ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
สุดยอดปฏิมากรรม
โลกใบนี้กล่าวกันว่า มีสุดยอดสิ่งมหัศจรรย์หลายที่หลายแห่ง ที่แม้นแต่บางที่มนุษย์ยุคนี้จะสร้างก็ยังยากลำบาก
หากแต่ปฏิมากรรมที่ทรงคุณค่าที่สุด ย่อมควรมาจากสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในโลกเฉกเช่นเดียวกัน
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า โลกนี้สิ่งที่มีค่ามากที่สุด คือ "มนุษย์"
เพราะมนุษย์สามารถทำอะไรได้ มีความคิดความอ่าน ไม่ว่าทางดีหรือร้าย ก็อาจมีผลมหาศาลแก่ผู้อื่น แลสรรพสัตว์ทั่วโลกได้
ดังนั้น ปฏิมากรรมล้ำค่าที่สุดในโลก ก็หาเปรียบได้กับ การสร้างคนให้เป็นคนดี ตามครรลองของศาสนาไม่ แม้นมีเพียงหนึ่ง ก็มีคุณค่าสุดประมาณ
เมื่อผู้หนึ่งผู้ใดทำตนได้ กลายเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเรียกว่า สามารถสะเทือนฟ้า สะเทือนดิน ที่ต่างแซ่ซ้องสรรเสริญ
หากเราท่านอยากรู้ว่า กว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าลำบากเพียงใด ก็ลองเอาสัจจะบางสิ่ง บางอย่าง ที่พระพุทธเจ้าบัญญัติ แม่ชีเมี้ยนนำมาให้หลวงพ่อนิพนธ์สอน แล้วทำดู จะรู้ว่า มันยากยิ่ง โดยเฉพาะตอนเริ่ม
เราท่านจะได้สัมผัสรู้ว่า มารผจญเป็นเช่นไร ที่จะทำให้เราท่านเสียซึ่งสัจจะนั้นๆไป
หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า อุปมาเสมือน เมื่อเราท่านเชื่อธรรม กรรมเขาก็ต้องลองของ ลองตบะเราท่านดู นั่นเอง
พระพุทธเจ้าทำตนได้ ตลอดเวลา ท่านจึงมีความสุขตลอดเวลา เพราะกรรมไม่สามารถมาเป็นผู้นำท่านได้ และก่อให้เกิดทุกข์ในภายภาคหน้า
หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า นั่นหมายถึงนิพพาน
หากแต่เราท่านที่มาเดินตาม กระทำตน เดินอยู่ในสัจจะ ชั่วครู่ชั่วยาม เช่น ไม่โกรธ ไม่เห็นผู้อื่นผิด หากทำได้ แม้นจะเพียงวันละชั่วโมง ก็ตาม ผลแห่งการกระทำนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เราท่าน ได้รับสมบัติของศาสนา คือ ความไม่มีโรคแล้ว
การสร้างตน ควบคุมตน จึงเป็นปฏิมากรรมขั้นสุดยอด ที่แต่ละบุคคล จะพึงสร้างขึ้นมาเองได้ เพราะน้อยคนที่จะทำได้ จึงไม่แปลกที่คำกล่าวในยุคของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะได้ยินกันทั่วไปว่า "สาสนาของพระพุทธนั้นดี แต่ไม่เอา เพราะมันทำยาก ไปขอพรดีว่า ไม่ต้องทำอะไร"
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า ธรรมหมวดสมุนไพรของพระภูมี สมุนไพรจึงเป็นจุดเริ่มในการหายโรค เท่านั้นเอง หากแต่ไม่ใช่แก่นที่จริงแท้ของธรรม เพียงแต่เป็นเครื่องมือให้โอกาส ได้เรียนรู้ ได้พิจารณา แล้วทำ ผู้ใดสามารถนำธรรมคำสอน คือ นิสัยของพระพุทธเจ้า มานำตนได้ กลายเป็นนิสัยตนแล้วไซร้ นั่นแลคือ ถึงซึ่งสมบัติของศาสนา คือ ความไม่มีโรคแล้ว
เมื่อผู้ใดทำตนได้ ก็อุปมาเสมือนได้คาถาปลุกเสกสมุนไพร ได้เองแล้วนั่นเอง
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ผู้ที่ทำตนได้ แม้นจะไปอยู่ในที่ห่างไกล ไม่มีสมุนไพร ก็สามารถนำน้ำ แล้วตั้ง่จิค ทำสัจจะควบคุมนิสัยตน เมื่อครบตามกำหนด น้ำนั้นก็อุปมามีฤทธฺิ์เสมือนสมุนไพรได้เช่นกัน
เราจึงไม่แปลกใจว่า ทำไมแม่ชีเมี้ยนจึงตรัสว่า หนทางเดียวที่รอด จึงไม่ได้อยู่ที่การทานสมุนไพร หากแต่อยู่ที่การลดนิสัยเดิมของตนที่ทำร้ายผู้อื่น เปลี่ยนมาใช้นิสัยพระพุทธเจ้านำตน
จึงน่าเสียดายยิ่งนัก ที่หลายคน อาจจะหยุดแค่ทานสมุนไพร แล้วหายโรค นั่นก็แค่เบื้องหน้า ตราบใดที่นิสัยยังคงอยู่ สักวันมันก็ต้องย้อนกลับมา ไม่จำเป็นหรอกต้องโรคเดิม โรคอะไรก็ตายเหมือนกัน
เฉกเช่นในอดีต ชายผู้หนึ่งเป็นเอดส์ แล้วไปบวชเป็นพระ จนอาการของตนเลวร้าย ทราบข่าวมาหาหลวงพ่อนิพนธ์ หลวงพ่อนิพนธ์จึงให้รับสัจจะบวชเป็นพระในหลักของแม่ชีเมี้ยน ๓ ปี ชายผู้นั้นรับปาก หากแต่เวลาผ่านไป ๓ เดือน จากอาการเลวร้ายสุดๆ เนื้อผิวหนังเน่าเปื่อย กลายมาเป็นคนปกติ แข็งแรง ทำงานได้ แล้วพระรูปนี้ก็หนีกลับบ้าน ไม่ถึงปี ทางบ้านก็ส่งข่าวมาว่า พระรูปนี้เสียแล้ว หากแต่ไม่ใช่โรคเอดส์ แต่ด้วยเหตุไตวายฉับพลัน เกิดน้ำท่วมปอด
ใครจะทำตนฉลาด คิดจะมาหลอกทานสมุนไพร พอหายก็ชิ่ง นั่นจึงเป็นการไม่ฉลาดเลย อย่างแท้จริง
ผู้ใดทำตนได้ จนได้นิสัยพระพุทธเจ้าติดตนไป นั่นแลเราว่าผู้นั้นเป็นปฏิมากรชั้นเลิศ และจะกลายเป็นคนดี ที่ดีจริงๆ ดีตามศาสนาบัญญัติ เป็นผู้ให้สุขแก่ผู้อื่นในสำนึก ตลอดเวลา ใครได้คบย่อมยินดี