญาณ นั่นจึงเป็นเหตุที่ว่า ทำไมให้มองข้ามโรคไป เพราะนั่นเป็นเรื่องของสังขาร เป็นเพียงบริวารกรรม ให้มองเลยไป คือต้นกำเนิด นั่นคือ กรรม อันหมายถึงนิสัยของเราท่านนั่นเอง

การมาหาแม่ชีเมี้ยน หาพระพุทธเจ้า มายังสถานที่นี้ เป้าหมายที่แท้จริง จึงมาเพื่อหาสุขของวิญญาณ มิเพียงชาตินี้ แต่ยังมุ่งไปยังชาติต่อๆ ไปอีกด้วย

ดังนั้น เมื่อต้นเหตุอยู่ที่นิสัย สันดาน ความคิด สิ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์ใช้เป็นเครื่องมือ ในการช่วยเราท่าน จึงเป็นองค์ความรู้ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนิสัย เป็นบางสิ่งบางอย่าง ตามบัญญัติของพระภูมี อุปมาเหมือนเปลี่ยนกระแสน้ำที่ไหลผ่าน จากกระแสกรรม เป็นกระแสธรรม

นั่นคือ สร้างนิสัยธรรม ให้เป็นน้ำดี เมื่อไหลมายังเราท่าน ช้าเร็ว สิ่งสกปรกที่มี ก็ต้องหมดไป โรคมันจะมาเหลืออะไร

ปัญหาที่พระภูมีเล็งเห็น นั่นก็คือ เราท่านจะทำนิสัยธรรมได้อย่างไร ในขณะที่ความเจ็บ ความปวด ความทรมาน มันเกาะติดตัวอยู่ทุกนาที นี่แหละจึงมีบัญญัติสมุนไพร มาเพื่อช่่วยให้เราท่านได้มีโอกาส มีวันเวลา ในการสร้างนิสัยธรรม เป็นน้ำดีมาหล่อเลี้ยง แทนนิสัยเดิม ที่เป็นน้ำคลำ ที่เน่าเหม็นจนวิญญาณทนไม่ไหวทุกข์แสนสาหัสในวันนี้

หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า หลายคนอาจมองโรคเป็นสิ่งเลวร้าย แต่ในทางกลับกัน หากไม่มีโรคที่ร้ายแรงเหล่านี้ เราท่านจะหยุดการกระทำ แล้วค้นหาจนมาพบแม่ชีเมี้ยน พระพุทธเจ้าหรือ และจะได้เริ่มการกระทำที่ถูกให้แก่วิญญาณกระนั้นหรือ

หน้าที่ของสมุนไพร ที่แท้จริง คือ ให้โอกาส ให้วันเวลา ในการประพฤติปฏิบัติ ทำให้เราสงบและมีโอกาสได้ฟังคำสอน มาพิจารณา แล้วเดินตาม

จึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่หลวงพ่อนิพนธ์มักสอนเสมอว่า ผลแห่งความสำเร็จอยู่ที่พฤติกรรม หาใช่อยู่ที่สมุนไพรไม่ ผู้ที่จะบรรลุมรรคผลของธรรมหมวดนี้ บทสรุปหรือทางเดิน มีเพียงสายเดียว นั่นคือ ต้องปรับเปลี่ยนตนของตน เป็นคนดี ตามบัญญัติของพระภูมี เท่านั้น ไม่มีสายอื่นให้เลือกเลย

หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า สุขของวิญญาณ ไม่ได้อยู่ที่การหายโรค หลายคนโชคดีทานสมุนไพรอาจหายจากโรคที่เป็น แต่นั่นก็ไม่ได้การันตีว่า วิญญาณจะปลอดภัย ชีวิตจะปลอดภัย ในเมื่อกรรมยังอยุ่ นิสัยเดิมยังอยู่ เมื่อกรรมก่อให้เกิดโรคตายไม่ได้ ก็ดลบันดาลให้เกิดอุบัติเหตุตายได้ นั่นมันก็ตายเหมือนกัน นี่แหละจึงเรียกว่า หนีไม่พ้น ดั่งภาษิต หนีเสือปะจรเข้

