จุดอ่อนของความล้มเหลวในการช่วยตน หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นเสมอว่า นั่นคือ การขาดความรู้
หลายคน หวังแต่สมุนไพรในการช่วยตน แลปิดการเรียนรู้อื่นใดทั้งสิ้น จึงเสียโอกาส
หากมองย้อนไป ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะการกินบุญเก่าที่ส่งผลนั่นเอง ดังนั้น เมื่อมาแรกๆ ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องเรียนรู้ ไม่ต้องเปลี่ยนสิ่งใดๆ ค่าของสมุนไพรก็ยังทำให้สภาพของตนดีขึ้นทุกตัวคน
ทีนี้จิดก็จดจ่อ หลงผิดคิดว่า สภาพของตนจะต้องดีขึ้นไปเรื่อยๆจนหายอย่างแน่นอน โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรของตนเลยนั่นเอง
เรื่องในอดีต หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักถูกหยิบยกมาให้ฟังเสมอ เพื่อเตือนสติ และเป็นข้อคิดว่า การกระทำใด เมื่อทำแล้ว เป็นการทำลายคุณสมบัติแห่งตน นั่นหมายถึงการทำลาย คุณค่าของสมุนไพรที่ทาน เมื่อทำลายสิ้น แม้นจะทานสมุนไพรมากเท่าใด ก็ไม่มีผลต่อตนเลยแม้นแต่น้อย
หลวงพ่อนิพนธ์ ยกพ่อเลี้ยงทางเหนือให้ฟังว่า เมื่อมา มาในสภาพหิ้วเปลมา มาทานสมุนไพร จนกลับมาทำงานปกติได้ เวลาทานสมุนไพร กลับไปนึกถึง คนที่นับถือทางเหนือ รอวันหายจะไปแก้บน ท้ายที่สุด สภาพก็กลับไปเหมือนเดิม หามเปลกลับบ้าน แม้นจะทานสมุนไพร ก็หยุดอาการ แม้แต่เล็กน้อยก็ไม่ได้เลย
หรือทหารท่านหนึ่ง ที่ติดเชื้อเอดส์มา จากภรรยาที่เจ้าชู้ มาในสภาพ เดินแทบไม่ไหว จนกลับมาขุดดิน ปลูกต้นมะพร้าว ขับรถไปมาไกลๆ โดยไม่ต้องพักได้ หากแต่เขาก็ละเลยคำเตือนของหลวงพ่อนิพนธ์ว่า คนที่เป็นโรคนี้ ห้ามมีเพศสัมพันธ์ ตราบใดที่ยังไม่หายขาด เชื้อยังไม่หมด แลเมื่อเขาพลาด เชื่อกรรม สมุนไพรที่เคยช่วยหยุดอาการต่างๆได้ จนในช่วงท้ายๆ แทบจะไม่ต้องทานสมุนไพรก็อยู่ได้สบาย กลายเป็นทานเช้า กลางวัน เย็น กลางคืน ก็หยุดอาการอะไรไม่ได้เลย แม้นการตายจะไม่ใช่ด้วยโรคเอดส์ แต่อยู่ดีๆ ม้ามก็แตก เลือดไหลไม่หยุด แล้วก็จากไป
หลวงพ่อนิพนธ์จึงสอนว่า เมื่อเป็นโรคตาย นั่นแสดงว่า เราท่านจะใช้นิสัยเดิม มาเพิ่มน้ำหนักกรรมอีกไม่ได้แล้ว จึงจำเป็นต้องใช้นิสัยธรรม ของพระภูมี มาแก้ไข เพื่อสร้างบุญใหม่มาช่วย และใช้กรรมเก่าให้เบาบางจนหมดลง
บทสรุป จึงแบไต๋ให้เห็นหมดว่า ผลแพ้ชนะในการช่วยตน คือ "นิสัย"
ถ้าจะถามว่า จะหายไหม ก็ตอบง่ายๆว่า หากมีคนทักว่า นิสัยเราท่านเปลี่ยนไป ดีกว่าก่อนเป็นคนละคน แล้วละก็ นั่นคือเครื่องการันตีว่า หายแน่
หากการหายโรค แต่นิสัยยังคงเดิม นั่นเป็นเพราะบุญเก่าแต่อดีต หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ว่า ไม่ช้าก็เร็ว โรคก็จะหวนคืน เพียงแต่เปลี่ยนชื่อ เท่านั้นเอง แต่ผลก็เหมือนเดิม คือ ไม่รอด
จึงขอย้ำเตือนว่า สมุนไพร เป็นเพียงผู้ช่วย ให้โอกาสเท่านั้นเอง เป็นพาหนะชั่วคราว ใช้ตลอดไปไม่ได้ พาหนะที่ดีที่สุด และให้ความปลอดภัยที่สุด คือ "นิสัยของพระพุทธเจ้า" เมื่อมีแล้ว โรคอะไรก็ไม่น่ากลัว อุบัติภัยไม่กล้ำกรายแน่นอน จึงเรียกว่า "มนุษย์สมบัติ"
ใครจะเลือกอย่างไร แบบไหน ไม่ว่ากัน ใครทำอย่างไร ได้อย่างนั้น ศาสนา ไม่มีเหลียม มีมุม เผยให้เห็นทุกสิ่งอย่าง ไม่โอ้อวดว่าสมุนไพรดี ช่วยได้ทุกคน ... แต่อวดว่า ธรรมของพระภูมี นี่สิของดี ช่วยได้ทุกคน ถ้าทำได้