หากแต่เราท่านไม่รู้ที่มา หรือ เหตุแห่งการได้มา ด้วยวันเวลาอันน้อยนิดในการได้เข้ามาสัมผัส แลหลวงพ่อนิพนธ์ก็ไม่ได้มีวันเวลาที่จะมาอธิบายรายละเอียดทั้งหมดทั้งมวลให้ฟัง จึงเอาเป็นว่า หากเชื่อ ก็ทำตาม ก็แล้วกัน แล้วดูผล
สถานที่นี้ จึงสร้างคนที่ประสพผลให้ดูเป็นตัวอย่างว่า เมื่อใช้หลักสมุนไพรของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมาแล้ว การหายโรคใดๆ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ไม่เลื่อนลอย
มาวันนี้ หลวงพ่อนิพนธ์กลับไปเปิดสำนักที่ลพบุรีอีกครั้ง หลายคนอาจจะมุ่งหวัง ที่จะไปที่นั่น จะด้วยความสะดวกสบาย ใกล้บ้านกว่า หรืออะไรก็ตาม
แต่เราอยากจะบอกว่า คงไม่ง่ายอย่างนั้นแน่ เพราะสถานที่นั้น หลวงพ่อนิพนธ์ จะใช้รองรับเฉพาะคนที่มีคุณสมบัติ หรือ อยากทำตามธรรมคำสอน เท่านั้นเอง
เรียกได้ว่า มาร้อย ก็ต้องหายทั้งร้อย มาเท่าไหร่ หายเท่านั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่า ทำได้จริง เป็นที่พึ่งได้
เราจึงย้อนนึกคำสอนที่มาหลักสมุนไพรของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยน นำมา ว่ามาอย่างไรให้ฟัง จะได้รู้ว่าตนเองมีคุณสมบัติหรือไม่ ตามฟ้าดินบัญญัติ
หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า บัญญัติของสมุนไพร เป็นการย้อนเกล็ด ของกรรม ที่สร้างทุกข์นั่นเอง ดังนั้น พระภูมีจึงบัญญัติธรรมหมวดสมุนไพร เป็นวินัยทุกข์ แต่การที่จะทุกข์อันมาจากกรรม ก็ให้มาทุกข์กับวินัยธรรมแทน นี่จึงเป็นเหตุที่ว่าทำไมเมือทำแล้ว จึงช่วยตนได้
และสาวต่อไปให้เห็นว่า ผลแห่งทุกข์ จากกรรมที่ทำมา แลเลวร้ายที่สุด นั่นคือ "การตาย" นั่นเอง ดังนั้น การย้อนเกล็ดของพระภูมี ก็คือ "การตาย" เช่นกัน แต่ตายทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่
ดังนั้น วินัยที่บัญญัติ ในธรรมหมวดสมุนไพร จึงไม่แปลกเลย ที่จะต้องทำให้เราท่านต้องตัดขาดจากทางโลก เป็นบางเวลา ให้เหลือแต่ตน เสมือนเราได้ตายจากโลกไป
หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า นี่แหละคือที่มาของเขตพัธสีมา และวันพระ อันเป็นวันที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ต้องทำตนเป็นคนตาย ละทิ้งทางโลก มาสร้างบุญ เพื่อช่วยตน หนึ่งวัน ในรอบสัปดาห์
จึงเห็นได้ว่า คุณสมบัติแรกที่ต้องมี คือ วันเวลา ในการสร้างบุญ และต้องมาทำเอง คำถามที่มักถามว่า สองอาทิตย์ได้ไหม เดือนหนึ่งได้ไหม รับแทนได้ไหม ก็ตอบกันเอาเองว่าได้ไหม
เมื่อมาแล้ว การทำตนจึงเสมือนโลกนี้ไม่มีเราท่าน จึงไม่มีกิจการใดๆ หรือกิจใดๆ ทางโลก ที่ต้องกระทำ หรือจำเป็น เพราะเวลานี้มันไม่มีเราท่าน
ก็ตอบคำถามว่า ทำไมจึงห้ามคุย ห้ามโทร ห้ามอ่านหนังสือพิมพ์ ห้ามโน่นนี่ ก็เราท่านตายไปจากโลกแล้ว สิ่งเหล่านั้นจึงไร้ค่า คนตายคุยไม่ได้ อ่านไม่ได้ ทำธุรกิจไม่ได้ นอนสงบนิ่งอย่างเดียว บัญญัติก็ให้เราท่านทำเสมือนคนตาย แต่ยังมีลมหายใจ พิจารณาตน ควบคุมนิสัย และทำตนเพื่อให้สุขแก่ผู้อื่น
