ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
มองข้าม
อิทธิพลของโฆษณา ช่างเหลือหลายยิ่ง ยิ่งฟังซ้ำฟังบ่อย ยิ่งคล้อยตาม ทั้งที่หลายครั้งสิ่งที่กล่าวอ้าง หาข้อยืนยันไม่ได้เลย อ้างงานวิจัย ลมๆแล้งๆ ก็ทำให้คนเชื่อได้ ทำตามได้
สมุนไพรไม่ใช่ยารักษาโรค ทำหน้าที่ฟื้นฟูระบบให้กลับมาทำงานเป็นปกติ ก็เท่านั้น ส่วนการรักษาเป็นหน้าที่ของร่างกาย ที่ธรรมชาติให้มาอยู่แล้ว
ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญยิ่งแต่มักถูกมองข้าม นั่นคือร่างกายต้องการอาหารเพื่อใช้ดำรงชีพและแก้ไขปัญหาที่เกิด
หลายคนหวังหาย หากแต่มุ่งเน้นทานสมุนไพร ไม่ยอมปรับเปลี่ยนการทานอาหารให้ครบ ๕ หมู่ ตามที่ร่างกายต้องการ
ผลก็คือ แม้นสมุนไพรจะฟื้นฟูอวัยวะกลับมา ร่างกายก็ขาดวัตถุดิบในการฟื้นฟูร่างกาย ผลสุดท้ายไม่ตายด้วยโรคหรอก แต่ร่างกายขาดสารอาหารจนตาย
ยิ่งในสภาวะที่อาการของโรคปรากฎรุนแรง ผลที่มักพบเจอ คือ ทานอาหารไม่ได้ หากไม่รีบตุนไว้ในช่วงที่ยังทานได้ เหมือนกองทัพที่แข็งแกร่ง แต่ไม่มีเสบียง ผลก็ย่อมคาดเดาได้ไม่ยาก
แลยิ่งแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ไม่ทานอาหารด้วย แถมยังไปทานอาหารเสริม อาหารสกัด หลอกร่างกายอีกว่า มีสารอาหารแล้ว อวัยวะที่จะต้องเร่งสร้างสารนั้นๆ ยิ่งไม่ทำงาน ทีนี้งานเข้าเมื่อวันหนึ่งร่างกายปฏิเสธสารสกัดนั้นๆ จะสร้างเองก็ไม่ได้
หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า คนทุกวันนี้มันเลยไปไกล กู่ไม่กลับ หนทางที่คนโบราณใช้มาทุกยุคทุกสมัย ไม่ต้องวิจัย เพราะผ่านรุ่นคนให้เห็นกลับไม่เลือก ไปเชื่อวิชาการ ทีแฝงมาด้วยความโลภ
ทานอาหารไม่ได้ ก็กลับไปขูดกล้วยนำว้าทาน ทานไข่ต้มบดกับข้าว ทานน้ำซุปไก่ ทานผลไม้ ตามธรรมชาติเดิม เหมือนสมัยที่เราท่านเป็นเด็ก แล้วพ่อแม่ป้อนให้ทาน ได้สารอาหารครบถ้วน โตมากันทุกตัวคน
ไม่เห็นเด็กคนไหนขาดอาหารเสริม ขาดวิตะมินเม็ด แล้วตาย หรือไม่โตเลย
ยามเราท่านป่วย ร่างกายก็เหมือนทารก เราท่านก็ทำตัวไปเป็นเด็กอีกครั้ง ได้เวลาก็ทาน พักผ่อน หรือทำอะไรให้เป็นเวลา ร่างกายจะได้รู้เวลาชีวิต ระบบก็ทำงานได้ถูก
เลิกเชื่อคำชวนเชื่อ แล้วกลับมาหาธรรมชาติเดิมของตน วางใจในหมอคือกายตน ที่รู้ดีกว่าเครื่องมือทุกชนิดแลหมอทุกคน สำคัญแต่ป้อนวัตถุดิบ คือสมุนไพร แลอาหารให้ครบและถึงพร้อม แล้วใช้ขันติ อดทน รอเท่านั้นเอง
บทสรุปหลวงพ่อนิพนธ์สอนว่า อย่าเอาปัจจัยที่ไม่ใช่ปัจจัยสี่ ที่ธรรมชาติไม่ได้กำหนด เข้าไปยุ่ง ทำเช่นนั้น เท่ากับแกว่งตีนหาเสี้ยน ไม่มีทางช่วยตน แถมยังทำร้ายตน เพิ่มปัญหาให้แก่ตนจนเกินแก้ไขอีกต่างหาก