หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า การที่เราท่านมาพบพานศาสนา แลได้รับการแก้ไข ฟื้นฟูตนนั้น ในเมื่อศาสน์อันนี้แม่ชีเมี้ยนตรัสว่าเป็นของพระพุทธเจ้า มีอำนาจ ก็แล้วทำไมจึงไม่ประสพผลทุกตัวคน
ก็ในเมื่อเป็นของวิเศษ แลกล่าวอ้างว่า ทรงมีเมตตาธรรม เหนือล้ำ ยิ่งต้องช่วยมนุษย์ทุกตัวคนมิใช่หรือ
ดูสิ ก็สมุนไพรสูตรเดียวกัน ตำราก็ตำราเดียวกัน ทำไมที่โน่นทำ จึงได้ผล ที่นี่ทำจึงไม่ได้ผลบ้างหล่ะ หมายความว่าอย่างไร
หนักไปกว่านั้นอีก ที่เดียวกันแท้ๆ หม้อเดียวกันแท้ๆ คนหนึ่งกิน ดีวันดีคืน อีกคนหนึ่งกิน กลับเสมือนน้ำเปล่า หาคุณค่าแทบไม่ได้เลยกับตน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นเล่า
เพราะเหตุใด จึงเป็นเช่นนั้นเล่า ก็เมตตาคนทุกข์ คนที่มาก็ทุกข์ทั้งนั้น ทำไมไม่ช่วยให้หายทุกข์ทุกตัวคนเล่า
นี่แหละหลวงพ่อนิพนธ์ จึงชี้ให้เห็นว่า ตบมือข้างเดียว มันไม่ดัง
คนทุกข์ที่มา มีความฝัน ศาสนาก็มีความฝันเหมือนกัน ต่างคนต่างยื่นมือมา ยังไม่พอ ต้องถูกที่ ถูกตำแหน่งแห่งหน ให้มือทั้งสองประสานกัน ผลจึงเกิด เสียงจึงดัง ไม่ใช่ ศาสนาไปทาง คนยื่นไปอีกทาง
หลวงพ่อนิพนธ์ อรรถาธิบายว่าให้เห็นชัดว่า นี่แหละข้อจำกัดของศาสนา หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง ไม่ใช่ยื่นมือสะเปะสะปะ ไปช่วยคนนั้นที คนนี้ที หาได้ไม่ ด้วยโลกนี้เป็นโลกของโลกียะเขา กรรมเขาเป็นเจ้าของ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องดลบันดาลทุกข์สุขให้แก่ทุกคน จะไปก้าวก่ายคนของเขาได้อย่างไร ทำไม่ได้
เสมือนภาษิต "หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานไปสอด"
แต่กรรมเขาก็มีข้อยกเว้นไว้ให้ แก่คนที่ทำถูกที่ ถูกตำแหน่ง คือ เมื่อได้ฟังเสียงของศาสนา เชื่อ แล้วทำตาม ต้องการเปลี่ยนตน ไปอยู่ในร่องของศาสนา คือ เป็นคนดี มีธรรมของพระพุทธเจ้านำตน
เส้นทางนี้แม่ชีเมี้ยนอุปมาเสมือน "ไม้ไผ่ลำเดียว" ที่ทอดสะพานให้แก่คน ที่อยากพ้นทุกข์ โดยเปลี่ยนจากทุกข์กับกรรม มาทุกข์กับธรรม หรือวินัยธรรมแทน
ความแตกต่างก็คือ ทุกข์กับกรรม นิสัยกรรมยังอยู่ ทุกข์แล้วก็ยังต้องทุกข์อีก เพราะนิสัยสร้างกรรม ก่อให้เกิดกรรมใหม่รอให้ทุกข์อีกในวันข้างหน้า แต่ทุกข์กับธรรม เมื่อพ้นทุกข์อันนั้นแล้ว ย่อมเกิดสุข ด้วยมีแต่นิสัยธรรม สร้างสุขรอในวันข้างหน้า
ไม้ไผ่ลำนี้ ก็คือ การให้โอกาส คนที่หลงผิด เชื่อในสิ่งผิด แล้วทำในสิ่งผิด ผลผิดจึงเกิดกับตน มาเชื่อในสิ่งที่ถูก เมื่อสร้างผลถูกเกิดแก่ตน เฉกเช่น องคุลีมาร ที่เชื่อในครูบาอาจารย์ตน หลงเดินทางผิด ก็กลับมาทำตนตามพระภูมี ช่วยตนจนสำเร็จมรรคผล นั่นเอง
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ว่า โลกนี้เป็นโลกของโลกียะ กรรม เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เดียว ที่ดลบันดาลทุกข์สุข ตามตัวกระทำที่ทำ จะมีสิ่งใดไปลบล้างไม่ได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ปัญญามนุษย์ ที่กรรมสร้างขึ้น จะสามารถแก้ไข อำนาจกรรม ไม่มีทาง
การอุบัติของข่าว ในการค้นพบยารักษาโรค หมอผี นักบุญ มีฤทธิ์วิเศษ ช่่วยให้หายโรค โดยเฉพาะโรคตาย มีแต่หลอกขายฝันให้คนโง่เท่านั้นเอง สิ่งเหล่านี้ วันเวลาก็จะพิสูจน์ให้เห็น เด่นชัด มีสภาพเสมือนพลุ ที่ลุกโพลงอยู่บนฟ้า ชั่วครู่แล้วก็ดับไป ให้คนซีดซาด อยู่ในความฝัน ชั่วครู่ชั่วยาม แล้วก็พบความจริง ทุกข์ของตนก็ยังอยู่
การโกหกเรื่องยารักษาโรคร้ายแรง ก็คงไม่ต่างกับหนังที่อเมริกาสร้างหลอกชาวโลก คือ การไปเหยียบดวงจันทร์ของมนุษย์ ที่ไม่มีทางเป็นจริง ฉันใดก็ฉันนั้น ทำให้ฮือฮา แล้ววันหนึ่ง ความจริงก็จะปรากฎ ... ว่าเป็นแค่ฝัน เท่านั้นเอง ไม่มีทางเป็นจริงขึ้นมาได้