ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559
สองภาพสองมุม
แผ่นดินสองแผ่นดิน อันเป็นร่มไทรของหลวงพ่อนิพนธ์ที่สร้างขึ้น อันได้แก่ แผ่นดิน ไทยกรุณา ที่กาญจนบุรี และ แผ่นดิน แม่ชีเมี้ยนกรุณา ที่ลพบุรี
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมต้องแยก ฉันสะดวกที่ลพบุรี ไปรับที่นั่นไม่ได้หรือ ต้องให้ถ่อมาถึงกาญจนบุรี สร้างความลำบาก เดินทางก็ไกล ค่าใช้จ่ายก็เยอะ
หากมองด้วยตา นำภาพสองภาพมาประกบกัน แล้วดู
ภาพที่เห็นด้วยตา แผ่นดินลพบุรี ตอนนี้ มีคนไข้ประจำอยู่ ประมาณสิบคน มีพื้นที่มากมายกว่ากาญจนบุรี หลายเท่า
คนที่มีน้อยกว่า ไทยกรุณา เป็นร้อยเท่า หากแต่แผ่นดินลพบุรี พื้นที่ทั้งหมด โล่งเตียน ตรงไหนว่าง นำต้นไม้ไปปลูก ตรงไหนเหมาะ สร้างเป็นที่พักอาศัย เตรียมให้คนป่วย ไม่มีขยะกลาดเกลื่อนแม้นแต่ชิ้นเดียว
ด้วยความที่มีคนน้อย การปลูกสร้างห้องน้ำ ที่นำโดยพระสองรูป และญาติโยมที่น้อยนิด น้อยจนกระทั่ง แม่ชีสูงวัยกว่า ๘๐ ปี เห็นแล้วต้องมาช่วยพระหิ้วปูน
คนป่วยที่อยู่ ส่วนใหญ่ ก็คือ มะเร็ง ที่หมอทิ้งทั้งหมดทั้งปวง หากแต่ไม่มีคนใดเลย ที่อยู่เฉย อย่างชียะ ปวดท้องเจียนตาย ด้วยมะเร็งลำไส้ ยามปวดมากก็พัก พอคลายปวด ก็รีบหาอะไรทำ ตามกำลังที่มี ดูช่างโหดร้ายสุดประมาณ คนป่วยใกล้ตาย ต้องมาทำงาน ไม่ยอมให้พักผ่อน นอนเฉยๆ เหมือนในโรงพยาบาล
ภาพที่มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้ นั่นคือ ใจ หรือความอยากช่วยตนให้ประสพผล มิใช่ลมปาก หรือนั่งฝัน
ดังนั้น สิ่งที่คนป่วยทุกคนที่แผ่นดิน แม่ชีเมี้ยนกรุณา มี แต่ที่ ไทยกรุณา หาได้ยาก นั่นคือ การใจจดใจจ่อ ฟังในสิ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์พูด สอน ให้พิจารณา แล้วนำไปปฏิบัติ เพื่อช่วยตน
ปัจจัยหลักในการประสพผล นั่นคือ องค์ความรู้ ศาสตร์ในโลก ทุกท่าน อาจจะมีความรู้มากมายกว่าหลวงพ่อนิพนธ์มากมายนัก แต่ศาสตร์ของชีวิต หรือ ธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่จะมาช่วยชีวิตตน นั้น ไม่มีใครรู้นอกจากหลวงพ่อนิพนธ์
เราจึงไม่แปลกใจว่า ทำไมหลวงพ่อนิพนธ์จึงเรียกแผ่นดิน ไทยกรุณา ว่าเป็นทาน เพราะสิ่งที่ให้ไป จะหวังผลแน่นอนอะไรไม่ได้เลย หากแต่เป็นความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ เป็นหนทางเลือก ซึ่งจะช่วยได้มากน้อยเท่าไหร่ ก็ไม่ว่ากัน
หากแต่แผ่นดิน แม่ชีเมี้ยนกรุณา มิใช่เพียงหลวงพ่อนิพนธ์เท่านั้นที่เป็นผู้ให้ คนป่วยที่มา ก็ทำตนเป็นพระเวสสันดร เป็นผู้ให้เฉกเช่นเดียวกัน
การพยายามทำตน ปฏิบัติตามคำสอน เพื่อช่วยตนอย่างเต็มความสามารถ นั่นคือ มุ่งหวังผลสำเร็จ ประดุจตบมือพร้อมกัน จนเกิดผล คนป่วยก็ช่วยตนได้ตามปรารถนา และเป็นคนดี หลวงพ่อนิพนธ์ก็ได้บุญ จากการช่วยเฉกเช่นเดียวกัน เรียกว่า ได้กันทั้งสองฝ่าย จึงเรียกแผ่นดินบุญ
ไม่ใช่ ไม่ใช่ แผ่นดินทั้งสองนี้ หลวงพ่อนิพนธ์ไม่ได้ตั้งมาเพื่อหาเงินทอง เกียรติยศ ชื่อเสียง ดังนั้น จึงเปิดทุกประเด็นให้พิจารณา พิจารณาเชื่อแล้วทำตาม
เป็นทางสายกลาง ที่พระภูมีทรงบัญญัติ ใครก็ได้ เชื้อชาติใด ชนชาติใด ทำได้ เข้ามา ไม่จำเป็นต้องรวย มีเงิน มีเกียรติ ถึงจะมี แต่ทำไม่ได้ ก็หาที่ยืนในแผ่นดินนี้ยาก
คนป่วยที่นี่ กำลังทำตัวเป็นใบหยก มาประดับกิ่งทอง
ย้อนกลับไปดูเราท่าน ที่ไทยกรุณา ดูต้นไม้ ดูสถานที่ ดูการกระทำ และที่สำคัญ ดูใจ
เมื่อเปรียบสองภาพนี้แล้ว เราจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมหลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า แผ่นดินแม่ชีเมี้ยนกรุณา หากไม่ถึงพรหมลิขิตต้องตายแล้ว มาร้อยก็หายร้อย ในขณะที่แผ่นดินไทยกรุณา กลับหวังผลอะไรแน่นอนไม่ได้เลย
บทสรุป ผลแห่งการหาย ตัวแปรที่สำคัญ จึงหาใช่สมุนไพรไม่ เพราะสองแผ่นดิน ก็ทานเหมือนกัน หม้อเดียวกัน หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า เมื่อถามว่าหายไม่หาย คำตอบจึงอยู่ที่คำคำเดียว คือ "ใจ"