หลายคนมักมีคำถามว่า ทำไมทานสมุนไพรมาตั้งนานยังไม่หายสักที หรือ ทำมาตั้งนานยังไม่หายสักที
สมบัติของศาสนา หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า มี ๓ ประการ จากต่ำสุด คือ มนุษย์สมบัติ อันได้แก่ความไม่มีโรค มาสวรรค์สมบัติ คือ มิเพียงไม่มีโรค แต่มีทั้งทรัพย์ทั้งสติปัญญาสมบูรณ์ จนสูงสุด คือ นิพพานสมบัติ
สิ่งหนึ่งที่ทุกคนรู้ พระพุทธเจ้าใช้เวลา หกปีสี่เดือน จึงสำเร็จมรรคผล ได้นิพพานสมบัติ หากแปลความก็จักเห็นว่า อำนาจของศาสนาผู้ใดฟัง พิจารณา เชื่อ แล้วทำตามอย่างจริงจัง ตามคำสอนแล้วไซร้ ผลสำเร็จนั้น รวดเร็ว และเฉียบขาด
แล้วทำไมทุกวันนี้ เราท่านทั้งหลาย แค่มนุษย์สมบัติ มันจึงยากเย็นแสนเข็ญ ไม่พ้นทุกข์พ้นโรคกันสักทีเล่า นั่นเป็นเพราะ เราท่านทั้งหลาย ยังไม่รู้ หรือ รู้ แต่ยังไม่ยอมทำ หรือ ทำ แต่เอาแบบที่ตนชอบนั่นเอง
หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ชัด ก่อนลาสังขารว่า หนทางแห่งการพ้นทุกข์ ให้ถึงซึ่งมนุษย์สมบัตินั้น แม่ชีเมี้ยนทรงตรัสว่า ในยุคนี้มีประการเดียว คือ ทำนิสัยของพระพุทธเจ้าให้เกิดแก่ตน ละนิสัยสันดานเดิมที่ให้ทุกข์ผู้อื่นลง
เมื่อท่านอาสิชี้ พูดให้ฟัง จะด้วยกรรม จะด้วยเวรอันใด บังตา บังใจ ปากบอกอยากได้มนุษย์สมบัติ อยากหายโรค แต่ไม่ทำ และศาสนาก็ชี้ชัดว่า "ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว" นั่นย่อมแปลได้ว่า ใจอาจยอมรับสมุนไพร แต่ใจนั้นไม่ยอมรับคำสอน ไม่สนใจ จึงไม่บังคับกายให้ทำ
บทสรุป ศาสนาพุทธท่านอาสิก็ชี้ชัดว่า เป็นประชาธิปไตยในการเลือกทำคือไม่บังคับ แต่เป็นเผด็จการเมื่อท่านจะมาทำ ต้องเดินในร่องของศาสนาเท่านั้น ใช้ความคิดตนไม่ได้เลย คนที่ทำได้เท่านั้น จึงจักพบปาฏิหารย์ ด้วยการสร้างคุณสมบัติรองรับอำนาจธรรม ผู้ใดทำได้ ผลจึงเฉียบขาด รวดเร็ว
ก็แล้วท่านจะมาทำแบบว่ากำหนดเอง เดินเอง เอาแค่นี้พอ ไม่เชื่อคนรักษา นั่นจึงไม่แปลกว่า ทำไมผลมันจึงช้า อืดเป็นเรือเกลือ จนบางทีนานจนท้อ เลิกราไปเสียก็มาก
เอาไม่เอา ว่ากันมา ถ้าไม่เอา ก็ไปทางอื่นที่ตนชอบ ถ้าเอา ทำไมไม่ทุ่มทำตามท่านอาสิชี้ เดินสองขา ใช้ทั้งสมุนไพร และธรรมนำตน แล้วจะได้สมปรารถนา หายทุกข์ หายโรค รวดเร็ว ดั่งปาฏิหารย์
ประเภท มาเป็นสิบปี แค่มนุษย์สมบัติ ยังเดินไม่ถึงเลย มันต้องมีอะไรผิดพลาดแล้ว ฉุกคิดแล้วหันมาสำรวจตน จะได้ช่วยตนได้ สมปรารถนา อย่าปล่อยวันเวลาผ่าน .... เชื่อหรือ ว่าตนจะมีเวลาอีกนาน มั่นใจหรือว่าพรหมลิขิตของตนเหนียวแน่น นั่นคือคนที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า ตกอยู่ในความประมาทแล้ว
รีบมา รีบทำ ช่วยตนได้ ก็จะได้กลับไปทำในสิ่งที่ตนชอบ และก็เป็นแบบอย่างให้คนเขาเดินตาม ดีกว่าไหม