ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2562
ทางเลือก
การมาของเราท่าน ถ้าแบ่งง่ายๆ ก็ เป็นสองประเภท ตามพุทธลักษณะ หนึ่งคือ ชูชก สองคือ พระเวสสันดร
การดำเนินงานของมูลนิธิไทยกรุณา ตั้งแต่ยุคหลวงพ่อนิพนธ์ คนสองกลุ่มอยู่รวมกัน ภาพที่เห็นจึงไม่เด่นชัด
หากแต่ความจริงคือ ชูชก มันเยอะกว่ามาก ในยุคที่ยังมีหลวงพ่อนิพนธ์ กอปรกับโรคยังไม่ร้ายแรงดังทุกวันนี้ ก็พอได้
ครั้งก่อนลาสังขาร หลวงพ่อนิพนธ์จึงสั่งว่า จะทำแบบเดิมไม่ได้แล้ว วันเวลาผ่านมาสามปี ที่ท่านอาสิทอดมา จึงสมควรแก่เวลาที่จะต้องแยกให้เด่นชัด เพื่อเป็นทางเลือกของมนุษย์ที่ผ่านเข้ามา ชอบแบบไหน เลือกแบบนั้น
หนทางฟื้นฟูที่ให้ผลเบ็ดเสร็จเด็ดขาด รวดเร็ว ย่อมต้องเป็นแบบพระเวสสันดร ที่แม่ชีเมี้ยนกำหนดให้ทำในอดีต นับตั้งแต่ยุคถ้ำกระบอก นั่นคือ การมาสร้างคุณสมบัติ รองรับอำนาจบุญ เมื่อมีบุญสมุนไพรก็มีอำนาจทวีคูณ วิญญาณสูง กายก็จะสูงตาม จะมามากมายสักฉันใด ก็พ้นทุกข์ทุกตัวคน ถ้าพรหมลิขิตยังมี
คนยุคถ้ำกระบอก และยุคปี 30 ของหลวงพ่อนิพนธ์ เขามีวันโกน วันพระ บ้างก็เย็นวันศุกร์ บ้างก็เช้าวันเสาร์ เขาจะพาตนและครอบครัว ไปทำกิจกรรมร่วมกับพระ ตกกลางคืน สวดมนต์ ฟังพระ เช้าใส่บาตร สายๆวันอาทิตย์รับสมุนไพรเป็นของแถมกลับบ้าน
บทสรุป ถึงเวลาแล้ว ที่บทพระเวสสันดร จะต้องเด่นชัด ให้เป็นตัวเลือก แข่งกับชูชก ที่คนมา จะทำอะไรก็เอาแต่ตน พอใจ แล้วเราท่านจะได้เห็นว่า “ไม่มีหนทางไหนในโลก ที่ให้ผลเบ็ดเสร็จเด็ดขาด รวดเร็วกว่าหนทางพระภูมี” เอาไม่เอา ไม่ว่ากัน
ทำให้ดู แล้วเลือกกันเอาเอง มิใช่รักชอบวันนั้น เกลียดวันนี้ จึงยุบ แต่ทำให้รู้ สองทางเลือก ระหว่างเดินขาเดียวของสมุนไพร กับเดินสองขา เอาธรรมนำหน้า สมุนไพรเดินตาม ชอบแบบไหน ไปแบบนั้น
ทำไมหรือ ก็เพราะกรรมมันแรงขึ้น โรคก็ทวีความรุนแรงขึ้น ไม่ต้องรอแก่แล้ว เดี๋ยวนี้วัยรุ่นหนุ่มสาวก็เป็นโรคแลเวลานั่นเอง จะมาทำแบบเดิมคงไม่ได้
ยุบจึงมิใช่ไร้เมตตา แต่ด้วยเมตตาของท่านอาสิ นั่นแลจึงต้องยุบ แล้วชี้ร่องที่ควรเดิน รอยพระภูมี ที่ปลอดภัย ชวนไปร่องนั้น ผลเกิดแน่ต่างหาก
หมายเหตุ การแจกสมุนไพรที่ลพบุรี กำหนดการเริ่ม ยังไม่แน่นอน จนกระทั่งพร้อม จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง