สิ่งที่รู้ ไม่ได้เป็นเครื่องบอกว่า ต้องทำ
แต่สิ่งที่ทำ บ่งบอกถึงสิ่งที่คิด ได้เป็นอย่างดี
ประเทศไทยมักมีผู้กล่าวว่า มีคนที่นับถือศาสนาพุทธมากมาย เรียกว่าส่วนใหญ่ของประเทศ นั่นย่อมบ่งบอกว่า คนส่วนใหญ่ของประเทสนี้ ล้วนแล้วแต่เคยได้ยิน ได้ฟัง ได้รู้เรื่องราวคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นธรรมดา โดยเฉพาะ คำว่า "ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรรม"
แต่นั่นเป็นเพียงลมที่ได้ยิน คนที่ฟังแล้วเชื่อมีกี่คน นั่นว่าน้อยแล้ว แต่คนที่เชื่อแล้วกลัวกรรม มีน้อยกว่าน้อยอีก ... ผลก็คือ จากบ้านเมืองที่ได้ชื่อว่า สงบสุข ร่มเย็น จิตใจดี กลายมาเป็นสภาพทุกวันนี้
นั่นเป็นสัญญาณบ่งชี้ ที่แม่ชีเมี้ยนและหลวงพ่อนิพนธ์ชี้ว่า ด้วยความที่ห่างศาสนาที่แท้จริงนานเกินไปนั่นเอง
ปัญหาก็คือ เมื่อไม่เชื่อ "กรรม" แล้วจะเลยไปเชื่อ "ธรรม" หรือ ก็การกระทำของตน ทำไปโดยไม่กลัวกรรม ก็แล้วไยต้องเอาธรรมมานำตน เพื่อลดการกระทำแห่งตน
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า เรื่องของศาสนา จึงไม่ใช่เรื่องของคนทั่วไป หรือใช้ได้กับคนทุกคน จะส่งผลหรือมีประโยชน์ ก็เฉพาะคนอยากได้ อยากลดนิสัยแห่งตน ด้วยเห็นกรรม เห็นการกระทำแห่งตน ว่าส่งผลให้เกิดทุกข์ เท่านั้นเอง
บทสรุป ศาสตร์สมุนไพร แม้นจะเลอเลิศ เป็นของพระพุทธเจ้า มีอำนาจสักฉันใด ก็เฉกเช่นเดียวกัน ใช้ไม่ได้กับทุกคน จะส่งผลเลิศ ก็แต่คนที่อยากได้ อยากทำตนตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ลดกิริยา นิสัยแห่งตน เพื่อช่วยตน หากคนผู้นั้น ไม่เชื่อ ไม่ทำตาม สมุนไพรก็คงได้แค่ประทัง หรือยืด เท่านั้นเอง
หลวงพ่อนิพนธ์แลท่านอาสิ จึงพยายามพูด เพื่อให้เหตุและผล เพื่อพิจารณา แต่ก็บังคับใครไม่ได้ จนต้องยืนยันทุกครั้งว่า "โรคไม่น่ากลัว ชนะได้ไม่ยาก แต่นิสัยนี่สิน่ากลัวกว่า"
คนที่จะประสพความสำเร็จในการช่วยตน ช่วยตนพ้นโรค พ้นทุกข์ จึงต้องเห็นกรรม เชื่อในเรื่องกรรม ... ธรรมจึงมีค่า มีความอยากรู้ อยากฟัง พิจารณา เชื่อ แล้วจึงทำตาม แม้นธรรมมีอำนาจสักฉันใด หากคนผู้นั้นไม่ยื่นมือมา ก็ใบ้กิน ได้แต่อยากช่วย แต่ช่วยอะไรไม่ได้เลย เฉกเช่นกัน คนที่มา ก็ได้แต่อยากหาย แต่ความอยากนั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลย
ดังนั้น หากไม่เชื่อกรรม ก็ไม่เชื่อธรรม หนทางนี้ก็ไม่เหมาะ อย่ามาเดินให้เสียเวลาเลย ไปในแนวทางที่ชอบดีกว่า หากเชื่อ แต่ไม่ทำ ก็เฉกเช่นกัน จะมาเสียเวลา ทานแต่สมุนไพรทำไมเล่า หลอกตนเองไปวันๆ ... แลเมื่อทำแล้ว เสียเวลาแล้ว เสียเงินเสียทองค่าใช้จ่ายมาแล้ว ทำไมจึงไม่กอบโกยสิ่งดีๆให้แก่ตัวเองมากที่สุดเล่า เสมือนหนึ่งอยากรวย ก็ขยันทำงาน ไม่เหน็ดไม่เหนื่อย ไม่พัก .... เอานิสัยแบบนั้นมาใช้กับการหาบุญสักนิด แล้วจะรู้ว่า ทำไมหลวงพ่อนิพนธ์บอกว่า "โรคนั้นมันกระจอก"
อินเดียก็ทำให้เห็นแล้ว แม้นจะมีพระพุทธเจ้าที่ดูดีที่สุด ทั้งวรรณะ ก็เป็นกษัตริย์ พูดจาก็ดี ยังมีคนเดินตามไม่ถึงแสนเลย ... ใครบอกว่าอยากเผยแผ่ธรรมไปทั่วโลก นั่นฝันแล้ว ทุกยุคทุกสมัยมีแต่พูดเหมือนคนอินเดีย แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า มีแต่บอก "ศาสน์ของพระโคดม ดี แต่ทำยาก ไม่เอาหรอก ไปขอพรดีกว่า"