ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558
พายุกำลังมา
นักวิทยาศาสตร์ นักพยากรณ์ หมอดู หมอเดา มีกันทั่วโลก ทั่วประเทศ ... แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า มหันตภัยของมนุษย์โลก กำลังจะมา
และนี่คือบทพิสูจน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างหนึ่ง อันจะทำให้เราท่านทั้งหลายได้เห็นว่า ... บรรดาสรรพสิ่ง ที่กล่าวอ้างกันว่า มีฤทธิ์ มีอำนาจ มีบารมีปกปักรักษาคุ้มครอง ... แท้จริงแล้ว เป็นเพียงอุปาทานที่มนุษย์สร้างขึ้นมาหลอกตน ... ไม่มีจริง
พยากรณ์ของแม่ชีเมี้ยน ที่กล่าวเตือนให้ตื่นตัว แล้วปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ด้วยการนำธรรมคำสอนของพระภูมี มานำตน .. จึงจะเป็นหนทางที่ผ่านภัยพิบัติได้
เหตุแห่งภัยนี้ ทรงกล่าวว่า เป็นกรรมโดยรวมของมนุษย์ ด้วยความห่างไกลศาสนา ทำให้มีพฤติกรรมที่ไม่กลัวกรรม ท้ากรรม อันทำให้โลกเสียสมดุลย์
แลเมื่อถึงปลายของศาสนาในยุคของพระพุทธเจ้าองค์ที่ผ่านมา กรรมอันนี้ก็จะมาสร้างทุกข์เข็ญให้แก่มนุษย์อันมหาศาล และแก้ไม่ได้ ... ต้องดิ้นรนแสวงหาหนทางเพื่อดับยุคเข็ญอันนี้ ...
นั่นคือ จะมีคนที่อาสาทำตน และพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ก็จักอุบัติ มาต่อยุคของพุทธศาสนา เป็นเช่นนี้ทุก ๒๕๐๐ ปี
กรรมอันนี้ จะบีบมนุษย์ให้ไปพึ่งพระพุทธเจ้า ... นี่คือวัฐจักรของจักรวาล
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงชี้ให้เห็นว่า การทานสมุนไพร ในอดีตที่ล่าช้า เพราะเราท่าน มุ่งแต่สมุนไพร อาศัยบุญของท่านเป็นตัวค้ำจุน ไม่ยอมทำเอง
มาวันนี้ การทำเช่นนั้น ไม่ได้แล้ว เพราะหลวงพ่อนิพนธ์แม้นจัดมีบุญมากสักฉันใด ก็ไม่สามารถแบกรับเราท่านทั้งหมดได้
ฉะนั้น ณ.ตอนนี้ เพื่อให้มรรคผลในการทานสมุนไพร เป็นกอบเป็นกำ และคัดกรองคน หลวงพ่อนิพนธ์จึงจำเป็นต้อง รวบรวมบุญกลับมายังตน แล้วสอนให้เราท่านทุกคน สร้างบุญเป็นที่พึ่งของตนเอง
เคล็ดที่หลวงพ่อนิพนธ์ทรงนำมาใช้ คือ คำตรัสของแม่ชีเมี้ยน ที่ชี้ให้เห็นว่า กรรมที่มันตามติดเราท่านมานั้น จะหนีสักฉันใด ก็หนีไม่พ้น เพราะมันจำนิสัยเราท่านได้ การจะหนี จึงต้องเอานิสัยพระพุทธเจ้ามานำตน สร้างเป็นนิสัยใหม่
นี่คือ ที่มาของการถวายสัจจะ และความหมาย
อ.อร่าม จึงกล่าวว่า ตอนนี้ จึงเข้าสู่กระบวนการสอบ นั่นคือ ใครทำ ใครได้ ไม่มีตัวช่วยจากหลวงพ่อนิพนธ์เหมือนอดีตอีกแล้ว
ทุกครั้งนับแต่นี้ อ.อร่าม ก็จักนำถวายสัจจะ ให้เราท่าน ไปทำเพื่อช่วยตน อันเป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดฤทธิ์และผลแห่งการทานสมุนไพร
