ผลที่ปรากฎ ที่ทำให้คาใจ และบ่อนทำลาย ความมุ่งมั่นของตน ในวันเวลาที่ผ่านมา จึงมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนที่การทานสมุนไพรในช่วงแรกๆ ให้ผลดี อาการดีวัน ดีคืน แต่หลังจากผ่านวัน จนเป็นปี อาการหลายอาการหายไป แต่อาการบางอาการ ก็ยังไม่ยอมจากไปเสียที
จะว่าสมุนไพรไม่ดี แต่พออาการปรากฎ ทานสมุนไพรก็หายไป แต่พอขาดสมุนไพร อาการก็หวนกลับมาอีก
และแม้นแต่ในคนที่โรคหายไป จนเป็นปกติ ลิงโลดใจ กลับไปใช้ชีวิตตามเดิม ผ่านปี สองปี โรคมันกลับมาอีกแล้ว อาจจะเป็นโรคเดิม หรือมีโรคใหม่ ดีไม่ดี โรคเยอะกว่าเดิมอีก
เราเคยฟัง ลูกชายคนไข้ท่านหนึ่ง ที่พ่อเป็นโรคหนักๆ สามสี่โรค คือ มะเร็ง เบาหวาน ... ตอนมาครั้งแรก ก็คิดว่าพ่อไม่รอด เพราะมีความคิดว่า พ่อใช้เวลาในวัยหนุ่มมาอย่างโชกโชน ร่างกายทรุดโทรมมาก แต่หลังจากทานสมุนไพรไปเป็นปี พ่อของเขากลับมาแข็งแรง เสมือนวัยหนุ่ม
หายไปสองปี ลูกชายหิ้วปีกพ่อมาชมรมอีกครั้ง ในสภาพที่แย่กว่าเดิมอีก แล้วเล่าให้ฟังว่า ตลอดสองปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่พ่อแข็งแรงในคราวนั้น พ่อกลับไปใช้ชีวิตเหมือนวัยหนุ่ม เที่ยว กินเหล้า ... ยิ่งกว่าเมื่อครั้งหนุ่มเสียอีก
สิ่งที่ปรากฎ เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่า การมาที่นี่ และวันเวลาที่ผ่านไป สิ่งที่ได้ มีเพียงสมุนไพรเท่านั้น เพราะความคิด จิต เจตนา หยุดที่สมุนไพร ไม่เคยเรียนรู้ พิจารณา ไตร่ตรอง ในรายละเอียด ว่าแก่นแท้ ที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น อยู่ตรงไหน เพื่อเป็นหลักในการดำเนินชีวิต
บทสรุปหลวงพ่อนิพนธ์จึงบอกว่า แพ้ชนะวัดกันที่ใจ
ดังนั้น หากหาคำตอบจากคำพูดนี้ไม่ได้ ย่อมหาความปลอดภัยของชีวิตไม่ได้เช่นกัน จะหวังพึ่งแต่สมุนไพร เป็นไปได้ยาก
คนที่ปรารถนา ในเรื่องของวิญญาณ จึงต้องฟัง ต้องพิจารณา ในสิ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์สอน แล้วหาคำตอบให้เจอ เมื่อเจอแล้วทำตาม ผู้ใดทำได้ ไม่ว่าโรคอะไร ขอเพียงไม่ใช่มาเพื่อดับตามพรหมลิขิต ... ย่อมผ่านได้อย่างแน่นอน
ใจแบบใด จึงเรียกว่า ใจสูง ที่จะพาวิญญาณขึ้นที่สูง แลเมื่อวิญญาณสูง กายจึงจักสูงตาม ดั่งคำ ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว
คิดจะมาทานสมุนไพร ทานเยอะๆ แล้วจะหาย หายแล้วจะกลับไปทำแบบที่ชอบ ... วังวนมันก็จักกลับมาที่เดิม ท้ายที่สุดเสียเวลาเปล่า เพราะยกกายไม่ขึ้น ศาสน์ก็จะเป็นแพะรับบาป แต่ไม่โทษตัวเอง ที่ไม่เรียนรู้ แล้วทำ ... ผลจึงไม่เกิด