ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ
การกำหนดกิจกรรมใดๆของหลวงพ่อนิพนธ์ย่อมต้องดูผลแห่งการกระทำนั้นๆเป็นหลัก หาใช่ทำตามใจนึก ใจอยาก แต่ล้วนทำแล้วมีผลทั้งสิ้น
กิจกรรมต่างๆ จึงตั้งอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง แต่ก็ต้องยอมรับว่า หลายคนไม่ถูกใจ ไม่ชอบ ไม่อยากทำ
จึงยกเรื่องเล่าที่มีคนเขียนประสพการณ์ของตนในมูลนิธิจากเวปอื่นๆ มาให้พิจารณา
จะเล่าอะไรให้ฟัง
ผมพาพ่อและคนที่บ้านไปรักษามาแล้ว
พ่อผมเป็นเบาหวาน รักษาอาการดีขึ้น แต่รับไม่ได้ที่หลวงพ่อพูดนาน และพูดไปเรื่อยเปื่อย ท่านอยากหายไวๆ กะว่า ไปไม่กี่ครั้งหาย แต่ก็ไปได้แค่ไม่กี่ครั้ง ก็ท้อ ไม่ไป ไปที่อื่น เพราะทานยาแล้วผิวหนังคัน แต่เบาหวานลดลง แต่การคันแล้วทนการอบตัวไม่ไหว เพราะผุพอง เลยไม่ไปอีก อีกทั้งเบื่อเจ้าหน้าที่ อ่านในคอมเมนต์พวกนี้ เลยผสมปนเป ไม่อยากไป
ก็เลยลองไป นครปฐม สิงห์บุรี กรุงเทพ ฯ จำไม่ไหว ลองไปทั่ว เหมือนเดิมต่อ เหมือนก่อนที่จะไปที่มูลนิธิที่กาญจน์ รวมทั้งกลับมาซื้อยาอาหารเสริมกิน เสียเงิน แล้วก็เสียเงิน ทุกครั้งก็จะเล่าให้คนขาย หรือที่นั้นๆ ฟังว่า ไปที่ไหนมา ผมเองก็นั่งฟังเฉยๆ คำพูดก็เหมือนในเว็บนี้เพราะอ่านมานาน ตอนแรกๆ ก็ติดลบ เพราะเชื่อในคำพูดตัวโตๆ ว่ากล้าออกมาแฉแบบสรยุทธ มันส์ดี อ่านแล้วชอบ เพราะไม่เชื่ออีกทั้งไม่เคยรักษาด้วยตนเอง
แต่พอญาติอีกคนเป็นสะเก็ดเงิน เค้าไปรักษาตามที่พ่อผมเคยแนะนำก็หายดีขึ้นมากจากทรมานมานาน เรียกได้ว่า รักษามาเยอะทั้งอาหารเสริม สารพัดยี่ห้อของไทย ของนอก สมุนไพรขายตรง ยาเคมีโรงพยาบาล แต่ก็ไม่หายตอนนี้หายสิ้น ไม่มีอาการสะเก็ดเงินแล้ว ไปสอบถามเค้าดู ก็บอกว่า ศรัทธา อบตัว ทำสมาธิ พร้อมทานสมุนไพรตามที่เค้ากำหนดมาอย่างเคร่งครัด เปลี่ยนจิตใจให้เป็นผู้ให้ อดทนรอคิวได้ ยึดคำสอนของหลวงพ่อมาปฏิบัติ สิ่งที่บังเกิดคือ หาย ดีขึ้นเรียกว่า เกือบ 99% ผมเลยบังคับพ่อกลับไปรักษาอีกครั้ง และตอนนี้ดีขึ้นมาก
โดยปกติญาติผมไม่ว่าไปที่ไหน ญาติบอกมาว่า ก็จะทานยาเคมีหรือสมุนไพรเคร่งครัดเสมอ แต่ก็ไม่หายดูเหมือนจะดีขึ้นในระยะแรกๆ แต่ก็กลับไปเหมือนเดิม แต่ที่มูลนิธิไทยกรุณา ญาติบอกว่า ตอนแรกๆ คันและเห่อขึ้นอย่างมาก แต่อดทนและลองทำตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำก็หายดีมาก สมุนไพรที่หลวงพ่อนิพนธ์และตามตำราแม่ชีเมี้ยน นั้นดีมาก ญาติบอกว่า ไปคุ้ยไปกระทุ้งออกมาจริงๆ ทั้งสะเก็ดเงิน ทั้งผื่นคัน ตอนแรกๆ แทบไม่กล้าไปไหนเพราะเห่อขึ้น พอสักพักก็หายดีขึ้น ดีขึ้น จากเดิมญาติคนนี้ไม่เคยเชื่อเพราะเข็ดกับการรักษาแบบทางเลือก เพราะเสียเงินค่ายาไปเยอะ พอมาที่นี่ไม่ต้องเสียเงิน แค่อุดหนุนซื้ออาหารทาน ไม่เคยบริจาคเงินอะไรทั้งสิ้น นอกจากอุดหนุนสินค้า ทานอาหาร เพราะต้องเจียดเงินเป็นค่าเดินทางไปแต่ละครั้ง ญาติฝากขอบคุณหลวงพ่อนิพนธ์และเจ้าหน้าที่ทุกคน จากตอนแรกไม่เข้าใจ
