เมื่อเห็นใครทุกข์ก็อยากช่วย โดยนำอำนาจของศาสนา เข้าไปเกื้อหนุน ดามไว้ โดยกล่าวอ้างว่าเป็นการให้โอกาสคนนั้นๆ ทั้งที่ในบางครั้งคนผู้นั้นไม่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ของศาสนเลย
อรรถาธิบายเพิ่มเติมว่า การกล่าวอ้างในการช่วย ก็คือการนำเอาบุญส่วนกลางไปค้ำจุนคนผู้นั้น แล้วก็บอกว่า เมื่อคนผู้นั้นรอด ผ่านวิกฤตก็จะได้มีโอกาสสร้างบุญ นำมาใช้คืนส่วนกลางนั่นเอง เสมือนให้เงินยืมไปก่อน เมื่อหายและมีกำลังก็เอาแรงที่ได้ไปหาเงินมาใช้นั่นเอง
แต่คนส่วนใหญ่ หาเป็นดังคำกล่าวอ้างของหลวงพ่อนิพนธ์ไม่ นั่นคือ เป็นจอมเบี้ยว เมื่อผ่านวิกฤตกลับไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตน หลายคนอาจจะไปสร้างกรรมหนักหนาสาหัสกว่าเดิมเสียอีก
ผลก็คือ กรรมที่คนเหล่านั้นทำ หลวงพ่อนิพนธ์จึงต้องแบกไว้เองทั้งหมด ทั้งสิ้น จึงเกิดสภาพที่เห็นทุกวันนี้
หากแต่การเลือกกลับมาอีกครั้ง แม่ชีเมี้ยนจึงริบอำนาจส่วนนี้ไปหมดสิ้น
แลคำเตือนจากแม่ชีเมี้ยน ก็มาย้ำเตือนหลวงพ่อนิพนธ์อีกครั้ง ในการทำยาตา ครั้งล่าสุด ทั้งที่ตั้งแต่เริ่มเปิดสำนักอีกครั้ง ในปี ๓๐ สมุนไพรตาที่ทำ ไม่เคยมีปรากฎการณ์ว่า ทำแล้วเสียเลยแม้นแต่ครั้งเดียว หากแต่ครั้งนี้สมุนไพรตาที่ทำ มีสภาพกลายเป็นน้ำคลำถึงสองกระป๋อง
หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า การดำเนินการแบบเดิม ช่วยหมดนั้น ศาสนาเขาไม่ให้แล้ว และตัวท่านเองนับแต่นี้ ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาบุญส่วนกลางเข้าไปค้ำจุนใคร
แปลความว่า นับแต่นี้ ฟ้าดินจะเป็นผู้จัดสรรผลนั่นเอง ตามคุณสมบัติของผู้ทาน ทำแค่ไหน ได้แค่นั้น
หน้าที่ของหลวงพ่อนิพนธ์นับจากวันนี้ ศาสนากำหนดให้ทำตนเป็นคนหยิ่ง เพราะสิ่งที่มีเป็นหนึ่งเดียวในโลก หากใครไม่มีคุณสมบัติ ก็จะไม่คบ ไม่พูดจาด้วย
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวเตือนว่า ในไม่ช้าจะมีภาพของการเชือดไก่ให้ลิงดู นั่นคือ เริ่มจากคนใกล้ชิด ที่ในอดีตหลวงพ่อนิพนธ์ใช้บุญส่วนกลางค้ำจุนเขาอยู่ แต่ไม่ยอมพัฒนาตนใดๆเลย ณ.วันนี้ บุญส่วนนั้นศาสนาเขาริบคืนไปแล้ว หาก ณ.วันนี้ คนผู้นั้นยังไม่แก้ไขให้ลงร่องรอยของศาสนา เราท่านก็จะได้เห็น ฟ้าผ่ากลางวัน คือ กรรมเขาเล่นทั้งๆที่อยู่ใกล้ชิดนั่นแหละ
สิ่งนี้ จึงแปลความว่า ในอดีตเราท่านทานสมุนไพร ได้ทั้งผลจากอำนาจสมุนไพร แลผลบุญที่หลวงพ่อนิพนธ์เกื้อหนุนเมตตาแผ่มาให้ แต่นับแต่นี้ การทานสมุนไพร ผลที่เกิดจะมาจากอำนาจสมุนไพรส่วนหนึ่ง แลที่สำคัญ เกิดจากการสร้างคุณสมบัติของคนผู้นั้นเอง โดยมีฟ้าดินเป็นผู้จัดสรรตามการกระทำ ... ห้ามมิให้หลวงพ่อนิพนธ์เข้าไปยุ่ง ทำได้แค่เพียงสอนให้พิจารณา ยกเว้นเสียแต่คนผู้นั้นมีคุณสมบัติตามศาสนากำหนดแล้วเท่านั้นเอง
เฉกเช่นแม่ชียะ ที่เป็นมะเร็งลำไส้ จนเกิดอาการเน่า แทบทุกวันต้องถ่ายเป็นเลือด บางครั้งเป็นกระโถน เมื่อสร้างคุณสมบัติของตนได้ หลวงพ่อนิพนธ์ก็ให้เข้ามาใกล้ สอนเน้นพฤติกรรมที่จะช่วยตน จนวันนี้ ลำไส้เริ่มกลับมาปกติ
คำทิ้งท้าย หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ศาสนาเขาเอาคนทำได้ ไม่จำเป็นหรอก ต้องช่วยเศรษฐีจึงเป็นบุญ ช่วยคนจน ชาวไร่ ชาวนา ซึ่งก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน นั่นก็เป็นบุญ เศรษฐีทำไม่ได้ หลวงพ่อนิพนธ์ ก็ไม่คบด้วย ... ใครไม่ทำ ผู้นั้นเรียกได้ว่า จักไม่มีโอกาสได้เข้าถึง แลเข้าพบหลวงพ่อนิพนธ์เลย ในอนาคต
เท่ากับว่า บัญญัติยักษ์หน้าโบสถ์กำลังเปิดฉากขึ้นแล้วนั่นเอง
คำสอนสุดท้ายในวันคล้ายวันเกิดของท่าน ทิ้งไว้ว่า "ณ.วันนี้ โรคอะไร ก็ไม่กลัว กลัวแต่ใจมนุษย์เท่านั้นเอง"