วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เพื่อ


หลักพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ว่า "ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย รอคอยเราอยู่วันข้างหน้า"

หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักสอนสงฆ์เสมอว่า สิ่งที่เราท่านทำ มันจะเป็นผลกลับมาหาตัวของเราท่านในวันข้างหน้า ดังนั้น บุคคลที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด ย่อมสร้าง "บุญบาป" ได้มากที่สุดเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่เป็นผู้นำ แล้วมีคนมาฟัง พิจารณา เชื่อ แล้วทำตาม ผลที่เกิดกับผู้นั้นย่อมมหาศาล ถ้าทำถูก ผลถูกก็มหาศาล ทำผิด ผลผิดก็มหาศาล

มูลนิธิไทยกรุณา หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ว่า ผู้คนที่มาล้วนแล้วแต่หวัง มาเพื่อทำในสิ่งที่ช่วยชีวิตตน ให้พ้นทุกข์

ดังนั้น ทุกการกระทำ ที่บอกสอนให้ทำ จึงต้องระมัดระวัง ต้องมีผลที่ดีตอบสนองแก่ผู้ทำ หากทำแล้วให้ทุกข์ หรือไม่ให้สุข นั่นคือ ทำแล้วไม่ได้อะไรตอบแทน ผู้สอนผู้บอก ย่อมต้องรับผิดชอบการสอนนั้นๆ เป็นธรรมดา ด้วยกติกา แห่งตัวกระทำไม่ตายนั่นเอง

จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า การกระทำทุกอย่าง ทุกกระเบียด ย่อมถูกไตร่ตรองมาเป็นอย่างดี ว่า ทำเพื่ออะไร ... มีผลดีต่อผู้ทำประการใด เพียงแต่อาจจะไม่ได้บอกกล่าว บรรยายให้ฟังอย่างละเอียดถี่ถ้วน ว่าเหตุใดจึงต้องทำเท่านั้นเอง

มิใช่เลื่อนลอย เพราะจะเห็นได้ว่า คนที่ฟัง พิจารณา เชื่อ แล้วทำตาม มากมายที่ประสพผลสำเร็จ แม้นว่าคนบางคนอาจจะถูกพิพากษาแล้วว่า เท่านั้นวัน เท่านี้เดือน เขาต้องตายก็มีให้เห็นมากมาย

เสียดาย หลายคนเห็นว่า การกระทำนี้นั้น ไม่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องเน้น ไม่เชื่อว่าวันนี้ในรอบสัปดาห์ของหลวงพ่อนิพนธ์ เป็นวันพิเศษ เป็นวันที่มาทำเพื่อมีผลแห่งการช่วยตนพ้นทุกข์ ในทุกการกระทำที่ท่านกำหนด คิดแต่เพียงว่า ที่นี่มีสมุนไพรดี

บทสรุป คนที่รู้ค่า คือคนที่เรียนรู้ อยากรู้ ว่าการกระทำนี้ การกระทำนั้น ทำเพื่อสิ่งใด มีผลอะไรต่อชีวิต มีค่ามหาศาลต่อตนเพียงใด จึงควบคุมพฤติกรรม การกระทำของตนให้สอดคล้อง กับสิ่งที่ตนรู้ แลช่วยตนได้ แต่คนที่ไม่ยอมเรียนรู้ หรือที่ท่านอาสิเรียก คือ ไม่เปิดใจ ไม่รับรู้ ไม่สน แก้วมณี ก็กลายเป็นก้อนกรวด ที่ไร้ค่า เขาไม่สนใจ จะทำตาม เพื่อช่วยตน มีแต่ปรารถนา ไม่มีตัวกระทำที่ช่วยตน ท้ายที่สุด ก็ยากที่จะสมปรารถนา หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ว่า อย่างดีก็แค่ยืด โชคดีหน่อย หายโรคนี้ สักพักก็ไปเป็นโรคนั้น หรือ ประสพอุบัติเหตุ หนีกรรมไม่พ้น

