หากแต่ความเป็นจริง แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า ก่อนจะเป็นพระพุทธเจ้า ท่านก็เป็นมนุษย์ มีนิสัย มีกิเลส มีโลภ โกรธ หลง มากมาย เหมือนทุกคน
นั่นจึงเป็นเหตุที่ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ทรงทำตน ตัด โลภ โกรธ หลง ได้ จึงเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่
หากแต่ภาพที่สร้างให้เห็นทุกวันนี้ กลับกลายเป็นผู้ที่เลอเลิศ ไม่มีนิสัยอันใดที่ไม่ดีเลย ทำมาหลายชาติ นั่นก็คือ การเป็นพระพุทธเจ้า แทบไม่ต้องตัดนิสัยอันใดเลย ซึ่งหาเป็นเช่นนั้นไม่
นี่เองเป็นจุดอ่อน ่และจุดเปราะบาง หรือกับดัก ที่คนนอกรีต เขียนไว้ ทำให้มนุษย์ทั่วไป ทุกผู้ทุกนาม เมื่อเกิดมาแล้ว ดูพุทธประวัติ ก็หาได้เป็นอย่างอดีตพระพุทธเจ้าไม่ พิจารณาตน ก็เห็นว่า มีนิสัยอยู่เต็มไปหมด จึงสรุปว่า ตนเองไม่สามารถทำตนดั่งอดีตพระพุทธเจ้าไม่
ที่สำคัญอีกประการ กลับบอกว่า การเกิดพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ แสนนาน นับปีไม่ไหว
หากแต่ความจริง อายุของยุคพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ นั่นก็เพียง ๒๕๐๐ ปี เท่านั้นเอง ...
นั่นหมายความว่า หากคำตรัสของแม่ชีเมี้ยนเป็นจริง ในไม่ช้าเราท่านจะได้เห็นพระพุทธเจ้าองค์ใหม่อุบัติขึ้น แลจะได้รู้ว่า พระพุทธเจ้านั้น ก็คือ มนุษย์ธรรมดา ที่มีความปรารถนา อยางจะถึงซึ่งนิพพาน
และความจริงอีกอย่างหนึ่งที่จะปรากฎ นั่นคือ พระพุทธเจ้า ก็ต้องมีครู
แลบุญที่พระพุทธแต่ละพระองค์ จักพิสูจน์ให้คนเห็นว่า บุญของท่าน นั่นไม่ใช่เกิดจากการสร้างอิฐ สร้างปูน หากแต่เกิดจากการตัดนิสัย ...
อันเป็นเหตุที่ทำไมพระโคดม จึงต้องทิ้งเวียงวัง เพราะทรัพย์ที่มี ใช้หาบุญไม่ได้นั่นเอง
ไม่ใช่คิดจะมาต่อต้าน คัดค้านใคร แต่เกรงว่า วันหนึ่งที่พระพุทธเจ้าอุบัติ ความฝังใจในภาพของพระพุทธเจ้า ที่สร้างกันมากมายในวันนี้ จะทำให้พลาดโอกาส เพราะพระพุทธที่อุบัติ ไม่เป็นดั่งที่วาดฝัน แล้วจะทำใจรับยาก
แค่ประการแรก ที่จะเห็นเด่นชัด นั่นคือ พระพุทธเจ้า ก็ทรงมีศรีษะโล้น เหมือนพระทั่วไป ไม่มีเกศอย่างแน่นอน ... ไม่มีรัศมีฉายส่อง ดั่งที่ภาพวาด หรือหนังทำให้เห็น เช่นกัน ไม่มีเนื้อตัวเหลืองเป็นทองอร่าม เพราะทรงเดินธุดงค์เป็นวัตร ผิวก็ดำคล้ำอย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่จะเห็นทั้งพระพุทธและสาวก นั่นคือ วัตรปฏิบัติที่สวยงาม แลเด่นชัดที่สุด นั่นคือ ความสงบ
มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ หลวงพ่อนิพนธ์ยืนยันว่า พระพุทธและสาวก นั้น ท่านฉันมื้อเดียว รถเรือไม่ขึ้น เงินทองไม่รับ มีกิจธุดงค์เป็นวัตร ... ที่สำคัญ ใช้สัจจะนำตน ไม่ใช้ศีลอย่างแน่นอน
แลเป็นเช่นทุกยุค ทุกสมัยของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ นั่นคือ ศีลมันเฟื้องฟู มีมาก่อนพระพุทธเจ้าทรงอุบัติ เหมือนในวันนี้ ที่มีแต่ศีลเต็มบ้าน เต็มเมือง
เพราะทรงมีนิสัยเยี่ยงคนทั่วไป เมื่อทำตนได้ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์จึงถูกขนานนามว่า "มนุษย์เหนือโลก" ไม่ทำตนไปตามโลก คือไม่มีนิสัยโลก มีแต่นิสัยธรรมนำตน นั่นเอง