ภาพนี้ใช้เพื่อประกอบเรื่องเท่านั้น |
ยังไม่ต้องพูดรายละเอียดการปฏิบัติ ที่ทำให้ถ้ำกระบอกโด่งดัง เอาแค่ของหยาบๆ ที่เห็นกันทุกเมื่อเชื่อวัน นั่นคือ การทำยา ว่าเลยเขาไปคนละทางแล้ว
สมัยเราบวช ที่สำนักลพบุรี หน้าที่หนึ่งของพระในยุคนั้น คือทำยา โดยเฉพาะยามะกรูด ยามะพร้าว ที่ต้องใช้การตำ ชุดละครก อาทิ ยามะพร้าว ตัวยาแต่ละตัว นำมา 9 ชิ้น ด้วยความไม่รู้ จัดให้ได้ชุด แล้วตำให้ครบตามที่เจ้าอาวาสจัดสรรให้ ใครตำเสร็จมักจะคุยว่าฉันทำเก่ง ทำเร็ว
หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เราดูว่า สัดส่วนที่ถูกยังไม่พอ ต้องดูรายละเอียด ดีปลีเป็นราไหม กระเทียมมีความร้อนไหม เกลือต้องเป็นตัวผู้ ที่ซึ่งไม่เคยรู้เลย เฮ้ยมันมีตัวผู้ตัวเมียด้วย พริกไทยเม็ดต้องไม่ฝ่อ เป็นต้น
ที่สำคัญกว่า นั่นคือเจตนาและการกระทำ ต้องสมบูรณ์ มิฉะนั้นจะปลุกเสกให้มีวิญญาณช่วยคนไม่ได้ ก่อนทำต้องถวายสัจจะ ทำให้เป็นทาน ขณะทำต้องสงบกาย วาจา ใจ ถ้าจะพูดก็เป็นเรื่องการถกธรรมวินัย ข้อปฎิบัติ มิฉะนั้นให้สวดมนต์ไป
ท้ายสุด ต้องดูตัวกระทำตน ยาที่ตำต้องละเอียดเนียนมือ ไม่มีซาง ปั้นเป็นก้อนไม่แตก ครกหนึ่งคือ ใช้กับมะพร้าวลูกหนึ่งพอดี
นั่นคือเจตสิกที่ผู้ทำใส่ไปในสมุนไพรที่บริสุทธิ์ ปลุกเสกสมุนไพรให้มีวิญญาณ ตามบัญญัติ
ก็แล้วมาวันนี้เล่า คนทำยาก็ทำเหมือนเราในอดีตที่ไม่รู้ แล้วผลจะได้สักแค่ไหน ฤาจะเอาแค่มาทำให้
หากแต่ที่ผ่านมาโรคมันยังไม่ร้ายแรง กรรมคนยังไม่รุมเร้าเหมือนทุกวันนี้ ที่สำคัญยังมีหลวงพ่อนิพนธ์ ก็พอไหวสู้โรคได้ แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว แค่ทำให้มันไม่พอ
บทสรุป จึงเชิญชวน มาเรียนรู้รอยกันก่อนดีไหม คนไหนไม่เอา ไม่ว่ากัน คนที่อยากทำและทำได้ มาสามัคคีช่วยกันทำ ผลที่เกิดจะได้มหาศาล ช่วยคนทุกข์ที่มาพึ่งได้
ฤาจะเล่นกันแบบทุกวันนี้ หาความแน่นอนไม่ได้เลย
สมัยเดินธุดงค์ พระรูปหนึ่งแอบฉันมะม่วงตอนกลางคืน ปรากฎว่าไส้แตก ถ่ายเป็นเลือดเต็มสบง รอเช้าหลวงพ่อนิพนธ์มาใส่บาตร ท่านรินยาเขียวให้ทาน แก้วเดียวหยุดถ่ายทันที มาวันนี้ กินกันเป็นปี๊บ บางคนจะหยุดปวดท้องยังยากเลย
ถึงเวลาสังคายนาหรือยัง พิจารณาดู สถานที่นี้ไม่ล้มหายตายจากแน่นอน แต่ทำแล้วหวังผล มิใช่เอาปริมาณ