ในช่วงของการเปิดรับรักษายาเสพติดของถ้ำกระบอก สิ่งหนึ่งที่ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ผู้ที่ต้องการล้มสำนักสงฆ์แห่งนี้เสีย นั่นคือ ผู้ที่เสียผลประโยชน์อันมหาศาลในการค้ายาเสพติดนั่นเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำในยุคแรกๆ ที่พระยังขาดประสบการณ์นั่นคือ การถูกวางยา ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยจนนับไม่ถ้วน หรือที่ร้ายแรงก็ถึงขั้นวางระเบิด
ในยุคนั้นเองก็มี นักเรียนนายร้อยผู้ที่ศรัทธาต่อหลวงพ่อนิพนธ์ อันเนื่องจากได้เห็นด้วยตนเอง ในการพาบิดา มารดา หรือญาติมารักษาตัว จนรักใคร่ในตัวหลวงพ่อนิพนธ์มาก อาทิเช่น ร้อยตรีวัฒนชัย ฉายเหมือนวงศ์ และเพื่อนรวมสี่คน จะมีหน้าที่เฝ้าอารักขาความปลอดภัยให้แก่ หลวงพ่อนิพนธ์ จนรู้กันว่า ไม่ว่าหลวงพ่อนิพนธ์ไปไหน จะมีนักเรียนนายร้อยทั้งสี่นี้ ตามติดอยู่ข้างกายไม่ห่าง
เหมือนหนังฉายซ้ำ การดำเนินการของหลวงพ่อนิพนธ์ ในยุคปัจจุบัน ตั้งแต่เริ่ม จนถึงชมรมคนรักสุขภาพ กระทั่งเปลี่ยนเป็นชมรมไทยกรุณา ก็ยังคงสภาพนี้อยู่เช่นกัน
มีเรื่องจริงที่ปรากฏ ไว้เล่ากันเล่นในหมู่ของพวกชมรม คือ เมื่อครั้งไปเปิดการแจกสมุนไพร ที่ ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย นั้น ในละแวกนั้นเอง จะมีร้านขายยาอยู่ร้านเดียว เป็นร้านที่ขายดีมาก หลังจากการเปิดตัว รายได้จากการขายยาก็เริ่มตกลง จนในที่สุดก็ไม่มีคนมาซื้อยาเลย เจ้าของร้านต้องใช้รถขยายเสียงไปโฆษณาที่สวนสมุนไพร ว่าอย่ามากินเลย เพราะมีผู้ทานแล้วกระเพาะทะลุ และอื่นๆ เขาทำเช่นนี้ไม่นาน ก็ถูกแม่ซึ่งเป็นอัมพฤกษ์ด่าว่า เพราะไม่สามารถมาทานสมุนไพรได้ ด้วยความรักแม่ ชายผู้นี้จึงเลิกกิจการขายยา เปลี่ยนมาขายของชำ และพาแม่มารักษา จนหาย
จึงไม่น่าแปลกใจเลย ถึงแม้สมุนไพรของแม่ชีเมี้ยน ที่หลวงพ่อนิพนธ์นำมาเผยแพร่ จะผ่านการพิสูจน์มาเนิ่นนาน ทั้งในและต่างประเทศ แล้วก็ตาม ก็ยังหาหน่วยงานไหนกล้ามาสนับสนุน คิดไปคิดมา ก็น่าจะเกรงกลัวมาเฟีย ด้วยประการฉะนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น