หากแต่หลักของพระภูมี โรคมีความหมายว่าจะทำให้นอน ให้เราพึ่งผู้อื่น ดังนั้น หากทำเช่นนั้่นก็เข้าทางโรค ไม่มีวันหายอย่างเด็ดขาด
หลวงพ่อนิพนธ์จึงสอนเสมอให้ย้อนเกล็ด เมื่อเราท่านรู้อยู่แล้วว่าเหตุที่มาของโรคคือกรรม ไม่ได้มาทำให้เราท่านตาย ดังนั้นสิ่งที่ควรทำนั่นคือ การไม่ยอมนอน ทำตัวปกติ
แลยิ่งการใช้แรงที่เหลือไปทำในสิ่งที่ถูก นั่นคือ ให้สุขแก่ผู้อื่นด้วยแล้ว ยิ่งทำแรงก็ยิ่งเยอะ ยิ่งแข็งแรง
คนแล้วคนเล่าที่ใช้วิธีการนี้ ไม่ว่าจะเป็นหลานสาวท่านชาติชาย ที่เป็นรูมะตอยด์ นั่งรถเข็น ทำอะไรไม่ได้ รอวันตาย หลวงพ่อนิพนธ์ก็ใช้แนวทางนี้ในการให้เขาช่วยตน จนกลายเป็นร้านขนมปังที่ขายในชมรมทุกวันนี้
ตัวอย่างล่าสุด ก็กรรมการที่เป็นอัมพฤกต์ ถึงขั้นต้องใช้ไม้เท้าประคองตัว เมื่อช่องทางการให้สุขผู้อื่นเปิดแก่เขา ก็ไม่รอช้าที่จะคว้าไว้
กรรมการท่านนี้ เป็นเจ้าของบริษัทเจาะเข็มระดับประเทศ รับงานเมืองนอก ตอกเข็มในทะเล หากแต่งานเหล่านั้น ก็ได้แต่ควบคุมสั่งการ เพราะนั่นเพียงแค่สัมมาอาชีพ
หากแต่การสร้างอาคารผู้ป่วยมะเร็ง ด้วยความเป็นคนมีปัญญา เมื่อหลวงพ่อนิพนธ์พูดสอนก็เข้าใจ ดังนั้น งานนี้เขาจึงเป็นผู้ลงมือเอง ควบคุมเอง ส่องกล้องเอง ดูแลงานอย่างใกล้ชิด เพียงแค่สองสัปดาห์ ก็ทิ้งไม้เท้า
หากเป็นที่อื่น ก็ต้องไปนั่ง นอน รอให้คนช่วย แล้วก็มีแต่ทรงกับทรุด วันนี้ด้วยการย้อนเกล็ด มาทำในสิ่งที่ถูก มายืนตากแดด เดินในที่ลำบาก ชี้มือชี้ไม้สั่งการดังในรูป ทำให้สภาพของเขาดีวันดีคืน
เมื่อผลถูกเกิด นั่นหมายความว่า สิ่งที่ทำนั้นถูก หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า แนวทางนี้จึงใช้ได้กับทุกคน ดังนั้น จึงเปิดโอกาสให้สมาชิกทุกคน ที่อยากใช้แนวทางนี้ ในวันพฤหัส และอาทิตย์ ก็มาร่วมด้วยช่วยกัน ในการสร้างอาคารหลังนี้
รอยในอดีตของคนหายจากโรคที่ว่าไม่มีวันหาย ไม่ว่าอาคารมูลนิธิ อาคารสวดมนต์ อาคารโรงอาหาร ล้วนแล้วแต่เกิดจากคนป่วยทั้งสิ้น แลผลก็ทำให้คนเหล่านั้นไม่ผิดหวัง
เมื่อช่องนี้เปิด ก็ควรรีบคว้า อย่าทำตนเป็นคนนั่งดูอย่างเดียว เมื่อถึงเวลาแล้วเสร็จ ก็มาใช้ประโยชนฺ์ นั่นคือ ชูชก หากแต่ใช้น้ำเหงื่อน้ำแรงของเรา แม้นจะน้อยนิด แต่ก็มีส่วน เวลามาใช้ก็ไม่เป็นหนี้ใคร ...
ศาสนาของแม่ชีเมี้ยน คือ ศาสนาทำ ใครทำใครได้ อยากได้ เรียนรู้แล้วทำเอง .. นั่งรอ ขอพร ขอให้ตายก็ไม่มีวันสมหวัง
โอกาสทองมาแล้ว ไปลองดูกันไหม
สิ่งนี้ทำให้เรานึกย้อนอดีตที่สร้างอาคารมูลนิธิ มีคนไข้ท่านหนึ่งเป็นโรคหัวใจ หลวงพ่อนิพนธ์บอกไปเข้าแถวหิ้วปูนไป เขาก็ไปเป็นคนแรก ยืนหัวแถว หิ้วปูนเป็นชั่วโมง จนแล้วเสร็จ เพื่อนที่เป็นคนพามาเห็นเข้า ร้องตะโกนบอกว่า เฮ้ย หมอบอกเอ็งออกแรงไม่ได้น่ะ เหนื่อยมากหัวใจจะล้มเหลว ตายเอาง่ายๆ หากแต่เขาก็ทำเช่นนี้ทุกสัปดาห์ จนอาคารแล้วเสร็จ โรคหัวใจก็หายไปโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย
ไม่รู้จะมีคนที่บอกใกล้ตายใจกล้าแบบนี้ให้เห็นอีกไหม