ธรรมหมวดสมุนไพรของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา องค์ประกอบที่สำคัญ หลวงพ่อนิพนธ์ สอนเสมอว่า มีสองส่วน คือ ธรรมล้างกรรม สมุนไพรล้างโรค
ธรรมหมวดนี้ มิได้มีจุดประสงค์ให้หยุดแค่เพียงหายโรคตาย หรือที่อดีตเรียก ตายห่า หากแต่ต้องพ้นจากอุบัติภัย หรือที่เรียกกันว่า ตายโหง ด้วย จึงจะเรียกว่า ประสพผล
ดังนั้น ขาธรรม จึงมีความจำเป็น และต้องเป็นผู้นำเดิน ส่วนขาสมุนไพร ใช้เพื่อให้มีโอกาสได้ทำวินัยธรรม
ก็ด้วยหากกายยังร้องโอยๆ สภาพยังช่วยตนไม่ได้ จะปฏิบัติซึ่งวินัยธรรม คงเป็นไปไม่ได้
หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ว่า ธรรมเป็นสิ่งที่มีชีวิต มีอายุขัย อายุขัยที่ว่า นั่นคือ การให้โอกาส ที่ศาสนามีให้ทุกผู้คน
ตัวอย่างล่าสุด ที่หลวงพ่อนิพนธ์ ยกมาให้ฟังในวันเข้าพรรษาเป็นสติ นั่นคือ ผู้ป่วยสองท่าน
คนแรก เป็นมะเร็งสมอง หมอทิ้ง มาในสภาพที่ช่วยตัวเองไม่ได้แล้ว พูดประสาชาวบ้านก็รอตาย .. มาถึงก็บอกขอพักอยู่ที่นี่เลย เพราะหมดเงินแล้ว ไปที่ไหนก็ไม่มีที่ไปแล้ว หลวงพ่อนิพนธ์ก็ให้ไปพักฟื้นฟูตัวที่สวนสมุนไพร
วันเวลาผ่านไป สภาพร่างกายดีขึ้น หลวงพ่อนิพนธ์ก็ชี้แนะตลอดทางว่า ทำไมไม่บวชเพื่อช่วยตนเล่า คนป่วยก็ทำหูทวนลม เฉยลูกเดียว ไม่ตอบสนองอันใด ตั้งหน้าตั้งตาทานสมุนไพร และก็ดีวันดีคืน
วันเวลาผ่าน หลวงพ่อนิพนธ์ ก็เปิดช่อง ชี้แนะให้บวชหลายครั้ง คำตอบที่ได้ คือ การเฉย ไร้การตอบสนอง แต่อาการของเขาก็ดีขึ้นจนสามารถกลับมาช่วยตนเองได้ ทำอะไรได้ เหมือนคนปกติ
ผ่านไป ๖ เดือน สภาพก็ดูเสมือนคนปกติทั่วไป เขาจึงขออนุญาตลากลับบ้าน เพราะตอนนี้กำลังจะมีการจัดการบวชขึ้น จะด้วยหนี ไม่อยากบวช หรือ เหตุผลใดก็ตาม หลวงพ่อนิพนธ์ก็อนุญาต
และสองวันที่ผ่านมา ทางบ้านก็โทรมาแจ้งหลวงพ่อนิพนธ์ว่า คนป่วยเสียชีวิตแล้ว ด้วยอุบัติเหตุ ลื่นล้ม แล้วศีรษะฟาดพื้น
ในขณะที่อีกคน เดิมก็ไม่ได้เป็นสมาชิกของมูลนิธิแต่อย่างใด ทราบข่าวมาว่า หลวงพ่อนิพนธ์จะรับพระ จึงเดินทางมา
สภาพที่มา เป็นโรคอัลกอฮอร์ริซึ่ม ขั้นรุนแรง จนมือไม้สั่น ประกอบกับมีโรคเบาหวาน และอื่นๆ อีกบ้าง
เขาผ่านการรักษาที่โรงพยาบาล ก็ไม่ประสพผล ก็คิดจะบวชพระ เพื่อเลิกเหล้า แต่บวชได้วันเดียว ก็ทนอาการไม่ไหว
เขาจึงมาพบหลวงพ่อนิพนธ์ ท่านก็อนุญาตให้บวช แต่เขามาก่อนประมาณ สิบวัน หลวงพ่อนิพนธ์ ก็ให้พักรอที่วัด รอบวช ในระหว่างนี้ ก็ให้เลิกเหล้า และทานสมุนไพรไปก่อน
ถึงวันนี้ เขาได้บวชสมใจ แลที่สำคัญ นับตั้งแต่มานอนที่วัด ไม่ปรากฎอาการของอัลกอฮอร์ริซึ่มอีกเลย ไม่มีการลงแดงเหล้า
วินัยธรรม ฉันมื้อเดียว ก็ไม่เป็นอุปสรรคใดๆ แก่ท่าน สามารถดำรงตนได้ปกติ
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า คนที่มาใช้ธรรมหมวดนี้ ฝ่ายหนึ่ง ใช้ขาธรรมนำหน้า อีกฝ่ายหนึ่ง ใช้ขาสมุนไพรเพียงอย่างเดียว แค่เริ่มก็รู้แล้ว ผลแพ้ชนะจะเป็นอย่างไร
เบาหวานที่ว่ารุนแรง ขาดสารอินซูลีนไม่ได้ ก็ทิ้งได้ตั้งแต่วันแรกที่เหยียบเข้ามา ไม่มีอาการใดที่รุนแรงปรากฎให้เห็น
ที่สำคัญ เมื่อเขาเลือกเดินทางนี้ ผู้สอน ก็วางใจ ไม่กังวลด้วยอาการของโรค เพราะ แม้นแต่กรรม ธรรมเขายังชนะ เมื่อประพฤติธรรมวินัยของพระภูมี โรคที่เป็นบริวารกรรม ยิ่งไม่ต้องสงสัย ชนะตั้งแต่ในมุ้งแล้ว
แค่จุดเริ่มนี้ ก็รู้ได้เลยว่า ธรรมหมวดสมุนไพร ไม้ไผ่ลำเดียวที่พระภูมีชี้ให้เดิน ต้องทำอย่างไร จึงประสพผลสำเร็จในการช่วยตน ที่สำคัญ เมื่อสำเร็จแล้ว ผู้นั้นย่อมต้องเป็นคนดี สมเจตนาของพระภูมี ผู้บัญญัติธรรมอย่างแน่นอน
ธรรม มีไว้สร้างมนุษย์ ให้เป็นคนดี ... จะมาทานสมุนไพร โดยไม่เปลี่ยนนิสัยอะไรเลย ... ฝันไปหรือเปล่า แล้วกรรมที่ทำมาจะเอาไปไว้ที่ไหน