วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562

กงจักรแลดอกบัว


คนทั้งหลายทานยาเคมี ไม่เคยถามไม่เคยลังเลในการทาน ในขณะที่สิ่งที่ปรากฎ หลวงพ่อนิพนธ์ ชี้ว่าเป็นดั่งคำกล่าว "ดินพอกหางหมู" นั่นคือ ยิ่งทานโรคยิ่งเพิ่ม จากเริ่มแต่ความดัน กลายเป็นโรคนี่นั่นตามมาอีกมากมาย ดูเช่นวิทยากร อ อร่าม ที่เคยเข้าวังวนอันนี้ จากยาเม็ดนึง กลายเป็นมื้อละกำมือ จากโรคเดียว เป็นเก้าโรค

หากเพราะขาดพิจารณา มิเพียงทำร้ายตน ยังสอนลูกหลานให้เดินตามรอยนี้กันมากมาย หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ว่า มิเพียงไม่หายโรค ยังสร้างกรรมแก่ตน คือ อัตวินิบาตกรรม กรรมอันนี้น่ากลัวนักเป็นกรรมหนัก นี่ชี้ว่า สิ่งที่ทำคนทั้งหลายว่าเป็นคุณช่วยตนได้ เป็นดอกบัว แต่แท้จริงแล้ว เป็นกงจักร ยิ่งใช้นานไป ย่อมตัดอวัยวะตน ทำลายตน แม้นแต่ชีวิตก็อาจรักษาไม่ได้


ในขณะที่ศาสตร์สมุนไพรของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา ทุกสรรพสิ่งล้วนแล้วใช้ของธรรมชาติ ที่เข้ากับร่างกายมนุษย์ได้ดี ไม่มีพิษไม่มีภัย ไม่ต้องกลัวทานน้อย ทานมาก จะเป็นภัย แต่มนุษย์กลับกังขา สมุนไพรนี้ สะอาดไหม ปลอดภัยไหม มีผลข้างเคียงไหม

ย้อนสมัยสำนักลพบุรี ในปี 30 มีผู้แจ้งสาธารณสุขให้มาตรวจสอบ ขณะนั้นหลวงพ่อนิพนธ์ยังบวชอยู่ ผู้ตรวจสอบเฝ้าดูหลวงพ่อนิพนธ์แจกสมุนไพร รินใส่แก้วให้คนป่วยทาน รินเสร็จล้างแก้ว แล้วก็ใช้แก้วเดิมรินให้แก่คนต่อไป

สาธารณสุขกลุ่มนั้น ถามหลวงพ่อนิพนธ์ ว่า การทำเช่นนั้น คนป่วยไม่ติดโรคกันเองหรือ เพราะใช้แก้วเดิม แลแก้วที่ใช้ซ้ำย่อมมีเชื้อมากขึ้นตามการใช้ นั่นความคิดโลก ไม่ผิด

หลวงพ่อนิพนธ์ ตอบว่า สมุนไพรของพระภูมี ถ้าแม้นแต่ตัวของสมุนไพรเอง ยังรักษาตนไม่ได้ให้ปลอดเชื้อ จะไปช่วยคนได้อย่างไร

ท่านจึงให้สาธารณสุขกลุ่มนั้น เอาแก้วนั้นไปตรวจหาเชื้อ หลังการตรวจสอบ มาเรียนหลวงพ่อนิพนธ์ว่า แก้วนั้นสะอาดกว่าการฆ่าเชื้อด้วยน้ำร้อนเสียอีก นั่นทำให้ การแจกสมุนไพรในยุคนั้น ผ่านการตรวจสอบ และดำเนินต่อไปได้

กรรมการท่านหนึ่งกล่าวว่า ตนเป็นโรคกระดูก แต่ขอไม่ทานยากระดูกหรือขาตั้ง ถามว่าทำไม ตอบว่าเห็นไขลอยฟ่อง กลัวคอเลสเตอรอล จึงไม่กล้าทาน ไม่รู้เลยว่าไขในยานั้น มีแต่คุณไม่มีโทษ ยิ่งไปกว่านั้น ไขมันเป็นสิ่งสำคัญต่อประสาท คนที่ไม่ยอมทานไขเลย กลัวอ้วน แต่ไม่กลัวร่างกายขาดไขมัน จนต้องรีดจากทุกส่วนมาใช้ กลายเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ ซ้ำซ้อนขึ้นมา

บทสรุป นี่แลกรรม ยิ่งขาดพิจารณา ปัญญา ที่จะเห็นความจริงอันนี้ก็ไม่เกิด การมาทานสมุนไพรของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา ตั้งอยู่บนความกังขาตลอดเวลา ทั้งที่ผ่านบทพิสูจน์มามากหลาย เห็นคนหายเดินเกลื่อน ศรัทธาความเชื่อจึงทำไม่ได้ หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ว่า นี่แลเป็นกำแพง ทำให้ยากประสพผล เพราะใจที่เป็นนายคอยปิดกั้นเอาไว้นั่นเอง ผลก็คือ เข้าวังวนความอกตัญญูได้ง่ายดาย ด้วยเมื่อใดมีอาการ ไม่โทษกรรมที่ตนตามมา บันดาลโรค ให้เป็นทุกข์ กลับหันมาโทษสมุนไพร ที่ให้แต่คุณ ท้ายที่สุด ก็พาลโทษคนทำยาที่ช่วยตน

นี่แลทำไมแม่ชีเมี้ยนจึงตรัสสอนว่า สมาธิที่พระภูมีใช้ คือ สมาธิพิจารณา เพราะถ้าขาดพิจารณา ปัญญาก็ไม่เกิด การกระทำที่ถูกต้องย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ศรัทธาในศาสนายิ่งไม่ต้องพูดถึง โดนลมปากคน ว่าสิ่งนั้นดี สิ่งนี้ดี ก็ไหลไปตามลมนั้น ศาสนาฤาจะสู้ ต้นไม้ที่คาดผ้าเจ็ดสี แต่ถ้ามีปัญญา ไม้นั่นไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณให้โทษใครไม่ได้

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44