ที่นี่ไม่ต้องเสียเงิน แค่อุดหนุนซื้ออาหารทาน ไม่เคยบริจาคเงินอะไรทั้งสิ้น นอกจากอุดหนุนสินค้า ทานอาหาร เพราะต้องเจียดเงินเป็นค่าเดินทางไปแต่ละครั้ง ญาติฝากขอบคุณหลวงพ่อนิพนธ์และเจ้าหน้าที่ทุกคน จากตอนแรกไม่เข้าใจทำไมต้องเคร่งครัด ทำไมต้องเข้มงวด ตอนหลังๆ มาเข้าใจดีและรู้สึกโชคดีมากๆ
ส่วนตัวผม ขอสรุปให้ว่า พวกรักษาเก็บเงิน ขายยา น่าจะเดือดร้อนมากที่สุด รองลงมา พวกไม่ตั้งใจหรือไม่ทำความเข้าใจ ให้ปฏิบัติตามได้
เพราะผมนี่แหล่ะมีประสบการณ์ตรงที่ว่า จากเงินที่ต้องไปจ่ายซื้อยา อาหารเสริม พวกสมุนไพรที่นำมาสกัดขาย จ้างดรงงานผลิต แบบไม่รู้คุณค่าที่แท้จริง ทำให้ผมรู้ดีว่าอะไรคือของจริง อะไรคือของปลอม เพราะจ่ายเงินไปเยอะมากรักษาคุณพ่อ ต่างอวดอ้างสรรพคุณ พูดโจมตีคนอื่น ยิ่งรู้ว่าที่ไหนรักษาฟรี พวกนี้จะบอกว่า เชื่อถือไม่ได้ อันตราย หลอกลวง สุดท้ายก็เหมือนกันตรงที่ว่า สินค้าของตนเองดี ชวนผม ไปทำขายตรงด้วยกันอีก เฮ้อออ
ในความคิดผม จากที่เคยเห็นหลายคนที่ไปมูลนิธิ ระหว่างผมนั่งรอยาก็จะเห็น ทั้งมาแบบโดนลากขึ้นรถมา ฉุนเฉียวโมโห ไม่อยากรอ อยากไปให้พ้นๆ แต่เกรงใจเพราะต้องพาญาติมารักษา ซึ่งตอนแรกๆ ผมก็เป็น ก็อดขำไม่ได้ เพราะตนเองก็เคยเป็นแบบนั้น ขี้เกียจรอ
ไม่มีครูฝึกที่ไหนที่ไม่โหด เพราะรู้ดีว่า สิ่งที่ต้องเผชิญนั้น ราคาคือชีวิต ความทุกข์ที่เราท่านได้รับ น้อยนิดนัก ที่ทำเพื่อแลกกับความทุกข์จากโรคในภายภาคหน้าที่จะบังเกิด
หากแต่ต่างจิตต่างใจ สถานที่นี้หลวงพ่อนิพนธ์ตั้งมาด้วยเจตนาดี เป็นตัวแทนของแม่ชีเมี้ยน เสนอตนมาเป็นทางเลือก มาลองแล้วชอบก็ทำตาม ไม่ชอบก็ไม่ว่ากัน
ดังนั้น หลวงพ่อนิพนธ์สอนให้เคร่งครัด บังคับตน ให้เกิดความสงบ เป็นสิ่งถูกต้อง ทำแล้วช่วยตนได้ แต่มันจะไม่ถูกใจใคร ก็ช่วยไม่ได้ ไม่อยากทำตาม ไม่สน จะอ่านหนังสือ จะทำงาน จะนั่งเล่นโทรศัพท์ จะคุยกัน ไม่ว่า ... เพราะฟ้าดินเขาบัญญัติหนทางไว้แล้ว ใครทำ ใครได้
หากผลแห่งการกระทำไม่สำเร็จ โทษใครไม่ได้เลย
สัปดาห์ที่แล้ว ญาติคนไข้ท่านหนึ่งแจ้งว่า คุณแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งสิ้นแล้ว แต่ดีใจมากเพราะท่านไปสงบ จนวาระสุดท้ายก็บอกลาลูกๆ แล้วขอนอน ภาพนี้ทำให้คุณหมอเจ้าของไข้ถึงกับต้องถามเจ้าของไข้ว่า ให้อะไรคุณแม่ทาน เพราะผลตอบรับดีกว่ามอร์ฟีนในมือหมอมากนัก เสียดายที่เจอช้า เพราะคุณแม่ของหมอก็จากไปด้วยมะเร็งเช่นกัน แต่สภาพต่างกันราวฟ้าดิน แลทิ้งท้ายว่า จัดงานเสร็จ ก็จะมากราบขอบคุณหลวงพ่อนิพนธ์
แต่ที่เราเสียดายยิ่งกว่า ด้วยหนทางที่ดีกว่านั่นคือ การมีพระและส่งเสริมพระ ที่ทรงวินัยของพระภูมีเยี่ยงอดีตพุทธกาล เพิ่งจะถูกรื้อฟื้น หนทางแห่งความสำเร็จในการฟื้นฟูตน จะเปิดกว้างกว่านี้มากมายนัก