วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เมื่อของจริงมา

ทำไมคนจึงห่างศาสนาไปเรื่อยๆ นั่นคือ พฤติกรรมที่ผิดเพี้ยนจากพุทธกาล จนกลายเป็นเดินสวนทาง

หลวงพ่อนิพนธ์ อรรถาธิบายให้ฟังว่า ก็เพราะ ศาสนาเป็นเรื่องของอำนาจ แลอำนาจนี้เป็นของเฉพาะบุคคล คือ พระพุทธเจ้า นั่นหมายความว่า อำนาจที่บอกว่าศักดิ์สิทธิ์ หรือ บุญ ในพระพุทธศาสนา มิใช่ของในโลก

จะจัดอำนาจธรรม เป็นอำนาจนอกโลก หรือ เรียกอำนาจที่สามก็ได้

อำนาจนี้ จะมาเมื่อจะมีพระพุทธเจ้าอุบัติ ทุกยุคทุกสมัย แลพระพุทธเจ้าใช้เพื่อโอบอุ้ม ตนแลสาวก เพื่อไปนิพพาน

นั่นหมายความว่า เมื่อสิ้นยุค ก็สิ้นอำนาจธรรม หรือ ไม่มีบุญ คงเหลือ แต่ กรรมดี กรรมชั่ว เป็นอำนาจที่ใช้ปกครองโลกนั่นเอง

เอกลักษณ์ อย่างหนึ่งที่เด่นชัดในเรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องของอายุขัย ธรรมเป็นของเป็น จึงมีอายุขัย

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า เมื่อสิ้นอายุขัยของธรรมนั้นๆ ก็หมายความว่า แม้นพฤติกรรมเดียวกัน พระพุทธเจ้าเป็นผู้บัญญัติกำหนดขึ้น เมื่ออยู่ในอายุขัย ทำแล้วก็จะเป็นบุญ หากหมดอายุขัย หรือ เกินขอบเขตที่กำหนด แม้นทำเฉกเช่นกัน ก็จะเป็นได้แค่กรรมดี

อธิบายเพิ่มเติมให้เห็นชัด จึงชี้ให้ดูสงฆ์สาวก ของพระพุทธเจ้า จะทำแล้วเป็นบุญ พาตนไปนิพพานได้ หนึ่ง ต้องอนุญาติโดยพระพุทธเจ้า เรียก เอหิภิกขุ อุปสัมปทา นั่นเอง

ดังนั้น สาวกองค์สุดท้าย ก็คือ เด็กหนุ่มที่วิ่งไปขอบวช ก่อนที่จะเสด็จปรินิพพาน นั่นเอง แลนับเป็นองค์ที่แปดหมื่นสี่พัน

ดังนั้น หากการกระทำเช่นกัน แลบุญยังดำรงอยู่ สงฆ์ที่บวชหลังจากชายคนสุดท้าย ก็ต้องสามารถเป็นพระอรหันต์ได้เช่นกัน แต่ก็หามีไม่

ก็เพราะสิ้นพระพุทธเจ้า ก็จะสิ้นอำนาจบุญ ที่มาวุ่นวายในโลกนี้แล้วนั่นเอง

เมื่อเวลาล่วงเลย คำสอนที่ทิ้งไว้ เมื่อทำแล้ว ก็เป็นแต่เพียงกรรมดี

ใครจะว่า สงฆ์องค์นั้นสำเร็จอรหันต์ ก็ว่ากันไป ... คำถามง่ายๆ ก็คือ สำเร็จแล้ว เขาเป็นสาวกของใคร ในเมื่อพระโคดม มีสงฆ์สาวกแค่แปดหมื่นสี่พันองค์ เท่านั้น

เมื่อไม่มีพระพุทธเจ้า ก็ไม่มีอำนาจธรรม อำนาจบุญ จึงไม่แปลก หลวงพ่อนิพนธ์จึงบอกว่า พราหมณ์มันก็รู้ จึงกล้าที่จะเขียนพระไตรปิฏก แลแปลงสาร คำสอนให้กลมกลืนกับพฤติกรรมของตน

อันจะเห็นได้จาก เริ่มมีพิธีกรรม เริ่มมีของถวาย เริ่มมีการสร้าวัตถุ ... จนท้ายที่สุด บัญญัติบุญ ก็ถูกบีบจำกัดวง อยากได้บุญ ต้องมาทำกับพระเท่านั้น ...

สิ่งที่ลามปามกันมายกใหญ่ นั่นคือ รูปเหมือน หรือ พระพุทธรูป ที่ถูกสร้างกันมาในภายหลัง ที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า จากเดิม เริ่มด้วยเลื่อมใสศรัทธา จนมายุคปัจจุบัน กลายเป็นพุทธพาณิชย์ไปหมดแล้ว

แผ่นดินนี้ได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินที่มีคนนับถือพุทธศาสนามากที่สุดในโลก เห็นหมาถูกทำร้าย ถูกรถชน สงสาร หมาอดตายรีบบริจาค กันถล่มทลาย ยี่สิบล้านบาท ภายในพริบตา

แต่เห็นรูปเหมือนของพระพุทธเจ้า วางอยู่กับดิน วางขายกันเกลื่อน หรือพิมพ์ออกมา แล้วทิ้งลงถังขยะ ตกตามพื้น ให้เหยียบไปมา ... เฉย...

