ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556
ยอดคุณแม่
พฤหัสที่แล้ว มีจดหมายน้อยฉบับหนึ่งเขียนมาหาหลวงพ่อนิพนธ์ เพื่อให้อ่านให้เพื่อนสมาชิกฟัง
เป็นจดหมายจาก คนไข้หญิงท่านหนึ่งที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม
เธอเขียนเล่าประวัติ ว่าเป็นคน อ.วังน้อย จ.อยุธยา มาชมรมคนรักสุขภาพ จนวันนี้ก็ ๑๑ เดือนแล้ว
ก่อนหน้าที่จะมาชมรม เธอก็ไปรักษาตัวที่ ร.พ. เหมือนคนทั่วไป จนท้ายที่สุด ก็ถึงวาระที่คนไข้ทั่วไปทำกัน อันเป็นแบบแผนของการรักษาทางการแพทย์สมัยใหม่ นั่นคือ ผ่าตัด คีโม ฉายแสง
อาการของเธอลุกลาม จนถึงระยะสุดท้าย และเมื่อเข้าคอร์ส คีโม ฉายแสง ร่างกายของเธอ ก็ไม่สามารถทนต่อคีโม และฉายแสง
ผลที่ปรากฎ ทำให้เกิดอาการข้างเคียง และการแพ้อย่างรุนแรง
จนวันหนึ่ง เธอได้พบกับ คุณหมอภาวิณี แนะนำเธอให้มาที่ชมรมคนรักสุขภาพแทน
เธอจึงได้เริ่มต้นการใช้สมุนไพร และหันหลังให้เคมีบำบัด นับแต่นั้นมา
ผ่านไปได้ระยะหนึ่้ง อาการของเธอดีขึ้น จึงได้ชวนสามีของเธอ ที่ป่วยด้วยโรค เบาหวาน ความดัน ... มาทานด้วยกัน
ร่างกายของเธอและสามี ดีวัน ดีคืน จนไม่เคยกลับไปหายาเคมีอีกเลย
เธอเห็นคุณค่าของสมุนไพร จึงได้พาลูกทั้งสามคน ของเธอมาด้วย เพื่อให้ได้โอกาสทานสมุนไพร และอบตัวเช่นเธอและสามี
มาวันนี้ หลังจากการตรวจร่างกายครั้งล่าสุด สุขภาพปกติ ไม่พบเชื้อมะเร็ง
หลวงพ่อนิพนธ์ อ่านจดหมายฉบับนี้ให้เหล่าสมาชิกฟัง พร้อมกับกล่าวว่า การหายของคนไข้ ไม่ใช่สาระที่สำคัญเท่าใด
สิ่งที่สำคัญกว่านั่นคือ การที่คนไข้ได้ใช้ตนเองเป็นเครื่องพิสูจน์ แล้วชักชวน ลูกทั้งสามให้มาเดินทางนี้
เพราะเท่ากับได้สร้างมรดกที่มีค่าที่สุด นั่นคือ ลูกของเขาจะไม่มีโอกาสที่เป็นโรค มะเร็ง เบาหวาน ความดัน .. ในอนาคตอย่างแน่นอน
พฤติกรรมเช่นนี้ เรียกได้ว่า "รักลูก" อย่างแท้จริง
และมรดกที่ให้ คือ สังขารสุขภาพที่ดี มีค่าเหนือทรัพย์สมบัติใดๆ
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงเชิญชวนให้ทำตาม หากตนของตน พิสูจน์แล้วในคุณค่าของสมุนไพรพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา
เพื่อให้คนที่เรากล่าวอ้างว่า รัก นั้น ได้สัมผัส "ลาภอันประเสริฐ"
ทิ้งท้ายของ การอ่านจดหมายฉบับนี้ คือ คำติติง ถึงคนที่บอกรักผู้อื่นแต่ปาก อาทิ แม่บอกรักลูก แต่เมื่อลูกมีปัญหาสุขภาพ ก็ยัดยาเคมีเข้าปากลูก
การทำเยี่ยงนั้น เท่ากับไม่ให้ร่างกายของลูก ได้มีโอกาสต่อสู้ สร้างภูมิ เพื่อช่วยตน เท่ากับกำลังทำให้ลูกอ่อนแอ สร้างจุดอ่อน ให้โรคเข้าโจมตีได้ในอนาคต
หากจะพูดได้เต็มปากว่ารักใคร ก็ควรที่จะให้คนที่เรารัก ได้มีโอกาสมาทานสมุนไพรด้วยเช่นกัน
แล้วจึงสรุปคำโบราณ ที่กล่าวให้คิด "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" เขาหมายถึงอะไร ... ก็ถ้ารักจริง ก็ต้องชวนชักมาในทางที่ถูก เพื่อประโยชน์แห่งคนที่เรากล่าวอ้างว่ารักซิ