หลักของพระภูมี เป็นหลักปราชญ์ ผู้สอนจึงไม่โง่ สอนสิ่งที่กระทำแล้วไม่เกิดผลแก่ผู้ใด เป็นแน่แท้ ก็แล้วทำไมคนมากหลายเขาไม่ทำ เพราะขาดพิจารณานั่นเอง เมื่อไม่พิจารณา ว่า เอ.. เขาให้หิ้วสมุนไพรมาทำไม เอ... เขาให้สละแรงกายทำไม เอ... เขาให้ทำนิสัยทำไม ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ เพื่อ ... เพื่อ... เพื่อ .. ก็เลยบรรเลงตามนิสัยตน ชอบแบบไหน ทำแบบนั้น

คนส่วนใหญ่จึงตาบอด ตามองแต่มองไม่เห็น มองเท่าไหร่ สถานที่ของแม่ชีเมี้ยน ของหลวงพ่อนิพนธ์ ก็ไม่เป็นวัดขึ้นมาได้ บอกตัวเอง วัดต้องมีโบสถ์ ต้องมีวิหาร ต้องมีศาลา แต่พระพุทธเจ้าบอก "วัด" คือสถานที่ที่มาทำนิสัยของพระพุทธเจ้า ไม่ได้อยู่ที่วัตถุ ไม่ต้องมีโบสถ์ มีศาลา

วัดพุทธกาลจึงเป็นที่รวมคนทุกข์ ให้คนอยากได้สุข มาสละแรงกาย สละนิสัยทำเพื่อตน มาให้สุขผู้อื่น เพื่อผลสุขย้อนมาหาตน การกระทำทุกสิ่งอย่าง ที่่วัด คือ การกระทำเพื่อคนทุกข์ จึงมีผลกลับมายังตน

หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักให้สติเสมอว่า จะทำอะไรคิดก่อน ว่า ทำเพื่อ .. มีผลแก่ใคร แก่สรรพสัตว์ไหม ด้วยบุญของพระพุทธเจ้า จะเกิดผล ย่อมต้องมี มนุษย์และสัตว์ เฉกเช่นเดียวกับกรรม ไม่ใช่วัตถุ จึงอย่าแปลกใจเลย หากคิดว่า ทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างศาลา มาตลอดชีวิต ทำไมไม่มีผลบุญมาเกื้อหนุนตนในยามนี้เลย เพราะนั้นไม่ใช่บุญของพระพุทธเจ้า

ลองเปลี่ยนมาฟัง พิจารณา ในสิ่งที่ท่านอาสิสอน แล้วคิดว่า ถ้าเราทำตาม จะมีผลกับสรรพสัตว์ และมนุษย์ไหม ถ้ามี นั่นแหละบุญ

ยิ่งนิสัยด้วยแล้ว ผลย่อมชัดเจน ทำปุ๊บ แค่ไม่โกรธตัวเดียว บ้านก็เปลี่ยนจากนรกเป็นสวรรค์แล้ว ... แล้วทำไมไม่ทำ ทำไมไม่อยากทำ ... นี่แหละกรรม มันบังตา บังใจ ไม่อยากให้เราท่า ผู้ใดทำได้ จึงเรียกว่า "เหนือมนุษย์" คือ ทำในสิ่งที่คนทั้งหลายไม่ทำ หรือทำไม่ได้

พิจารณา " ปัญญาเกิด" ... เราจะเห็นค่าของศาสนาของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา แล้วเราจะอยากทำ ไม่ใช่เพราะเขาบอกให้ทำ แต่รู้แล้วว่า ทำเพื่อ.... สุขของตน มิเพียงวันนี้ แต่เพื่อวันหน้า ไปถึงชาติหน้าด้วย ... นี่แลทำไมเรียกว่า หลักปราญช์ ก็การกระทำที่ใครๆสอน ใครๆบอก จะมีผลมหาศาลเพียงนี้ ... ไม่มีเลย จึงไม่ต้องสงสัย ทำไมปู่ย่าตายาย จึงสอนลูกจูงหลานเข้าวัด

ถ้าไม่ทำ ไม่มีใครว่า แต่อย่าบ่นน่ะว่า "ทำไมฉันจึงทุกข์ หาสุขไม่มีเลย"

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44