นับแต่ยุคถ้ำกระบอกมาจนทุกวันนี้ คำตรัสของแม่ชีเมี้ยนเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะเรื่องศาสนาที่คนทั้งหลายบอกอยากได้
หากแต่ด้วยนิสัยที่ตนมี กับนิสัยของพระภูมี มันสวนทางกัน เมื่อคำสอนที่ฟัง สวนนิสัยสวนความรู้สึก มันจึงบาดลึก ไม่ชอบ ขัดหูขัดใจ เรียกว่า “ยิงปุ๊ทะลุใจ” แม้นจะพูดจริงมีประโยชน์สักฉันใด หาคนชอบยาก
เมื่อหาคนฟังชอบยาก คนที่ทำตามยิ่งน้อยใหญ่ คนที่ทวนกระแส ย่อมต้องเอาเหตุเอาผล มาข่มนิสัยตน คนทำได้จึงถือว่า ไม่ธรรมดา เหนือมนุษย์ เขาจึงควรได้พบปาฏิหาริย์
คำพูดแค่ถูกใจ ถูกจริต คนดูคนชอบเป็นล้าน คำพูดที่ท่านอาสิสอน ฟังแล้วพิจารณา เอาไปทำช่วยตนพ้นทุกข์ พ้นโรคได้ คนกลับเบื่อหน่าย
บทสรุป เสียดายนักความรู้ของพระพุทธไม่มีคนฟัง คนอยากฟังแต่ที่เพลิดเพลินเจริญใจ เฮฮาไปวันหนึ่งเท่านั้นเอง คนทั้งหลายจึงเสียเวลาหลงทาง ทำในสิ่งที่ช่วยตนไม่ได้ กว่าจะรู้ก็ถูกตัดโน่นนี่นั่น ท้ายสุดแม้แต่ชีวิตก็รักษาไม่ได้
ถ้าตายแล้วจบ ศาสนาก็คงไม่จำเป็น แต่พรหมลิขิตนี้ มันตามติดวิญญาณไปทุกภพ เกิดมาก็เป็นโรคเลย คอยทำลายชีวิต ที่เรียก กรรมพันธ์ นั่นแหละน่ากลัว
ความเจ็บยังไม่บีบเค้นวิญญาณ โลงศพยังไม่แง้ม ก็ไม่ร้องหาศาสนา ครั้นเมื่อมา จะมาทำก็ไม่ทันเสียแล้ว ตอนดีๆ ควรหรือไม่ ที่จะมาฟังมาทำในสิ่งที่ตนไม่ชอบ ตามรอยพระภูมีเพื่อช่วยตน
แรงทั้งชีวิตที่มี จะมีสักนิดเอาไปปลูกพริก มะกรูด มะนาว เพื่อให้สุขแก่ชีวิตผู้อื่น มาทำสมุนไพร จากการให้ด้วยน้ำเหงื่อของตน ด้วยเมตตาที่ไม่หวังผลตอบแทน ให้คุณค่าเสมือนมารดาให้บุตร ... ทำเพื่อช่วยตน มีไหม ฤาจะรอพึ่งผู้อื่น แล้วหวังผล ที่ไม่เคยมีใครได้
หากอยากหายโรค คาถาของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา “ชอบไม่ทำ ทำที่ไม่ชอบ”
ก็เพราะทำแต่สิ่งที่ชอบ แต่ทำผิดร่องธรรม กรรมจึงเกิด ดลบันดาลโรค ในวันนี้