วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

อย่ามามั่ว

ในทางโลก ความมีน้ำใจ ผูกใจสมัคร รักใคร่ ชอบพอ ย่อมเป็นธรรมดาของปุถุชนคนทั่วไป มีให้เห็น

แลด้วยเหตุนี้ ความมีน้ำใจ จึงอยากจะแบ่งปัน จนมีวลียอดฮิต จากหนังจีน พูดกันจนติดปากคนไทย ที่ว่า "มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน"

หากแต่ในโลกของศาสนาแล้วไซร้ หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า วิญญาณนั้นโดดเดี่ยว เวลาทุกข์ เวลาเจ็บ ล้วนแต่เป็นเฉพาะตน จะหาใครมาแบ่งเบา มาช่วยผ่อนคลาย แม้นแต่สักกะผีกก็ไม่ได้เลย

ดั่งคำกล่าวของพระภูมี ที่ตรัสให้เป็นสติ ที่ว่า "ใครทำ ใครได้"

แต่ด้วยความมีน้ำใจ แลผูกพันธ์นี้เอง มนุษย์เมื่อมาเจอศาสนา แลได้รับสิ่งดีๆ ก็อยากจะให้คนที่ตนรักชอบพอ ได้สิ่งนี้ด้วย

หากแต่ครั้นความจริงปรากฎ ความอยากของตนนั้นไม่เป็นผล คนที่รักชอบพอ ต้องจากไป ก็พาลพะโลโทษศาสนา โทษพระภูมี โทษผู้สอน โทษนั่นโทษนี่ ท้ายที่สุด ตนของตน ก็ต้องหลุดลอยไปจากศาสนาด้วย มีให้เห็นมากมาย

ตัวอย่างที่หลวงพ่อนิพนธ์ยกมาสอน ก็เฉกเช่นในสมัยที่หลวงพ่อนิพนธ์นึกอยากจะลองสูตรสมุนไพรที่แม่ชีเมี้ยนให้ แลตรัสว่า สมุนไพรสูตรนี้ ตอนนี้ยังใช้ไม่ได้ เพราะยังไม่มีคนเป็น ต้องรออีก ๓๐ ปีให้หลังนั่นแล จึงค่อยนำออกมาใช้

หลังปี ๓๐ ผ่านไปหลายปี ความคิดที่จะนำสมุนไพรนี้มาทดลอง ก็จึงเปิดรับคนป่วยที่เป็นเอดส์ ประมาณสิบคน เข้ามาลองฟื้นฟูตนดู

ในกลุ่มคนเหล่านี้เอง มีคนป่วยชายที่ติดเชื้อมาจากยาเสพติด แลคนป่วยหญิงหน้าตาผิวพรรณดี เพราะมาจากคนที่มีฐานะ รวมอยู่ด้วย

ผ่านการฟูมฟักมาระยะหนึ่ง คนไข้กลุ่มนี้ล้วนมีสภาพดีขึ้น จนทุกคนสามารถช่วยตนเอง แลกลับมาทำงานเหมือนคนปกติ

หลวงพ่อนิพนธ์จึงสอนคนกลุ่มนี้ว่า สมุนไพรช่วยมาระดับหนึ่ง คือ ให้มีกำลังสามารถปฏิบัติตามธรรมคำสอนได้แล้ว ต่อแต่นี้ ก็ขึ้นกับแต่ละบุคคล ใครทำได้ ก็รอด ใครไม่ทำ ท่านก็ช่วยไม่ได้

นั่นจึงก่อเกิดนิยายรักคู่แรกในหมู่คนป่วยเอดส์ ของหลวงพ่อนิพนธ์ คนทั้งสองเมื่อมีสภาพดีขึ้น ก็แอบมีสัมพันธ์กัน จนฝ่ายหญิงตั้งครรภ์

ครั้นตั้งครรภ์ผ่านไปหลายเดือน ฝ่ายหญิงก็เริ่มมีอาการทรุดลง ในขณะที่ฝ่ายชายกลับแข็งแรง ดีวันดีคืน

ฝ่ายชายมองเห็นสภาพฝ่ายหญิง ด้วยความรักฝ่ายหญิงและลูกที่อยู่ในครรภ์ จึงไปร้องขอหลวงพ่อนิพนธ์ให้ช่วย

หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ท่านบอกแล้ว เรื่องของศาสนานั้น เป็นเรื่องเฉพาะตน ใครก็ช่วยใครไม่ได้ คำสอนที่ให้ใครทำ คนนั้นก็รอด ในเมือฝ่ายชาย เชื่อคำสอน แล้วทำ ก็ดีวันดีคืน ส่วนฝ่ายหญิงนั้น เพราะความที่มาจากคนมีฐานะ จึงไม่ยอมทำอะไรเลย ไม่ยอมลำบาก เมื่อสอนแล้วไม่ทำ ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้

