สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ทั่วผืนแผ่นดินไทย เป็นที่กำลังนิยม และมีผู้คนหลั่งไหลกันไป ศรัทธาเนืองแน่นไม่ขาดตอน ไม่ว่าที่ใด นั่นคือ การสร้างสิงที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เรามีพระโน่น พระนี่ ใหญ่ที่สุดในโลก โบสถ์ใหญ่ที่สุดในโลก ... ที่สุดในโลก กันมากมาย และก็ชวนให้เชื่อว่า นั่นแลเป็นทางบุญ ใครได้ร่วมอานิสงฆ์มากมายมหาศาล สวรรค์รออยู่เบื้องหน้า
แล้วก็มีพระทันใจ ผุดกันขึ้นอย่างกับดอกเห็ด เสมือนสินค้าฮิตติดตลาด สนองความต้องการผู้คน ที่ต่างมากราบไหว้เพื่อขอ
เราก็ไม่ก้าวล่วงไป เพราะเป็นความคิดความชอบส่วนตัว ดั่งสมัยพ่อขุน ใครใคร่ทำ ใครใคร่ศรัทธา นับถือ ก็ทำไป เพื่อความสบายใจแห่งตน
แต่สถานที่ของหลวงพ่อนิพนธ์ ภาพก็กำลังปรากฎถึง ความคิด ของผู้ที่มาเช่นกัน
พฤติกรรมที่แสดงออก ย่อมสะท้อนถึงจิตวิญญาณ ของผู้กระทำ อย่างแน่นอน
สถานที่นี้ หลวงพ่อนิพนธ์ สร้างให้เป็นแหล่งบุญ นั่นคือ การให้ การเสียสละ เพื่อคนทุกข์ สัญญลักษณ์ คือ การสร้าง ด้วยจิตเมตตา
เราท่านจึงพึงระลึกว่า สถานที่นี้ ไม่มีองค์กร หรือ หน่วยงานใด มาอุดหนุนจุนเจือ ทุกสรรพสิ่ง จึงต้องอาศัย ความร่วมมือของคนในชุมชน
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ทุกชุมชน ย่อมมีบุคคลสองกลุ่ม หนึ่งคือ ชูชก สองคือ เวสสันดร เป็นธรรมดา
สถานที่นี้ ไม่อวดอ้าง สร้างภาพบุญ ให้แก่ผู้คน เสมือนการสร้างวัด เจดีย์ หรือ พระใดๆ อย่างแน่นอน หากแต่โบราณกล่าวว่า ช่วยคนหนึ่งคน ดีกว่าสร้างเจดีย์ เจ็ดวัด
ภาพที่ปรากฎ ก็จะฟ้องตัวมันเองว่า สถานที่นี้ พลังของเหล่าพระเวสสันดร จะสู้เหล่าชูชกได้หรือไม่
เราจึงอยากให้พิจารณา หากท่านเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สถานที่นี้ ควรหรือไม่ที่จะสถิตย์อยู่ ด้วยพฤติกรรมทุกวันนี้
ก็อย่าแปลกใจเลยว่า ทำไมหลวงพ่อนิพนธ์จึงต้องไปทำที่ลพบุรี และคัดคน
และก็อย่าแปลกใจเลยว่า ทำไมหลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า แผ่นดินนั้น ใครได้มา หากไม่ถึงพรหมลิขิต หมดอายุขัย รอดแน่
มีคนถามเราว่า คนที่แผ่นดินลพบุรี เขาอยู่กันอย่างไร เอาเงินที่ไหนใช้ เพราะเห็นมาเสียสละ ทำกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำทั้งวัน ยิ่งกว่ากรรมกรที่ได้เงินอีกเป็นไหนๆ
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า แผ่นดินที่จะช่วยให้รอด รองรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ย่อมเกิดจากความเสียสละ เสมือนพระโคดมสละบัลลังค์ ฉันใดก็ฉันนั้น
ตาชั่งของมูลนิธิจะเอนเอียงไปทางใด มีไว้ให้เราท่านเสียสละ เพื่อรองรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือ มีไว้ให้เราท่านมาเอาเปรียบ แสดงนิสัยตน เอาแต่ได้ แลท้ายที่สุด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เผ่นป่าราบ กลายเป็นถ้ำกระบอก ๒
ภาพทุกวันนี้มันฟ้อง คนมาเป็นพัน หากแต่ต้นยา ยืนแห้ง ต้นหญ้าปกคลุม คนที่ทำก็ทำตาย คนมากมายวางเฉย
เราจึงสงสัยยิ่งนัก คนที่มาทานสมุนไพร นี่เป็นคนเช่นไร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เขาจะเกื้อหนุนหรือไม่
กว่าจะรู้ตัว ก็เสียสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว กลายเป็นถ้ำกระบอก ๒ อันน่าคิดว่า เราท่านมา ทำให้สมุนไพรมีฤทธิ์มากขึ้นด้วยพลังสามัคคี และความเมตตา หรือ ทำให้เสื่อมถอยลง ด้วยนิสัยสันดาน เฉกถ้ำกระบอก
เราจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมยามที่ศาสนาเกิด พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จึงมีสาวกไม่มาก ทั้งที่ศาสนามีอำนาจมหาศาล เหนือกรรม ก็เพราะคนที่อยากได้ แล้วทำ มันมีน้อย
ใครที่ว่า ที่ไหนศักดิ์สิทธิ์ แล้วคนต้องเยอะ นั่นผิดแล้ว เพราะแหล่งที่คนแห่แหนกันไป ล้วนแล้วแต่คนอยากได้ แต่ไม่อยากทำ
สุดท้ายหลวงพ่อนิพนธ์จึงสอนว่า อย่าไปสนโรค หรือ สนว่าจะได้ทานสมุนไพรมากน้อย ควรจะสนใจว่า ตนอยากได้ และอยากทำ ทำนิสัยของพระพุทธเจ้า ลดนิสัยตน
ใครพิจารณา แล้วทำ เมื่อทำนิสัยตนได้ ทานสมุนไพร หายโรคนั้นเป็นของแถม และเมื่อพัฒนาวิญญาณ นิสัยได้ ความเจริญย่อมมาสู่ตน และความสุขจะย้อนมา จากการเป็นผู้ให้สุขผู้อื่นอย่างแน่นอน
จะทำให้เป็นแผ่นดินรอด หรือ ถ้ำกระบอก ๒ ก็ทำเอา แต่ที่ลพบุรี ใครไม่อยาก ใครไม่ทำ ไม่มีที่ให้แน่นอน
เพราะสถานที่ลพบุรี หลวงพ่อนิพนธ์จะสร้างเป็นแผ่นดินรอด นั่นเอง ใครจะว่าโหด ไม่เมตตา ... แต่เวลานี้ มันถึงบทอุเบกขาแล้ว