อ.อร่าม จึงเน้นให้เห็นว่า ผู้ใดทำได้ ผลก็จักมหาศาล รวดเร็วเหมือนปาฏิหารย์ ผู้ใดไม่ทำ แม้นทานสมุนไพรสักฉันใด ผลก็อืดเป็นเรือเกลือ หรือ ไร้ผลก็เป็นได้
ผลแห่งการฟื้นฟูตน จะเป็นดัชนีชี้วัด คุณสมบัติว่า ผู้ที่มาและทานสมุนไพร ... เชื่อมั่น ศรัทธา แล้วทำตามหรือไม่
เพราะเหตุหรือมหันตภัยที่กำลังมา ไม่ใช่แต่เพียงมาทำลายมนุษย์ แค่แต่เพียงด้วยโรค หากแต่ภัยจาก ดิน น้ำ ลม ไฟ ก็จักประดังเข้ามาด้วย
การปฏิบัติ จึงมิใช่หยุดแค่หายโรค หากแต่ต้องปลอดภัยจากภัยพิบัติที่พึงเกิดด้วย ... เพราะหากไม่ตายด้วยโรค แต่ตายด้วยอุบัติเหตุแห่งภัย ก็ตายเหมือนกัน เรียกว่าไม่ประสพผลเช่นกัน
จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ... ทำไมปีนี้ หลวงพ่อนิพนธ์จึงเน้นย้ำ เรื่องการขอขมา เป็นยิ่งนัก โดยเฉพาะ ดิน ฟ้า อากาศ ธาตุธรรมทั้งสี่ ..
คนที่มุ่งมั่นทานสมุนไพร แต่ไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมอันใดเลย ... เราจึงขอเตือนว่า ... เวลาของท่านกำลังจะหมดลงแล้ว ... คุณสมบัติของท่านไม่ผ่านเกณฑ์ของศาสนา ... ถึงเวลากรรมก็จะพรากท่านไป ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ... ที่เราเห็นบ่อย นั่นคือ ประสพเหตุ เช่นลื่นล้ม ขาหัก ... ทำให้มาไม่ได้...
เพราะท่านไม่มีใจอยู่แล้ว กรรมเขาหยุดกายท่านไม่ให้มาได้ ... ท่านก็จะกลับเข้าวังวนของวิบากกรรม ... หมดหนทางช่วยตนแล้ว
ใครจะฝันหวาน วาดอนาคต ความเจริญ ก็ว่ากันไป
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ด้วยภัยพิบัตินี้ พระพุทธเจ้าจึงอุบัติมาดับยุคเข็ญ คนทั้งโลกจะยอมรับ ... นี่นั่นคือการสิ้นสุดของยุคพระพุทเจ้าโคดม ... และเริ่มพุทธศักราชที่ ๑ ของพระพุทธเจ้าองค์ใหม่
ผู้ไม่รู้จึงประมาท .. เราท่านเมื่อรู้ ได้รับคำเตือนจากหลวงพ่อนิพนธ์ ก็พึงตื่นตัว ไม่ประมาท ... เริ่มปฏิบัติตั้งแต่วันนี้ ... ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นิสัย ... ใช้สัจจะมานำตน .. เริ่มวันละหนึ่งชั่วโมง ทำได้ ก็ค่อยๆเพิ่มไป
พิจารณา เหตุและผล เชื่อ ก็ทำ ไม่เชื่อก็ไม่ว่ากัน ... ผลที่เกิด นั่นแลจะเป็นตัวชี้วัด ว่าการกระทำนั้นถูกหรือผิด
แลเมื่อภัยพิบัติมาถึง เราท่านจะเห็นชัดว่า ... ความเชื่อใดที่เป็นลม .. ไม่มีตัว ไม่มีตน ไม่มีจริง ... ช่วยตนไม่ได้ ... แลคำตรัสของแม่ชีเมี้ยน ... ที่ว่า ... ศาสน์ที่แท้จริงเมีพียงหนึ่ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ได้มีเกลื่อนกันไปทั้งโลกหรอก ... เขามีเพียงหนึ่ง และที่สำคัญ มีเจ้าของ ไม่ใช่ใครอยากได้ อยากมี ก็เชิญไป .. นั่นมัน มโน กันไปเอง