ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ชีวิตใหม่
สิ่งสำคัญ ที่ท่านอาสิชี้ หากเราท่านเชื่อศาสนา นั่นคือ "กรรมมันจำนิสัย"
หลวงพ่อนิพนธ์อรรถาธิบายเรื่องการที่จะทำให้หายโรค จึงมีประเด็นสำคัญประการเดียว นั่นคือ การสร้างนิสัยใหม่ คือนิสัยของพระพุทธเจ้า บางสิ่งบางอย่างให้เกิดแก่ตน แทนนิสัยเดิมบางสิ่งบางอย่างที่สร้างกรรม หรือให้ทุกข์แก่ผู้อื่น เป็นอุปนิสัยใหม่ จนกรรมมันจำไม่ได้นั่นเอง
ความหมายเพิ่มเติมที่ลึกซึ้งกว่า นั่นคือ กรรมที่เราท่านสร้างนั้น มากมาย จนน้ำหนักกรรม มากพอที่จะทำให้พรหมลิขิตหักกลาง นั่นคือ ตายก่อนที่จะครบพรหมลิขิตแห่งตน และการที่จะใช้สมุนไพร เพื่อสร้างภูมิ หรือฟื้นฟูร่างกาย อวัยวะให้ทนต่อโรคนั้น อาจไม่ทัน หรือแม้นแต่จะทันจนพ้นโรค กรรมยังอยู่ก็วนเวียนมาสร้างทุกข์ให้ได้อีก หายโรคนี้เป็นโรคนั้น ไม่รู้จบ
หลายคนมักกล่าวว่า เมื่อหายโรค เมื่อพ้นทุกข์ นั่นอุปมาเสมือนได้ชีวิตใหม่ ดังนั้น หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ชีวิตใหม่ที่แท้จริง วิญญาณนั้น ก็ควรที่จะเป็นวิญญาณใหม่ มีนิสัยใหม่ ชีวิตใหม่ที่ได้ จึงปลอดภัย และมีสุข อย่างแท้จริง
การจะฟื้นฟูด้วยสมุนไพรประการเดียว นั่นคือ การใช้กรรม ต้องรับกรรมที่ตนทำมานั้นทุกประการ การจะชนะ สภาพการฟื้นฟูต้องทันและต้องขันติอดทนกับอาการที่เกิดให้ได้ จึงมีน้อยคนที่จะชนะได้
การสร้างนิสัยของพระพุทธเจ้า แม้นทำได้ยาก หากแต่ถ้าทำได้ ย่อมเกิดนิสัยใหม่ ที่ทำให้กรรมจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ผลคือ งับไม่เต็มที่ ย่อมหมายถึง อาการที่เกิดกับเราท่านย่อมไม่เต็มที่เช่นกัน โอกาสในการชนะจึงมีมากกว่า ยิ่งมีนิสัยใหม่มากเท่าไหร่ โอกาสชนะยิ่งมากเท่านั้น การเดินสองขา จึงย่อมประสพผลความสำเร็จ ได้ง่ายกว่า ใครยิ่งสร้างขาธรรมได้เร็ว อาการที่ตนได้รับยิ่งบรรเทาเบาบางลง หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ว่า เพราะแทนที่จะทุกข์กับกรรม ทุกข์กับโรค ก็เลือกมาทุกข์กับวินัยของพระพุทธเจ้าแทนแล้วนั่นเอง
หากทำวินัยของพระภูมีจนเป็นอุปนิสัยใหม่เกิดแก่ตนได้ นั่นแลชีวิตใหม่ที่แท้จริง ที่ได้คืนกลับมา ทำให้ชีวิตมีสุข ติดวิญญาณไปทุกภพทุกชาติ และได้การหายโรคเป็นของแถม ที่สำคัญ ลบสัญญากรรม คือ สัญญาโรค ให้หมดไป
