ต้นกำเนิดที่มาล้วนแล้วแต่มาจากคำตรัสเปรียบเทียบของพระภูมีทั้งสิ้น
หากแต่ความไม่รู้เนื้อหาใจความ อันเป็นที่มาของคำกล่าว จึงทำให้ความหมายผิดเพี้ยน เอาความเห็นส่วนตนมาใส่แทน
ยกตัวอย่างเช่น "หมองูตายเพราะงู" ก็จะกลายเป็นนึกถึงคนเลี้ยงงู ไปซะฉิบ
หลวงพ่อนิพนธ์ อรรถาธิบายว่า พระภูมีหมายถึง คนเป็นหมอที่รักษาคน หรือใครก็แล้วแต่ ที่อวดอ้างว่ามียาดี รักษาคนได้
เพราะโลกนี้ไม่มียารักษาโรค อันหมายถึงโรคที่ทำให้ตาย หรือโรคกรรมตาย ไม่ใช่โรคผ่าน หรือกรรมผ่าน เช่นหวัด เพราะพระภูมีทรงตรัสรู้ที่มาแห่งโรค คือ กรรม ซึ่งมีอำนาจสูงสุดในโลก ความคิดของมนุษย์ ก็เกิดแต่กรรม จะมาเอาชนะ ย่อมเป็นไปไม่ได้
หนทางเดียวที่จะช่วยตนได้ คือต้องพึ่งพาตนเอง ..,วิธีการก็ฟังจากคำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์
กลับมาที่เดิม ผลแห่งการก้าวล่วง พระภูมีเรียกคนเหล่านี้ว่า พวกละเมิดกรรม หรือท้าทายกรรม ตนเองก็อยู่ใต้อำนาจกรรม แต่กลับไปอวดตน ที่จะชนะโรค ที่เป็นบริวาร ... ก็ถ้าชนะโรคได้ ก็ชนะกรรมได้ โลกใบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีธรรม หรือมีพระพุทธเจ้าแล้ว
ผลก็คือ โลกจะวุ่นวายกันมหาศาล คนทำชั่ว จนผลกรรมสนองกลายเป็นโรค ก็นำเงินจากการทำชั่วนั้นมาจ้างหมอ ทำให้หายโรค หากเป็นได้ ก็ไม่จำเป็นต้องทำความดีแล้ว ไม่ต้องมีธรรมเช่นกัน
ผลแห่งการกระทำอวดตน เขาเรียกอุตริ มันก็ย้อนมายังตน กลายเป็นโรค หมอรักษาโรคจึงตายด้วยโรคนั่นเอง พระภูมีจึงเปรียบเปรย เพราะอยู่ในอินเดีย คนเหล่านี้เสมือนหมองูนั่นเอง
สถานที่นี้ หลวงพ่อนิพนธ์จึงสอนเสมอ สมุนไพรไม่ใช่มีไว้รักษาโรค ที่ใช้คำว่ารักษาโรค หมายถึง ใช้เป็นวัตถุดิบให้ร่างกายนำไปฟื้นฟูช่วยตนเอง จึงไม่มีหรอก เป็นโน่นต้องกินตัวไหน เป็นนี่ต้องทานอะไร
สมุนไพรจึงเป็นการฟื้นฟูระบบอวัยวะ เพียงแต่ส่วนใดที่เสียหายมาก ก็ต้องทานสมุนไพรที่เสริมอวัยวะนั้นมากหน่อย เพื่อให้เพียงพอต่อความจำเป็นของร่างกาย
แต่ด้วยโรคเป็นปลายเหตุ หากกรรมยังอยู่ นิสัยกรรมยังอยู่ หายโรคนี้ ก็เป็นโรคนั้น เป็นโรคช้า ก็เล่นให้เกิดอุบัติภับเลย เรียกว่าปิดโอกาสกลับมาทานสมุนไพรอีก พระภูมีจึงสอนให้แก้ต้นเหตุ คือกรรม แลตรัสรู้ด้วยพระองค์เองว่า หนทางเดียวที่จะชนะได้ คือการใช้นิสัยธรรมมานำตน แทนนิสัยที่สร้างกรรมเดิมนั่นเอง
จึงเป็นความจำเป็น หากจะใช้ธรรมหมวดสมุนไพร โดยไม่เอาธรรมของพระโคดมเลย หลวงพ่อนิพนธ์อุปมาก็เหมือนช่วยโจรให้มีกำลัง
หากแม้นโจรมีกำลังแล้วกลับไปฆ่าคนอีก คนที่ถูกฆ่าย่อมฟ้องฟ้าดินว่า ช่วยโจรทำไม
นี่แลคือเหตุผลที่ทำไมใช้สมุนไพรอย่างเดียวไม่ได้ หรือทำไมโลกนี้ไม่มียารักษาโรค เพราะคนที่จะพ้นโรคตาย ต้องทำตนให้มีคุณสมบัติ ฟ้าดินยอมรับ ว่าไม่มีพิษมีภัยแกผู้อื่น นั่นคือ คนดี มีธรรมวินัยของพระภูมีกำกับตนนั่นเอง
ธรรมหมวดสมุนไพรจึงอุปมาดังกิ่งทอง รอคนมีคุณสมบัติ ทำตัวเป็นใบหยกมาเสริมเข้าด้วยกัน โรคอะไรก็ไม่กลัว
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงสอนเสมอว่า อย่าไปสนที่จะรักษาโรคเลย จับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน ล่อตัวแม่คือนิสัยกรรม ที่ทำให้เกิดโรคดีกว่า น้อมนำนิสัยธรรมมานำตนเป็นบางสิ่งบางอย่าง มีที่ที่เว้น ข้างนอกจะทำอย่างไรก็พอไหว แต่เขตพัทธสีมา ที่มาทำเพื่อชีวิต ต้องหยุดนิสัยตน แสดงเอกลักษณ์ความสงบ เพื่อสื่อถึงความเชื่อ ความศรัทธา
ช้าเร็ว ที่นี่ก็ต้องแบ่ง ใครเชื่อใครศรัทธา ก็ทำตาม อยู่พวกหนึ่ง ใครที่จะมาเอาแต่สมุนไพรก็อยู่อีกพวกหนึ่ง แยกเด่นชัด ว่าจะเป็นพระเวสสันดร พระมาลัย หรือจะเป็นชูชก