ตำราสมุนไพร และหลักการ "ตนพึ่งตน " ที่แมีชีเมี้ยนนำมา ท่านกล่าวว่า ในอนาคตสิ่งนี้จะช่วยกู้ชาติไทยของเรา
สมัยนั้นยังมองไม่ออก ว่าสิ่งนี้จะช่วยได้โดยวิธีใด จนบัดนี้ ความกระจ่างเริ่มปรากฎ ทั้งนี้เนื่องจากคนไทยยุคปัจจุบัน หลงลืมวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของบรรพบุรุษ ที่ทำให้ชาติเราดำรงอยู่ได้ นั่นคือ ความกตัญญู ความซื่อสัตย์ ยิ่งไปกว่านั้นคือ ลืมคำสอนของพระพุทธเจ้าไปหมดแล้ว ดังนั้นปัญหาที่ตามมา ที่จะต้องประสพก็คือ มหันตภัย ไม่ว่าจะเป็นด้านใดๆ จนเชื่อได้ว่าในอีกไม่กี่ปี สถาณการณ์ของประเทศไทยจะต้องจนตรอกอย่างแน่นอน
กระบวนการที่พอจะมองเห็น จากคำกล่าวของแม่ชีก็คือ ช่องทางในการหารายได้เข้าประเทศ และการลดค่าใช้จ่ายอันมหาศาลของประเทศ โดยการนำหลักการที่ท่านทิ้งไว้มาใช้
ตัวอย่างที่เราพอจะเห็นเด่นชัดคือ อาจารย์อร่าม และอาจารย์สุนทร ท่านเป็นข้าราชการของแผ่นดิน ในอดีตก่อนที่จะมาร่วมในกิจกรรมของชมรม ท่านเคยบรรยายว่า ท่านจะต้องส่งบัญชีให้กองคลังสำหรับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของท่านเดือนละประมาณสองหมื่นบาท แต่แปดปีที่ผ่านมาในการมาใช้หลักการนี้ของแม่ชีเมี้ยน ท่านไม่เคยส่งบัญชีอีกเลย
เราลองคิดดูว่า ปัจจุบันมีข้าราชการเท่าไร เฉพาะลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ประเทศก็มีเงินเพิ่มขึ้นมานับแสนล้านต่อปีแล้ว และถ้าคนทั่วไปมาร่วมด้วย ย่อมประหยัดค่าใช้จ่ายที่สาธารณสุขแจ้งว่า คนไทยใช้จ่ายด้านสุขภาพ เฉพาะยาและเวชภัณฑ์ ปีละสามแสนล้านบาท
ยิ่งไปกว่านั้น เราจะได้คนดีกลับเข้ามาในสังคม และคนที่มีคุณภาพคืนมา มองแค่สั้นๆ นี้ ไม่ต้องนับคนที่จะแห่มาเหมือนยุคถ้ำกระบอก ก็ทำให้รู้ได้ว่า ทำไมท่านจึงตรัสเช่นนี้
สิ่งที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง คนที่มีคุณประโยชน์มากมายมหาศาลต่อโลก ทั้งในยามมีชีวิต และแม้แต่สิ้นไปแล้วเช่นนี้ มองไปหาคนไทยรู้จัก หรือซาบซึ้งพระคุณแทบไม่มี ก็เลยไม่แปลกใจว่า เพราะคนไทยยุคนี้ ขาดกตัญญู จริงๆ
หรือท่านคิดว่า โลกนี้มีสิ่งใดพึ่งได้ ในเรื่องชีวิตและสุขภาพ
อนามัยโลก ยังประกาศยอมรับว่าวิทยาการที่มีไร้ประสิทธิภาพ และร้องขอผู้มีภูมิปัญญา ด้านแพทย์ทางเลือกให้มาร่วมกอบกู้โลก
แต่ทุกวันนี้ หมอและผู้ผลิตยา ยังมอมเมาคนไทยอยู่ ทั้งที่ประเทศยุโรปในปัจจุบัน ต้องออกกฎหมายบังคับใช้สมุนไพรกันแล้ว หรือข่าวเหล่านี้เป็นเท็จ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น