ใครที่คิดว่า การหายโรคเป็นเรื่องง่าย ดูหรือประเมินโรค เป็นโรค นั่นต่ำไป และยิ่งหวังพึ่งผู้อื่น ยิ่งไม่มีทางประสพผลในการหายโรคอย่างแน่นอน เพราะนิสัยเดิมยังอยู่ กรรมยังอยู่ มันจำได้ และไม่มีอะไรในโลกชนะกรรมได้ หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า นี่จึงเป็นเหตุว่าทำไมจึงบอกว่า "ยารักษาโรค ที่เป็นโรคตาย จึงไม่มีในโลก ใครว่ามี ใครรอ ก็รอไปเถอะ ไม่มีทางสมหวัง"
บทสรุป การจะหายโรค โดยไม่ทำนิสัย ไม่สร้างชีวิตใหม่ ด้วยการสร้างวิญญาณใหม่ ที่อยู่สูง มีธรรม มีนิสัยพระภูมิให้เกิดแก่ตน ย่อมไม่มั่นคง และไม่ปลอดภัย ที่น่าเสียดายกว่านั้น ศาสนา เป็นเรื่องของวิญญาณ ที่ทำแล้วติดวิญญาณ เป็นสมบัติของวิญญาณ เป็นพรหมลิขิตใหม่ จะมาแต่หายโรค นั่นเป็นการเสียโอกาสที่ได้พานพบศาสนาที่แท้จริง หายโรคแค่วันนี้ ... แล้วไง วันหน้าพรหมลิขิตเราท่านจะดีตลอด อย่างนั้นหรือ จะไม่พรหมลิขิต โรค รออยู่ แน่ใจหรือ และยิ่งไปกว่านั้น ปลอดโรค ไม่ได้บอกว่าปลอดภัย ... อุบัติภัย ก็ยังมี แน่ใจหรือ ว่าพรหมลิขิตตนดี
วันเวลา จะเป็นเครื่องพิสูจน์ ... ยารักษาโรค ไม่มีในโลก ใครที่อวดอ้างว่ามียาดี นั่นเข้าตำรา "ท้ากรรม" ท้ายที่สุด "หมองู ตายเพราะงู"
เราจึงเห็นความจริง โดยเฉพาะประเทศที่ผลิตยา ต้องออกกฎหมายมาเพื่อบังคับประชาชนของตน ในการใช้ยาเคมี และแพร่ไปในหลายประเทศ ที่ทำในทำนองเดียวกัน มากขึ้นเรื่อยๆ
จะมีชีวิตใหม่ โดยวิญญาณยังดวงเดิม จะเป็นไปได้หรือ ... กรรมมันจะยอมหรือ ... หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ว่า คนที่ปฏิบัติธรรม จนมีนิสัยของพระภูมีเกิดในตนได้ จึงเรียกว่า "เหนือมนุษย์" ได้รับสิทธิ์เหนือมนุษย์ทั่วไป คือ ได้สัมผัสความไม่มีโรค ชีวิตใหม่ จึงต้องมีนิสัยใหม่ จึงเหนือโรค จะมาเอาหายโรค ด้วยนิสัยเดิม .... คนทั้งโลกเขาทำกันมาแล้ว มีใครประสพผลบ้าง มีแต่หวังจะหายโรค หวังเจอปาฏิหารย์ ทุ่มเทเงินทอง ค้นหาหมอเก่ง โรงพยาบาลดี แล้วไง ... หงายท้อง ดั่งคำรำพันของ สตีฟ จอปส์ ที่กล่าวว่า "ตนทุ่มเททำงาน มาทั้งชีวิต จนร่ำรวยดั่งใจหวัง ท้ายที่สุด จึงรู้ว่า สุขภาพต่างหากที่ตนต้องการ ความร่ำรวยช่วยตนไม่ได้เลย" แล้วเรามีมากกว่าเขาหรือไม่ จึงไปเดิน ไปสู้ ในเส้นทางเดียวกับเขา หาหมอ หายา แล้วหวังหายโรค ....
ผลแพ้ชนะ ชีวิตใหม่ จึงรู้คำตอบ ต้้งแต่เริ่มแล้ว ...