พฤติกรรมเช่นนี้ เมื่อยังไม่มีพระพุทธเจ้า ก็พอทำเนา ก็แค่กรรมชั่ว แต่วันใดเมื่อของจริงปรากฎโฉม อำนาจธรรม ถูกประกาศ อำนาจบุญมาแล้ว ... ที่นี้ จากโทษแค่ขัง ก็จะกลายเป็นประหารชีวิตสถานเดียว

หลวงพ่อนิพนธ์ ชี้ให้เห็นว่า อำนาจบุญ ที่ปกป้องพระพุทธเจ้า มีฤทธิ์สักฉันใด ก็ดูจากอินเดีย ในยุคของพระโคดมนั่นเอง อยู่ท่ามกลาง ลัทธิความเชื่อมากมาย ที่จ้องล้ม จ้องทำลาย แต่ก็หามีผู้ใดทำลายได้ไม่ มีแต่ทำแล้ว ทำลายตน เสียสิ้น

บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์ จึงเตือนว่า วันนี้้ พฤติกรรม ที่ทำแล้วส่งเสริมพระให้มีกิเลส สร้างโบสถ์ สร้างศาลา ถวายรถ ถวายปัจจัย ถวายโทรศัพท์ ทีวี ตู้เย็น ... อาจแค่ให้เกิดโรค แต่เมื่อพระพุทธเจ้าประกาศตนวันใด ... ไม่ว่าผู้ถวาย หรือพระ ที่บวชห่มผ้าเหลืองหากิน ... ไม่ใช่เจอตีนกรรม แต่เจอตีนฟ้าแล้วทีนี้

แค่กินยาเคมีทำลายชีวิตตน ก็เกิดโรคจนแทบเอาตัวไม่รอด แต่ถ้าทำลายพระ ทำลายศาสนา ... รับรองดูไม่จืด

ประวัติศาสตร์สอนให้เห็นแล้วว่า กว่าจะมีพระพุทธรูปองค์แรก ก็ต้องรอ หลังเสด็จปรินิพพาน ร่วมเจ็ดร้อยปี ... นั่นแสดงว่า คนโบราณเขารู้ เขาไม่ทำกัน

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของพระพุทธศาสนา แม่ชีเมี้ยนตรัสสอนว่า คือ "ธรรมศักดิ์สิทธิ์" หลวงพ่อนิพนธ์เสริมให้เด่นชัดว่า บุญบาป ล้วนอยู่ที่การกระทำ หรือ ตัวกระทำ ของเราท่าน ที่มีต่อมนุษย์แลสัตว์ ไม่จำเป็นหรอกต้องเฉพาะกับพระ

วันใดที่ศาสนาอุบัติ แล้วเราท่านจะได้รู้ว่า รากเหง้าของศาสนาในโลก ล้วนมีที่มาจาก ธรรมคำสอน ของพระพุทธเจ้า ทั้งหมด ทั้งมวล

สิ่งที่ปกปิดไม่ให้รู้ เช่นต้นพระคัมภีร์ของคริสต์ ที่ละม้ายคล้ายธรรมคำสอน ที่ค้นพบในบราซิล หรือ แม้นกระทั่ง ต้นคำสอนของอิสลาม ที่ถูกซ่อนไว้ในหินดำ ในกลางกรุงเยรูซาเล็ม ก็ตาม ก็จะเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างชัดเจน

ใครจะเชื่อหรือไม่ว่า หินดำก้อนนั้น ถูกสร้างเพื่อปกปิดพระพุทธรูป และธรรมคำสอนไว้ข้างใน ...

เมื่อทุกคนประจักษ์ มนุษย์ แม้นไม่ศรัทธาในพระพุทธเจ้า แต่ก็จะหันกลับมา นำธรรมคำสอนบางสิ่งบางอย่างไปปฏิบัติ เพื่อให้สังคมของชนกลุ่มนั้นๆ เกิดความสงบ

ภาพที่จะเห็นเด่นชัด วันใดที่ศาสนาอุบัติ พราหมณ์ที่นุ่งเหลือง ห่มจีวร หากิน กระโดดหนีตายแทบไม่ทัน ... พระสงฆ์ที่มีกว่าสามแสนรูปในปัจจุบัน ดูซิจะเหลือสักพันไหม

ปล. ไม่ได้มาถกเถียงแก่ผู้ใด .. ฟังไว้เฉยๆ วันข้างหน้าก็จะรู้เองว่า เป็นเช่นนี้จริงไหม ...

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44