ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
ทำอย่างไรก็ตามใจ แต่ถ้าจะเอาผล ต้องเห็นกรรมก่อน
หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า ศาสนาของแม่ชีเมี้ยนพูดแล้วฟังง่าย เข้าใจง่าย เป็นภาษาไทย ที่สำคัญ ปฏิบัติเพื่อยังผลได้ทันที
แลชี้ว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ ความจริงของจักรวาล คือ “ตัวกระทำไม่ตาย ทำสักฉันใดไม่ตายเลย รอเราอยู่วันข้างหน้าแน่”
ผลที่เกิดในวันนี้ เราทำไว้แล้ว เราจึงเจ็บ เราทำไว้แล้ว เราจึงปวด จะปฏิเสธสักฉันใด ก็หาพ้นไม่ จะหาสิ่งใดช่วยให้หายไปก็ไม่มี
การหายโรค ด้วยศาสตร์สมุนไพร จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิเสธทุกข์อันนี้ หลายคนคาดหวังสมุนไพรดี กินแล้วหาย ไม่ต้องปวด ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องคัน จึงคิดผิด
ท่านชี้ว่า การทานสมุนไพรเพื่อฟื้นฟูอวัยวะ โดยปรับสมดุลย์ธาตุทั้งสี่ ให้มีความแข็งแกร่ง ทนอาการ ทนการทำลายจากโรค และร่างกายก็จะมีภูมิ ต่อสู้ขับโรคออกจากร่างกาย จึงหายโรค
ที่สำคัญกว่า คือผลอันนี้เกิดจากเหตุอะไร เพราะถ้าไม่สืบสาวทวนความ ในไม่ช้ามันก็จะส่งผลมาอีก ตราบใดที่เหตุยังอยู่ อุปมา ขว้างงูไม่พ้นคอ มันก็แว้งมากัดอีก ไม่จำเป็นหรอกว่าต้องโรคเดิม ถึงจะทำให้ตายได้
บทสรุป พระพุทธเจ้าทรงชี้ ให้ดับเหตุ เพื่อจะได้ไม่เกิดผล นั่นคือ “นิสัย” ใครจะมองที่นี่เป็นอะไรไม่ว่า จะทำอย่างไรก็ตามใจ แต่ถ้าจะเอาผล ต้องเห็นกรรมก่อน ที่สำคัญเชื่อว่า กรรมมีอำนาจ และ “กลัวกรรม” พฤติกรรมจึงเปลี่ยน จึงสาวหานิสัยตน ที่เป็นเหตุให้ทุกข์ใจวันนี้แล้วดับเสีย
อุปสรรคใหญ่จึงไม่ใช่โรค แต่เป็นนิสัย ครั้นจะมาแก้นิสัย ก็อาย กลัวคำคน กลัวนินทา เขาจะรู้ว่าเรา ชอบเอาเปรียบ เบียดเบียนผู้อื่น เขาจะรู้ว่าเราขี้โมโห เขาจะรู้ว่าเรานั้นไม่ดี แต่คนที่รู้แล้วแก้ไข ฟ้าดินเขาสรรเสริญ ไม่ว่าแบบไหน คงไม่หนักเท่าองคุลีมาลที่ฆ่าคน ก็ยังได้รับการยกย่อง เมื่อทำได้เปลี่ยนตนเป็นคนดีได้ โลกสรรเสริญ
เสียดาย คนทั้งหลายเอาแต่สุขเฉพาะหน้า เอาแต่หายโรค แต่ไม่ยอมแก้นิสัย จึงไม่แปลกโรคที่ว่ากระจอก ด้วยเป็นบริวารกรรม จึงกลายเป็นยักษ์ ทำสักฉันใด ก็ยากที่จะไปจากเรา คนเหล่านั้นก็ไม่ยอมรับว่าด้วยเพราะนิสัยตน ท้ายที่สุดก็โบ้ยศาสนาไม่ช่วยบ้างหล่ะ ไม่ดีบ้างหล่ะ ถึงวันที่กรรมสรุปมา กลายเป็นจำเลยไปก็มีให้เห็นมากมาย ตายเพราะสมุนไพร ตายเพราะต้องมานั่งลำบาก เจ็บขนาดนี้ยังต้องให้สวดมนต์อีก •••
จะเอาแต่หาย โดยไม่ดูรอยของพระโคดมเลย เขาทำอย่างไร จึงพ้นทุกข์ ไม่แปลกใจ ที่มารับสมุนไพร เขาขุดร่องให้ต้นยา มันจึงกลายเป็นถังขยะ หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักเปรยว่า “เราอยู่กับใคร เราทำยาให้เขาพ้นทุกข์ แต่เราต้องมาเก็บขยะ เดินปิดพัดลม เก็บจานช้อนที่เขาใช้แล้วทิ้งขว้าง •••” แล้วจะมาหายโรคด้วยพฤติกรรมเหมือนคนทั้งโลกทำ เป็นไปได้หรือ
จำไว้น่ะ ตัวกระทำไม่ตาย รอเราอยู่วันข้างหน้า ผลจะเป็นแบบใดก็ด้วยสิ่งที่กระทำในวันนี้