ก็ถ้าหากทานสมุนไพรอย่างเดียวช่วยได้ ไม่ต้องทำอะไรเลย หลวงพ่อนิพนธ์ก็กล่าวว่า ไม่ต้องลำบากเราท่านหรอก นอนกับบ้านเฉยๆ ท่านจะทำสมุนไพรไปส่งให้ถึงกระไดบ้านเลย

ใครอยากรู้ว่ารักษาโรคตนโดยวิธีใด หลวงพ่อนิพนธ์จึงสรุปให้ฟังง่ายๆ นั่นคือ จับตนค้นตน แล้วจะพ้นทุกข์

อันหมายความว่า เมื่อเราสงบ พิจารณานิสัยสร้างกรรมที่ตนมี แล้วคุมนิสัยนั้น โดยเอานิสัยธรรมไปบังคับตน เมื่อทำได้ ผลจากน้ำดีอันนี้แล จะหล่อเลี้ยงชีวิตตนของเรา หาใช่พรที่นั่งขอไม่ ขอให้ตายก็ไม่ได้พรอันนั้นหรอก เพราะพระภูมีบํญญัติ อาตมามีธรรม พรที่โยมขอ จักพึงสำเร็จทุกประการ ก็ด้วยอาศัยธรรมที่สอน นำไปปฏิบัติจนเกิดผล จึงจักได้พรนั้นๆ

การฟังคำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์จึงมีความสำคัญยิ่ง เพราะจะได้ค่อยๆ เรียนรู้ว่า อ้ายสิ่งที่เราท่านทำแล้วว่าดี แต่ผลที่เกิดมันเลวร้าย กลายเป็นโรคเกาะกินตัวอยู่ทุกวันนี้ เพราะเหตุใด แลจักแก้โดยวิธีใด ใช้เหตุและผลที่ฟัง มาเป็นน้ำหนัก จึงจักเกิดสติที่คอยควบคุมตัว ไม่ให้ทำผิดอย่างนั้นอีก

ฝึกไปทีละนิด ทีละหน่อย ทำไปเรื่อยๆ เมื่อสติโตขึ้น หลวงพ่อนิพนธ์ก็กล่าวว่า มันจะกลายเป็นสัญชาติญาน ทำให้เราท่านไม่สร้างกรรมดังเช่นอดีตอีก เมื่อเป็นคนดีของพระภูมีได้เมื่อไหร่ นั่นแลสุขที่แท้จริง คือสุขของวิญญาณรออยู่ แลคนดีเยี่ยงนี้ ในโลกเขาไม่ทำกัน เอกลักษณ์ของคนดีของพระภูมีจึงแตกต่างจากคนทั้งโรค นั่นคือ ได้ลาภอันประเสริฐ อันได้แก่ความไม่มีโรค ... โรคเป็นตัวแทนแห่งบาป ไม่อยู่กับคนดีหรอก

ใครมาที่นี่ มุ่งมั่นมาเอาสมุนไพร หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ช่างน่าเสียดาย เพราะนั่นมันหางกระทิ เป็นของแถมที่แม่ชีเมี้ยน พระภูมีให้อยู่แล้ว แต่หัวกระทิ นั่นคือ นิสัยแห่งบุญ เวลาแห่งบุญ มาเพื่อกอบโกยสิ่งนี้ต่างหาก กลับไม่เอา เสียเวลามาแล้ว กลับไปมือเปล่า ช่างน่าเสียดายนัก

ไม่เรียน ไม่ฟัง จักรู้ได้โดยวิธีใด คำสอนจึงสำคัญด้วยประการฉะนี้ ... ใครบอกตัวเองโชคร้ายที่เป็นโรคแบบนี้แบบนั้น เราว่า โชคดีต่างหาก หาไม่แล้วคงไม่มีโอกาสดีๆ ใกล้พระพุทธศาสนาที่แท้จริงเช่นนี้เป็นแน่แท้ ต้องถูกพวกนอกรีตหลอกไปจนตายยังไม่รู้ตัว

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44