เสมือนพระของพระพุทธเจ้า ก็ทำตนเสมือนตายจากโลก แม้นแต่ชื่อยังต้องเปลี่ยนเป็นฉายา ไม่สนกิจการใดๆในโลก นั่นแล
คุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้เราท่านมีเวลาในการสร้างบุญ และเมื่อทำแล้ว ก็จะได้เงินบุญ ซึ่งหลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า มีแล้วอยากจะได้อะไร ก็เอาเงินบุญไปแลกตามปรารถนา
กรรมดี ไปแลกกรรมชั่วหรือบาปไม่ได้เลย หากแต่เงินบุญ ทำได้ พระภูมีจึงสอนให้เราท่านอุทิศแก่เจ้ากรรมนายเวรนั่นเอง หากแต่คนทั่วไป มีแต่บุญเก๊ ผลจึงไม่เกิด
บุญที่ทำในวันพระนี้เอง จึงบันดาลให้ได้สมบัติวิเศษของศาสนา ที่พระพุทธเจ้าเรียกว่า "มนุษย์สมบัติ" หรือ "ความไม่มีโรค" อันเป็นสมบัติที่สามารถพกพาติดวิญญาณไปภพหน้าได้
หากบุญที่ทำล้น ก็จะถึง "สวรรค์สมบัติ" นั่นคือ มีทั้งสุขภาพ และทรัพย์ นั่นเอง
สำหรับพระ ทำถึงขั้นตัดกิเลสนิสัยหมดสิ้น ก็เลยพวกเราท่านข้างฆราวาส ไปถึง่ชั้น "นิพพานสมบัติ" คือ ไม่เกิดเลยได้
ไม่มีหรอก อนาคามี .. อะไรทั้งหลายนั่น พราหมณ์มันแต่งทั้งนั้น
จึงไม่แปลกเลยว่า เมื่อปฏิบัติธรรม ย่อมมีเหตุ มีมารผจญเป็นธรรมดา อาศัยความโลภ เห็นแก่เล็กแก่น้อยของมนุษย์ เป็นฐาน สถานที่นี้ หลวงพ่อนิพนธ์สอนให้เราท่าน มุ่งมาและทำตน คนที่มาก็แพ้ภัยแห่งตน ถูกตลาดนัด ของถูก เป็นมารคาบไปแดกหมด จะห้ามสักฉันใด ก็ไร้ผล
เจตนาในการมา เพื่อสร้างบุญไว้ช่วยตน และรับสมุนไพรไปทานรักษาโรค จึงถูกมารผจญ กลายเป็นมาเพื่อได้ของถูก ที่ถูกกว่ากันไม่กี่บาท แต่ต้องเสียบุญ เสียชีวิต ... คุ้มกันหรือไม่
ด้วยเหตุนี้ เราจึงอยากเตือนว่า เราท่านจะไม่สามารถทำตนเช่นนี้ได้ กับสถานที่ที่ลพบุรี เรียกว่า ไม่ต้อนรับคนไม่มีคุณสมบัติ คนที่ไม่ยอมเผชิญเหตุ ไม่ระงับความอยากของตน หรือที่หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า "คนที่เห็นค่าของชีวิตตนต่ำ" นั่นเอง
เพราะคนเหล่านั้น จะไม่มีวันช่วยตนให้ประสพผลอย่างแน่นอน แม่ชีเมี้ยนจึงไม่ยอมที่จะให้หลวงพ่อนิพนธ์มาเสียเวลากับคนเหล่านั้น เหตุเพราะทำแล้วผลแห่งการช่วยไม่เกิดนั่นเอง
คนที่อยากทำตนสบายตามใจ หลวงพ่อนิพนธ์ก็อนุญาติให้ มารับสมุนไพรที่มุลนิธิได้ตามเดิม อยากทำอะไรก็เล่นกันไปตามนิสัย หากแต่ออกตัวไว้ก่อนเลยว่า ผลที่เกิดตามตัวกระทำที่ทำ นั่นคือ หวังผลแห่งการหายไม่ได้เลยนั่นเอง
ส่วนคนที่มีคุณสมบัติ ได้เข้าไปอยู่ทีสำนักลพบุรี พระท่านจะเลือกเฉพาะคนที่มีคุณสมบัติ และหลวงพ่อนิพนธ์ก็จะเรียกให้เข้ามาใกล้ สอนสิ่งที่จะใช้ช่วยตน นั่นหมายความว่า เมื่อฟัง พิจารณา แล้วทำตาม ไม่ว่าโรคใดๆ หลวงพ่อนิพนธ์บอกว่า โลกเขาทำไม่ได้ ไม่มีทางรักษา แต่ที่นี่จะทำให้ดูว่า หากเชื่อธรรมคำสอนของพระภูมีแล้ว มันไม่ยากเลย
นี่แหละเราจึงภาพยักษ์หน้าโบสถ์ของจริงกำลังปรากฎ คนที่อยากหาย แต่ไม่อยากทำตน หรือทำตนไม่ได้ ก็ได้แต่นั่งอยุ่ด้านนอก อยากเข้าก็เข้าไม่ได้ นั่นเอง