ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2562
โลกใบนี้ไม่มียารักษาโรค ถ้าโรคนั้นมาเพื่อคร่าชีวิต
คำโบราณที่มักใช้สอนลูกสอนหลาน ที่ทุกคนล้วนได้ยินได้ฟัง “คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”
คำถามหนึ่งที่ควรถามเมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ทำไมเราต้องไปหาศาสนา หรือศาสนามีไว้ทำไม
หลวงพ่อนิพนธ์อรรถาธิบายว่า หลักพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา เป็นหลักปราชญ์ ผู้ใดมาฟังพิจารณา เชื่อ แล้วทำ เมื่อทำได้ย่อมกลายเป็นปราชญ์ เป็นมนุษย์เหนือโลก
บัณฑิตหรือผู้รู้ในโลก นั่นมันความคิดโลก วิชากรรม มันไม่มีทางทำให้เหนือโลกเหนือกรรมได้
บทพิสูจน์ไม่ต้องเรื่องลึกซึ้ง เอาแต่ปวดท้อง ศาสตราจารย์ที่ว่าเก่งในโลก คนที่ฉลาดที่สุดในโลกของกรรม มันยังแก้ไม่ได้เลย
ลองไปดูผู้ปฏิบัติที่เชื่อศาสนา แล้วทำได้ ที่สำนักสงฆ์ อย่าว่าแต่ปวดท้องเลย ต่อให้มะเร็ง ก็รู้ว่าจะทำให้หายได้โดยวิธีใด แม้นตนจะอ่านหนังสือไม่ออกก็ตามที
เราท่านจึงมาหาศาสนา ที่ผู้ปฏิบัติได้คือบัณฑิต สอนวิชาเหนือโลก นั่นคือ การเขียนพรหมลิขิตตน ด้วยตัวกระทำของตน ฉีกพรหมลิขิตเดิม ไม่ปล่อยเป็นไปตามพรหมลิขิตเดิม ที่สร้างกรรมตลอดเวลา มันจึงทุกข์มาสร้างพรหมลิขิตสุขให้ตนแทน
นี่แลทำไมศาสนาแม่ชีเมี้ยนจึงตรัสว่า เป็นขวัญใจของคนทุกข์ ก็คนที่มีกรรมดีมาก มักหลงในกรรมดีของตน ยังไม่ทุกข์ ยังไม่เจ็บ ศาสนาก็ไม่มีความจำเป็นสำหรับเขา ศาสนาจึงถูกจัดว่า เป็นองค์กรที่สาม จะไปยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์ไม่ได้ถ้าเขาไม่ยอม เรียนแล้วเขียนพรหมลิขิตตนเองได้
บทสรุป ศาสนาจึงมีลักษณะเหมือน น๊อต ที่ทั้งสองฝ่ายต้องทำตัวสอดคล้องกัน ยื่นมือเข้าหากัน ทำตนเป็นน๊อตเกลียวเดียวกัน จึงจะยังผล ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจ แม้นคนอินเดียเป็นร้อยล้าน พระโคดมอยากช่วย แต่ก็ช่วยไม่ได้ ช่วยเฉพาะคนที่เชื่อ แล้วทำตามได้
บทพิสูจน์ เราท่านจะได้เป็นหนึ่งในเจ็ดพัน ของหลวงพ่อนิพนธ์ จะเป็นคนดีที่มีธรรมวินัยของพระภูมีนำตน จะเหนือมนุษย์ ไม่ตายด้วยโรค หรือหายโรคได้ ย่อมต้องคบบัณฑิต หาบัณฑิตให้เจอเสียก่อน แล้วทำตนใกล้ชิด เป็นที่ชอบของตน เพื่อจะได้เขียนพรหมลิขิตที่ดีให้ตนได้ ส่วนหายโรคนั้นแถมให้
นี่แล จะรู้ว่าผู้ใดเป็นบัณฑิต มีวิชาเหนือโลกพระพุทธเจ้าจึงทิ้งแว่นส่องจักรวาลไว้หาศาสนา นั่นคือ เอาคนเป็นโรคร้ายไปถวายสิ ที่ใดทำได้ที่นั้นแลมีบัณฑิต มีปราชญ์ที่มีวิชาของศาสนาที่แท้จริง
ด้วยคำสอนนี้จึงเห็นชัด ทำไมจึงไม่หายโรค ก็วิชาที่เรียนมันวิชาโลกวิชากรรม จะไปชนะกรรมโดยวิธีใด เป็นไปไม่ได้
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวเสมอ “โลกใบนี้ไม่มียารักษาโรค ถ้าโรคนั้นมาเพื่อคร่าชีวิต”