แม่ชีเมี้ยน ตรัสชี้ว่า ก็มีปัญญา พิจารณา แล้วทำช่วยตนได้ พ้นทุกข์ได้
หลวงพ่อนิพนธ์ อรรถาธิบายชี้ให้พิจารณา คำว่าตกนรก นั่นหมายถึงมนุษย์ ที่กรรมนำเกิดให้อุบัติมีกายเป็นสัตว์ เพื่อใช้กรรมที่ทำมา
นั่นหมายความว่า มีแต่นิสัย ไม่มีความคิด สร้างกรรมไม่ได้ จึงช่วยตนพ้นทุกข์ไม่ได้ มีแต่ก้มหน้ารับกรรมจนหมด
พระเคยถามว่า ทำไมหมาที่วัดชอบหอน แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า ก็มันเห็นพระ ก็ร้องบอกว่า ตนนั้นทุกข์ เมื่อไหร่จะไปกับเขาได้บ้าง
ฉะนั้น การใดที่สัตว์กระทำ จึงไม่มีบาปมีกรรม ถึงงูจะกัดเราตาย งูนั้นหามีกรรมไม่ เพราะกรรมอาศัยงู นิสัยงู มาทำให้เราที่มีกรรมต้องตาย ถึงแก่ความตายต่างหาก
แลเราเลี้ยงหมา ก็ไม่ติดหนี้ที่เราเลี้ยง นั่นกรรมทำกันมา หมาแมวนั้นอาจเป็นพ่อเป็นแม่เรา เราจึงเอ็นดู
ถ้าจะบอกว่ารักชอบหมาแมว แล้วทำไมหมาแมวอื่น เราไม่สน
แต่เมื่อเราเป็นมนุษย์ สิ่งที่เวียนว่ายเข้ามา ท่านชี้ว่า นั่นเราทำในอดีต ทำไว้แล้ว ถึงเวลาเขาก็มาให้รับผล เมื่อรับแล้วก็จบ
ส่วนที่ไม่จบ นี่แลคือกรรมใหม่ที่เราท่านเขียน เป็นกงกรรมกงเกวียนไปรอข้างหน้า ทีนี้ จะเขียนอะไร นี่แลขึ้นกับจิตของเราใจของเรา มีใครเป็นผู้นำ หรือเป็นนาย
หลวงพ่อนิพนธ์ ยกให้ฟัง คนผู้หนึ่งเป็นอัมพฤกษ์ นั่งรถเข็น หากไม่พบเจอศาสนา คนผู้นั้นนานวันย่อมถูกความรู้สึกตนกัดกร่อน เพราะกลายเป็นคนไร้ค่า โรคไม่น่ากลัว แต่ความซึมเศร้า หดหู่ ทำให้กลายเป็นอารมณ์เสีย คนปรนนิบัติ ทำอะไรช้าไม่ทันใจก็ดุด่า พูดจาก้าวร้าว เอาแต่ใจตน ท้ายที่สุด อาจคิดฆ่าตัวตาย กรรมเก่าที่มีก็ให้ทุกข์ ยังสร้างกรรมใหม่มาเป็นพลังต่อ จะหายทุกข์โดยวิธีใด หากเมื่อพบเจอศาสนา จะพยายามรักษาอารมณ์จิตใจตน พยายามทำสิ่งต่างๆเอง ใช้กรรมไปกรรมก็หมด หายโรคได้ สร้างกรรมที่ดีเท่าทีพอทำได้ ไว้รอตน ตามคำสอนท่านอาสิ. เป็นคนป่วยที่ไม่โกรธ ไม่ติเตียนใคร ทำตัวสงบ สวดมนต์ พึ่งตนเองมากที่สุด กรรมที่มีอายุขัย มีวันเวลา มาให้ใช้ เมื่อยอมใช้ วันหนึ่งต้องหายแน่แท้
บทสรุป ไม่ว่าจะเป็นนิสัยกรรม หรือนิสัยธรรม ที่ทำไว้แล้วย่อมย้อนมาให้ผลแห่งตน จะเป็นโรคแล้วเวียนว่ายเข้ามาหาแม่ชีเมี้ยนนั่นทำไว้แล้วในอดีต เมื่อมา ก็ตัดจบหรือใช้สิ่งที่ทำในอดีต ประการสำคัญ สิ่งที่จะมาต่อ มีนิสัยกรรมก็สร้างกรรมต่อ จึงไม่ต้องแปลกใจ ทำไมไม่หายโรค หรือหายโรคนี้. เป็นโรคอื่น แต่ถ้ามีนิสัยธรรม ก็ทำนิสัยดีๆที่เคยทำได้ในอดีต ในยุคพระโคดม ให้ทวีคูณ เป็นที่พึ่งของตนในภายภาคหน้า เดี๋ยวก็หายโรค
สัตว์ประเสริฐ จึงมีสิทธิ์เลือกที่จะทำ จะตัดสิ่งไร จะต่อสิ่งไร เขียนกันเอาเอง พรหมลิขิตเรานั่นแหละเขียนเอง อย่าโทษผู้อื่น
อยากรู้ตนจะหายไหม ก็ตนนั่นแหละผู้ตอบ สงบได้ไหม ไม่คุย ได้ไหม ไหนบอกว่าทุกข์
อยากหายโรค แล้วทำไมไม่ทำช่วยตน
มาแล้วไม่ทำ ไม่เงียบ ท่านว่าคนแบบนี้อย่าไปคบ เพราะตัวเองยังไม่รักไม่ทำตนช่วยตน คนแบบนี้หรือจะมารักเรา ทำเพื่อเราได้
บ้านใครบ้านมันดีกว่า มาเพื่อต่อกรรม เสียเวลาทั้งสองฝ่าย แล้วไม่ได้ผล ที่ไหนบอกคุยได้ เล่นโทรศัพท์ได้ ทำให้หายได้ ไปเถอะ ที่นี่บอกจะหายได้ ต้องมีนิสัยพระภูมีเกิดขึ้นในตน แล้วแสดงออกมา ทำให้เกิดผล ให้สุขผู้อื่นก่อน ผลจึงย้อนมายังตนหายโรคได้
ท่านอาสิว่า “วิญญาณสูง ดึงกายสูง”