ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562
อดตายดีกว่า
ภาพบิดเบือนของพุทธประวัติ เมื่อผ่านกาลเวลาย่อมมีมากมาย เอนเอียงไปตามผู้แต่ง เพื่อผลประโยชน์ของเหล่าผู้แต่งเป็นธรรมดา
แลไม่ต้องแปลกใจ ทำไมพิธีกรรมจึงมากมาย ก็พระไตรปิฎกทุกวันนี้ พราหมณ์เป็นผู้เขียนนั่นเอง
แม่ชีเมี้ยน ตรัสเล่าครั้งพระโคดมสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าใหม่ๆ พิจารณาตัวกระทำของตนที่ทำมา ดูแล้วมนุษย์คงทำได้ยาก จึงดำริว่า เราจะอดอาหารเข้าสู่นิพพานเลยเห็นจะดีกว่าเป็นแน่ จึงเป็นที่มาของข้าวมธุปายาส ที่โลกุตระมาให้สติพระโคดมกำลังฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ซึ่งก็คือชีวิตของพระโคดมเอง ครั้นได้สติแลนางสุชาดานำมาถวายจึงฉันอาหารอีกครั้ง แลเริ่มโปรดสัตว์ นั่นคือต้องมีมนุษย์ที่อยากได้ธรรมของพระองค์แลทำได้ จึงมีสาวกเกือบแสนรูป
ผ่านมาสองพันกว่าปี นิสัยมนุษย์ก็ยังคงเหมือนเดิม ศาสนาขอผู้คนนิยมชมชอบ ดูรูปสิ เป็นวัดดังในไต้หวัน คนมาขอกันจนล้นวัด ทุกวัน เขาลือกันว่าใครมาขอลูกมักประสพผล
ก็นั่นมันเหมือนถูกหวย มาขอร้อยคน มันต้องได้บ้าง คนที่ได้ก็โพทนากระพือข่าว คนก็แห่แหนกันไปเหมือนหวยแม่นนั่นแล
ย้อนดูยุคถ้ำกระบอก พยาบาลจุฬาภรรยานักบินพระที่นั่ง สองผัวเมียอยากมีลูก มาถามหลวงพ่อนิพนธ์ ท่านก็ให้เณรไปถามแม่ชีเมี้ยน ได้สูตรยามะพร้าวมา ให้บอกโยมจะมีลูกได้ ต้องทานร้อยวันวันละลูก ฝนตกแดดออกอย่างไรก็ห้ามขาด ครบร้อยวันมดลูกจะแข็งแรง มีลูกง่าย แลทั้งสองก็ได้ลูกสมใจ
แม่ชีเมี้ยนจึงเรียกชื่อว่า “ยากำเนิดกุมาร” ที่ซึ่งในยุคต่อมาหลวงพ่อนิพนธ์ให้คนที่อยากมีลูกใช้ ก็ได้สมใจมาตลอด
บทสรุป นี่แหละนิสัยมนุษย์ดูสิ ขนาดแค่เรื่องมีลูก ทานสมุนไพรนี่แหละของจริง แต่กว่าจะได้ คนเป็นแม่ต้องอยู่ในวินัยเคร่งครัด สู้ไปขอที่วัดดังไม่ได้ ง่ายกว่าเยอะ
จะแปลกอะไร ถ้าจะหายแต่ต้องกตัญญต้องยืนระยะ ต้องอดทน ต้องสร้างคุณสมบัติ จะหาคนทำยาก แต่ถ้าบอก มียาวิเศษ จ่ายเงินมา คนเข้าคิวจนล้น ทั้งๆที่ไม่เคยมีใครประสพผลให้เห็นสักคน ที่เห็นหายนั่นไม่ใช่ อาทิหายมะเร็ง นั่นมันเป็นซีสต์ ก็บอกหายมะเร็ง
ภาพในวันนี้เห็นชัด ดังหลวงพ่อนิพนธ์ชี้ ศาสนาเป็นไก่รองบ่อน เป็นทางเลือกสุดท้าย คนให้ค่าน้อย ทั้งที่ทุกคนบอกว่าชีวิตสำคัญที่สุด แต่การมาทำเพื่อชีวิต กลับเป็นตัวเลือกแรกที่จะไม่ทำ อยากมาก็มา ภาพคนมาร้อยคนจึงปรากฎ
คงจะถึงยุค ยักษ์หน้าโบสถ์ในไม่ช้า ที่ผู้ปฏิบัติ เขาจะเป็นผู้เลือกบ้าง ใครไม่อยากทำ ไม่ปรารถนาถึง ทำตนอยู่รอดูศาสนา ไม่มีวันโกน วันพระ ทำตนเป็นยักษ์ ท่านไม่คบด้วย ไปรอหน้าวัดก่อน อยากทำเมื่อไหร่ค่อยเข้ามา
คำสอนของหลวงพ่อนิพนธ์ ย้ำหนักหนาว่า “ศาสนาไม่เป็นขี้ข้าใคร เขาไม่มีเราไม่เป็นไร เราไม่มีเขาเราตาย ขาดที่พึ่ง”
อย่าทำตนให้ท่านอาสิเบื่อ ท่านไม่อดอาหารหลอก แต่ปิดมูลนิธิ แล้วกลับไปใช้วิธีเดิม บวชได้ไหม ถ้าไม่ได้กลับบ้านไป
ถึงตอนนั้น จะเห็นยักษ์ร้องหน้าโบสถ์ ร้องสักฉันใดท่านก็ไม่หันมา เพราะศาสนาเอาเฉพาะคนทำได้