วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ต้องเป็นปราชญ์


ศาสนาของพระภูมี สอนให้คนเป็นปราชญ์

คำถามที่น่าคิด ทำไมต้องเป็นปราชญ์ด้วยเล่า ไม่ต้องพูดถึงนิพพาน ก็ที่มานี่หวังแค่หายโรค จะเป็นปราชญ์ไปทำไม

ดูที่อื่นเขาทำสิ จ่ายเงิน รับยา หรือทำพิธีกรรม แล้วกลับบ้าน ไม่เห็นต้องยุ่งยากเป็นปราชญ์ให้วุ่นวาย ปวดหัว ไปหาหมอ จ่ายตังค์ เอาพารามา จบแล้วหายปวดแล้ว

ทำไมที่นี่วุ่นวายจัง เห็นว่ากินแล้วหาย เล่นตัวจัง ต้องโน่นนี่นั่น บางคนก็เลยไปถึง ถ้าอยากได้เงิน ก็บอกราคามาเลย ไม่ต้องมากพิธี จะได้รีบจ่าย รีบกลับ เสียดายเวลา

ศาสตร์ของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ว่า ทำอยู่ในร่อง เหตุและผล จะทำสิ่งใดต้องพิจารณา

เพราะเหตุแห่งโรค คือ กรรม มาเพื่อสร้างทุกข์ แลโลกนี้ ไม่มีอะไรทำลายกรรมที่เราท่านทำไว้แล้วได้ เมื่อพิจารณาก็จะเห็นว่า การทานยา ไม่ใช่ดับเหตุ แต่เป็นเลี่ยงเหตุ เมื่อหมดฤทธิ์ยา เหตุจึงย้อนกลับมา คือเป็นอีก จึงเลิกทานไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น สร้างผลที่ร้ายแรงตามมา นั่นคือ ทำเสมือนทดน้ำ กั้นเขื่อน ทีนี้มาอีกทีเหมือนเขื่อนแตก ไม่ใช่ปวดหัว มาเป็นมะเร็งเลย มิหนำซ้ำ ผ่านไปตรงไหน ตรงนั้นพัง ได้โรคเพิ่ม

พูดฟังง่าย คือ ทำเอาง่าย มักง่าย คิดว่าจ่ายแล้วจบ แต่มันไม่จบ หนำซ้ำอาจร้ายแรงจนถึงต้องเสียชีวิต ก่อนพรหมลิขิต หรือ พรหมลิขิตหักกลาง ท่านจึงว่า นี่แลการทานยาเคมีจึงเพิ่มบาปหนัก คือ บาปที่ฆ่าตน นั่นเอง

แต่หลักปราชญ์ ท่านอาสิชี้ ควรแก้ที่เหตุ คือ "นิสัยกรรม" ด้วยเอานิสัยธรรมมานำตน เสมือนกองไฟ ทานยาเคมี เหมือนดูดควันหาย ไฟยังอยู่ เชื้อยังเติม หากตัดนิสัยกรรม เท่ากับทำลายเชื้อที่มาสุม ไฟที่ลุกย่อมค่อยๆมอด แลดับลงในที่สุด

ถ้ามีนิสัยธรรมด้วยแล้ว เสมือนมีน้ำดับช่วยดับ ยิ่งเร็วใหญ่

บทสรุป หลักปราชญ์ สอนให้ แก้ที่เหตุ ผลจึงเกิด ยิ่งไปกว่านั้น สอนให้ไม่สร้างอีก ไม่ทำอีก จะได้ไม่เป็นอีก

ถ้าไม่เป็นปราชญ์ สิ่งที่ทำนึกคิดเอง เออเอง นึกว่าทำถูก เอาง่าย อาทิ มะเร็ง แก้ไม่ได้ตัดเลย แล้วบอกหาย รู้อีกที ลามไปทั่วตัว ไม่มีเวลาแก้แล้ว

ที่สำคัญสุด คือ คิดแต่พึ่งผู้อื่น แต่หลักปราชญ์ชี้ อยากหายต้องพึ่งตนเอง


ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44