วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

วันพระ

การกำหนดของหลวงพ่อนิพนธ์ ไม่ได้เลื่อนลอย คิดเอาเอง อยากทำแบบไหนก็ทำ หากแต่สิ่งที่ทำล้วนมีรูปรอบมาจากครั้งพุทธกาลทั้งสิ้น เป็นแต่ย่อส่วน เอามาใช้ เป็นบางสิ่งบางอย่าง

การกำหนดจังหวะในการทำกิจกรรม ด้วยการให้สมุนไพรไปพอทาน ครบสัปดาห์ ก็เช่นกัน บางคนบอกว่าทำไมไม่ให้สองสัปดาห์ หรือเดือนนึงมาที จะได้ไม่เปลืองค่ารถ ไม่เสียเวลา

คนบางคนก็คิดผิดเลยไปว่า สงสัยจะได้ขายของ ได้เงินเยอะๆ ทั้งที่ความจริงแล้ว ค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรม มากกว่ารายได้จากการขายของ อาหารการกินหลายสิบเท่านัก

การบัญญัติเยี่ยงนี้ มีหลายเหตุปัจจัย อย่างแรกก็คือ หกวันใช้ในการดำรงชีวิต เพื่อครอบครัว แต่หนึ่งวันนี้ เพื่อชีวิต หกวันเพื่อสุขของสังขาร หนึ่งวันเพื่อสุขของวิญญาน

หกวันที่ใช้ในโลก มันจะยิ่งเพิ่มนิสัยบาป หนึ่งวันนี้จึงใช้เพื่อไถ่บาป ทำให้คนทุกข์ มาฝึกนิสัยบุญนิสัยของพระพุทธเจ้า จะได้มีสติ และก็มาใช้กรรม หรือที่ อ.อร่ามมักพูดว่า มาเข้ากรรมกัน ใช้ขันติอดทน ทนปวดเมื่อยยามสวดมนต์ ฟังธรรมของครูบาอาจารย์ ทนร้อนในกระโจม ทนอารมณ์ ไม่ว่าคนที่มาด้วย หรือแม้นกระทั่งจากเจ้าหน้าที่ เรียกว่าฝึกให้มีสติ

พระท่าเล็งเห็น ท่านชลอจึงไม่อยากให้เราท่านเสียเวลาเปล่า จึงให้วางสัจจะนำนิสัยพระพุทธเจ้ามาเป็นสติในระหว่างที่อยู่นี้ ฝึกไว้ ไม่โกรธ ไม่ติเตียนผู้อื่น

หากทำได้ย่อมเป็นบุญ ช่วยในการเสริมฤทธิ์สมุนไพร มิเพียงแค่นั้นเมื่อกลับไปในโลกของตน หากยังใช้นำตน ก็ลดหรือหยุดบาปได้

คนดี ในศาสน์ มีความหมายง่ายๆ คือคนที่เรียนรู้เรื่องกรรม และกลัวกรรม จะมีอำนาจเหนือตน จึงเอาสัจจะเอานิสัยพระพุทธเจ้า มานำตนเป็นสติ เริ่มจากน้อยๆ พอทำได้ สักวันละหนึ่งชั่วโมง ยิ่งทำมาก โอกาสสร้างบาปสร้างกรรมก็น้อยลง ตนของตนก็จักกลายเป็นคนดีมากยิ่งขึ้น

หากแต่สิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์สอน การมาสวดมนต์มีผลอย่างหนึ่ง อุปมาเหมือนกรมธรรม์อุบัติเหตุ หากแต่ไม่ใช่เกิดแล้วใช้ แต่คุ้มครองกายอวัยวะ32 ได้7 วัน นี่จึงเป็นเหตุแห่งการกำหนดวันพระ ครบสัปดาห์ ก็มาสวดมนต์ มาทำบุญกับคนทุกข์ มาฝึกนิสัย และก็มาต่อกรมธรรม์นั่นเอง

แลสิทธิ์นี้ ศาสน์เขามีพื้นที่กำหนดตามแต่ผู้ถืออำนาจขีดพื้นที่ อันเรียกเขตพัทธสีมา อยู่ในเขตจึงได้สิทธิ์ หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวเสมอ ใครอยู่ด้านนอกไม่รับผิดชอบ เราท่านที่มาอยากนั่งสบาย กูไม่เข้าไป นั่งลำบาก อึดอัด ไม่ชอบเบียด ... ทำเหมือนกัน สวดมนต์เหมือนกัน ฟังเหมือนกัน แต่ผลไม่เหมือนกัน ขอยืนยัน

การมาในวันพระของพุทธบริษัทในอดีต หรือการมาที่นี้ทุกสัปดาห์ จึงมีความหมาย ต่อชีวิต... หากแต่มองสิ่งที่เห็น ตาก็มองแต่ว่าจะเป็นการสูญเสีย เสียค่ารถ เสียเวลาทำกิน เสียเงิน เสียโอกาส....

แต่สิ่งที่เสียใช้ช่วยเรื่องของชีวิตไม่ได้เลยแม้นสักน้อย สิ่งที่ทำในวันพระต่างหาก ทำแล้ว ปวดก็หายปวด เป็นโรคก็หายได้ ทำแล้วให้สุขแก่วิญญาน หลวงพ่อนิพนธ์จึงสรุปให้ฟังเสมอว่า ท่านให้ค่าแก่ชีวิตมนุษย์ไว้สูง ดังนั้นการดำเนินกิจกรรมจึงไม่มีวันหยุด ไม่มีนักขัตฤกษ์ คนที่ไม่มา ส่อคุณสมบัติ นั่นคือคนที่เห็นค่าของชีวิตตนต่ำ เรียกว่าขาดคุณสมบัติในการกอบกู้ชีวิตตน

หากช่วยตนจนพ้นแล้ว จะไม่มาที่นี่ ก็ไม่ว่ากัน แต่ระหว่างช่วยตน พฤติกรรมเช่นนี้น่าเป็นห่วง ยากจะช่วยตนขึ้นมาได้

วันพระจึงเป็นวันที่เราท่านต้องตื่นตัว ตั้งสติ และกอบโกยบุญให้มากที่สุด เอากบับไปใช้ในโลกของตน ..น่าเสียดายหลายคนไม่รู้ค่า มาแล้วก็ปล่อยเลย เสียเวลาเปล่า มาถึงแหล่งบุญ ได้แต่ของแถมคือสมุนไพร มองดูบุญติดกลับไปแทบไม่มี มิหนำซ้ำบางคนกลับพกบาปกลับไปอีกต่างหาก

แผ่นดินของแม่ชีเมี้ยน ทำบุญบุญมหาศาล ทำบาปก็ทวีคูณเช่นกัน .., แถมมาไวอีกต่างหาก...

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44