วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

ต้องงี้สิ

ทุกคนที่มาที่นี่ แบกความหวังกันมาทุกตัวคน ฟังแต่เสียงเล่าลือ ที่นี่ยาดี กินแล้วหาย

ความจริงข้อหนึ่ง อันเป็นเอกลักษณ์ของศาสน์ นั่นคือ คนผู้ที่ทำ จะพึงรู้ได้ด้วยตน มิหนำซ้ำ รู้อยู่คนเดียว

ด้วยทุกคน ต่างกรรม ต่างวาระ หนทางในการช่วยตน ที่ใช้ได้กับตน จะมาใช้กับผู้อื่น แบบลอกข้อสอบในการช่วยตน จึงหาได้ไม่

หากแต่คนมีปัญญา พิจารณา ย่อมรู้แก่ใจว่า หนทางที่เดินอยู่ เป็นเช่นไร สิ่งที่ตนทำ มากน้อยเพียงใด แลผลที่ได้ คืออะไร

ในวันปีใหม่ เราเห็นปาฏิหารย์สิ่งหนึ่งที่เด่นชัด เป็นรูปธรรมสัมผัสได้ ที่สำคัญ พูดได้

สิ่งนั้นคือ ท่าน ผ.อ.โรงเรียน ผู้ซึ่งประสบชะตากรรม ต้องนั่งรถเข็น ด้วยโรคลูคิวลิก หรือ ที่คนไทยเรียกกันว่า โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

ชายเลยวัยเกษียณ นั่งรถเข็น ไม่มีแววของความย่อท้อต่อความลำบาก มานั่งสวดมนต์ที่สำนักสงฆ์ ในคืนปีใหม่ เพียงคนเดียว ในบรรดา คนป่วยรถเข็นนับร้อยๆ ของหลวงพ่อนิพนธ์

สืบสาวว่า ทำไมเขาถึงมา ก็ไม่น่าแปลกใจ เมื่อย้อนไปเมื่อ ๔ ปี ที่แล้ว เมื่ออาการของเขาเริ่มรุนแรง จนหมอหมดทาง แสงสว่างอันน้อยนิดแห่งแสงธรรม ทำให้เขาเลือกที่จะมาลองเดินทางนี้ดู

หลวงพ่อนิพนธ์ กล่าวแก่ท่าน ผ.อ. ในวันแรกที่มาว่า โรคนี้ รู้กันดีว่า เป็นโรคเสมือนระเบิดเวลา นั่นคือ เมื่ออาการปรากฎ ก็นับไปได้เลย ว่า เหลือเวลากี่ปี ที่โรคจะถึงที่สุดแล้วตายไป

หมอบอกแก่ ผ.อ.ว่า ระบบต่างๆของร่างกาย จะเริ่มล้มเหลวไปทีละส่วน ไม่สามารถหยุดยั้งได้ จนในที่สุดเมื่อครบวาระ ก็จะถึงแก่ชีวิต

หลวงพ่อนิพนธ์จึงให้ท่าน ผ.อ.ตัดสินใจ ไม่รับรองว่า จะช่วยได้สักเท่าไหร่ แต่ก็ลองดูสักตั้งได้

ท่าน ผ.อ. ใช้น้ำอด น้ำทน ต่อสู้อาการ แลทานสมุนไพรอย่างไม่ย่อท้อ มาจนถึงวันนี้ ก็ปีที่ ๔ แล้ว

อะไรเล่า ทำให้ท่าน ผ.อ. ไม่กลัวยากลำบาก ตัวเองนั่งรถเข็น ยังเดินทางมาสวดมนต์ ทุกปี ยิ่งในปีนี้สถานที่ยิ่งลำบาก ท่านก็ไม่ขาด

การมาสวดมนต์ พร้อมใบตรวจเช็คร่างกายล่าสุด สภาพอวัยวะของท่าน ผ.อ. ไม่ว่า ตับ ไต หัวใจ .... ล้วนแล้วอยู่ในสภาพสมบูรณ์เต็มร้อย จะมีก็แต่กล้ามเนื้อ ที่ยังไม่มีแรงพอที่จะทำให้กลับมาเดินได้เท่านั้นเอง

มาวันนี้ หมอบอกว่า ไม่มีแววที่จะเสียชีวิตเลย ผิดธรรมชาติของโรค ที่อวัยวะทุกส่วน มีแต่เสื่อมลง อย่างรวดเร็ว

นี่มิใช่ปาฏิหารย์ เรียกอะไร

แต่เพื่อจะให้ได้ปาฏิหารย์เกิดแก่ตน ต้องใช้อะไร ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครซึ้ง นอกจากท่าน ผ.อ. คนเดียว

แลปาฏิหารย์สุดท้าย นั่นคือ กลับมาเดินได้ ก็คงจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นแค่ความฝันที่ไม่มีโอกาสเป็นจริง

บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์ ชี้ให้ดูว่า ปาฏิหารย์มีจริง สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง แต่ใครละจะทำตนไปให้ถึง จนมีคุณสมบัติได้สัมผัสปาฏิหารย์

วันเวลาในการสร้างบาป มีไม่มีหมด แต่วันเวลาในการสร้างบุญ มีข้อแม้เต็มไปหมด ความอยากพ้นทุกข์ อยากหายโรค มันก็เป็นได้แค่ความอยาก ไม่มีทางเป็นจริง เพราะสิ่งที่ทำ ไม่นำพาตนเข้าใกล้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนเป็นที่พี่งแห่งตนได้

ภาพที่ดูแล้วตลก แบบขำไม่ออก นั่นคือ คนช่วย กุลีกุจอ ทำให้ไม่มีวันหยุด ไม่เคยบ่นขอลาพัก เปิดทุกพฤหัส และอาทิตย์ แต่คนที่มาพึ่ง ที่บอกว่าตนเองทุกข์ กลับบอกว่า ไม่มีเวลา มาก็เหนื่อย เสียเงิน เสียทอง นึกอยากหยุดก็หยุด อยากมาก็มา

ศาสน์ เป็นหลักปราชญ์ คนอย่าง ผ.อ.นี้แหละ ที่ค้นหา และไม่กลัวเลยว่า สิ่งที่เผชิญโลกเขาจะบอกว่า ไม่มีทาง ถ้ามีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ ฟ้าดิน กำหนด โรคอะไรก็ไม่เหลือ วันหนึ่งเราท่านจะได้เห็นท่าน ผ.อ. กลับมาเดินอย่างแน่นอน

คนประเภทนี้ หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล้าการันตีว่า มาร้อยก็หายร้อย มาพันก็หายพัน ... ถ้าไม่ถึงซึ่งพรหมลิขิต หมดอายุขัย หายล้านเปอร์เซ็นต์

เปลี่ยนใจเสียเถอะ จะมาหายด้วยนั่งสวดมนต์ภาวนา ลุกขึ้นไปวาดมือตีน อุปมาเสมือน นั่งให้ตายข้าวก็ไม่มีวันสุกให้ได้ทาน นอกเสียจาก ลุกเดินไปหยิบข้าวสาร มาซาวแล้วหุง ติดไฟ ตั้งหม้อ รอไม่นาน ก็ได้ข้าวสุกกิน อย่างแน่นอน

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44