หลายคนเห็นสิ่งที่เกิดกับหลวงพ่อนิพนธ์ แล้วอาจจะสงสัยในภาพที่เห็น
หลวงพ่อนิพนธ์อรรถาธิบายว่า ขณะนี้พระพุทธเจ้าทรงอุบัติแล้ว นั่นหมายความว่า อำนาจธรรมที่แม่ชีเมี้ยนถือมาทั้งหมด จะถูกเรียกกลับและมอบให้พระพุทธเจ้า
แลอีกประการหนึ่ง นั่นก็คือการสิ้นอายุขัยของตัวท่านเอง
การกลับมานี้ จึงเป็นกรณีพิเศษ ด้วยการร้องขอของหลวงพ่อนิพนธ์ แลความเมตตาแห่งแม่ชีเมี้ยน ในความซื่อสัตย์ของตัวหลวงพ่อนิพนธ์ที่มีต่อแม่ชีเมี้ยน
ความเมตตาอันใหญ่หลวงนี้ ทำให้ประเทศไทยยังมีสายบุญหลงเหลือ ไว้พึ่ง
กระนั้นก็ตาม หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ไม่เหมือนเช่นในอดีต ที่อาศัยอำนาจที่แม่ชีเมี้ยนให้ แต่สิ่งนั้น ถูกเรียกคืนไปให้แก่พระพุทธเจ้าแล้ว
การกระทำที่เป็นการล่วงละเมิด หรือล่วงล้ำกล้ำเกิน โดยอาศัยอำนาจที่ได้มา ไปขัดขวางหรือช่วยคน โดยที่คนเหล่านั้นบางคนไม่มีคุณสมบัติ ณ.วันนี้ ทำไม่ได้แล้ว
หากแต่ช่องทางที่แม่ชีเมี้ยนเหลือไว้ให้ กลายเป็นร่มน้อย นั่นคือ การจะสร้างอำนาจขึ้นมาอีกครั้ง ก็ด้วยการสอนคน ให้มีวินัยธรรม โดยมีตัวชี้วัดหนึ่งเดียว นั่นคือ การลดนิสัย
ยิ่งลดนิสัยทางโลกได้มาก มีนิสัยพระพุทธเจ้ามากเท่าใด ก็ได้อำนาจบุญไปปกปักรักษาเท่านั้น
ใครที่หวังจะมาทานสมุนไพรเพียงอย่างเดียว แล้วคิดว่าจะประสพความสำเร็จ ณ.ตอนนี้ ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาเสียอีก
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงย้ำเตือนว่า เมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติ เจ้าของเขามาแล้ว การจะทำสิ่งใด ผลย่อมเกิดอันมหาศาล
นั่นก็คือ กรรมมันจะแรง ธรรมเขาก็แรง อุบัติภัยจะทวีคูณตามการกระทำของมนุษย์ ผู้ทีจะทำตนให้รอด ไม่มีหนทางอื่นใด นอกจากวินัยธรรมของพระพุทธเจ้า น้อมนำมานำตน ลดนิสัยกรรม
คำเตือนของครูบาอาจารย์ ที่เราอยากหยิบยกมาให้พิจารณา คือ ไร้ซึ่งกตัญญู ก็ไร้สตินำตน นิสัยเดิมก็ยากจะลด แลอาจเพิ่มทวีคูณ ถึงเวลาก็เตรียมตัวเตรียมใจเผชิญภัยพิบัติ
พระพุทธเจ้าเขาอุบัติในพม่า แต่ประเทศเรา กำลังทำลายพระพุทธศาสนากันมากมาย เอาศาสนามาหากิน ความฉิบหายเกินกว่าจะบรรยาย อย่างแน่นอน
เมื่อหลวงพ่อนิพนธ์รู้ แลมาเตือน ... ใครฟัง พิจารณา เชื่อ ก็รีบทำตนซะ เวลาเหลือน้อยแล้ว
ไม่มีทางรอดอื่นใด นอกเสียจาก ลดนิสัยตน แล้วนำนิสัยของพระภูมีมานำตน ใครทำ ใครได้ ...ทำได้ ก็คือทางรอดที่แม่ชีเมี้ยนทรงให้ไว้