ในที่สุด ฝ่ายหญิงก็เสียชีวิตลงพร้อมลูกในครรภ์ ด้วยเหตุที่ไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมใดๆ แม้นหลวงพ่อนิพนธ์จะเตือนสักฉันใด

หลังจากภรรยาและลูกตาย ฝ่ายชาย ก็เกิดความคิดที่ว่า สิ่งที่ตนเสีย เป็นเพราะหลวงพ่อนิพนธ์ไม่ยอมช่วย จึงเกิดความคิดที่ผิด นั่นคือ คิดจะทำลายหลวงพ่อนิพนธ์ ด้วยการฆ่าตัวตาย

หากแต่การฆ่าตนของฝ่ายชายนั้น วางแผนไว้โดยการขอลากลับบ้าน แล้วไปซื้อยาบ้ามาเป็นจำนวนมาก แลนำกลับมา กะว่าจะเสพยานี้ให้เกินขนาดแล้วเสียชีวิตในแผ่นดินของหลวงพ่อนิพนธ์ เพื่อแก้แค้นที่ไม่ยอมช่วยตน

ความนี้ก็รู้ไปถึงพี่ชาย ผู้ซึ่งมาเลิกยาเสพติดพร้อมน้องชาย จึงห้ามปราม แลร้องขอว่าอย่าทำเลย แต่น้องชายก็ไม่ยอม ต้องทำให้ได้

เมือคนป่วยชายผู้นี้ กลับมาอยู่กับหลวงพ่อนิพนธ์ รอวันเวลาที่จะทำตามที่ตนตั้งใจ วันหนึ่ง ออกไปทำงานใต้ต้นไม้ใหญ่ ในวันที่ฟ้าโปร่ง ไม่มีเมฆแม้นแต่น้อย แลหลวงพ่อนิพนธ์ก็ขึ้นไป เพื่อนำอาหารและสมุนไพรไปให้ ตามปกติ

สายวันนั้น ท้องฟ้าที่โปร่งเป็นสีคราม กลับมีก้อนเมฆเล็กๆสีดำกลุ่มหนึ่ง ลอยมาทางแผ่นดินของหลวงพ่อนิพนธ์ เมื่อมาถึง ก็มีฝนปรอยๆลงมา อย่างไม่น่าเป็นไปได้ แลก็ปรากฎฟ้าผ่าสายหนึ่ง ผ่าลงมายังแผ่นดินของหลวงพ่อนิพนธ์ ทำให้หลวงพ่อนิพนธ์ฉงน

สายฟ้าเส้นนั้น ผ่าไปที่คนป่วยชายผู้นั้น กลางหลัง เหมือนโดนฟันสะพายแล่งก็ปานนั้น

หากแต่ชายผู้นั้น กลับยังไม่เสียชีวิตในทันที เมื่อหลวงพ่อนิพนธ์มาดู ก็บอกแก่ชายผู้นั้นว่า ฟ้าเขาลงโทษ หากแต่ความดีที่ทำมา ทำให้ยังมีโอกาส หากยอมรับผิด ก็รอดได้

ชายผู้นั้นยืนกรานเด็ดขาด ไม่ยอมรับผิด จนหลวงพ่อนิพนธ์ถามย้ำสามครั้ง ก็ยังไม่ยอม หลวงพ่อนิพนธ์ก็จึงบอกว่า ก็ต้องปล่อยชายผู้นั้นไป แลชายผู้นั้นก็สิ้นลม

เรื่องที่ยกมา จึงเป็นอุทาหรณ์ให้คนรุ่นหลังได้เป็นอย่างดีว่า แผ่นดินนี้ "ตัวใครตัวมัน ใครทำ ใครรอด" จะเอามาเกี่ยวโยงกันไม่ได้เลย เมื่อเราท่านทำ แล้วรอด ก็อยากให้คนที่รัก ชอบพอ รอดเหมือนกัน หากแต่คนผู้นั้น ใจไม่เหมือนเราท่าน พฤติกรรมไม่เป็นดั่งคำสอน ความอยากให้คนผู้นั้นรอด ก็เป็นได้แต่ความฝัน ไม่มีทางเป็นจริงได้

บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า เรื่องของศาสนา เป็นเรื่องเฉพาะตัว อย่าเอามามั่ว เมื่อคนที่รักชอบพอ เขาไม่ทำ เขาจึงไม่รอด ก็พาลมายังตน เกิดความคิดผิด ทิฐิ แล้วก็พาตนไปจากศาสนา ท้ายที่สุด ก็ไม่รอดตามกัน ช่างน่าเสียดายนัก

คำเตือนของหลวงพ่อนิพนธ์ ที่ควรจำให้ดี อันเป็นสัจธรรมความจริงของชีวิต ที่พระภูมีทรงตรัส คือ "ทุกข์ย่อมเกิดแก่วิญญาณของเราท่าน ทุกข์อันนี้หามีใครช่วยเหลือ หรือแบ่งเบาได้ไม่ สิ่งที่กระทำ วิญญาณเราท่านต้องรับแต่เพียงผู้เดียว ใครจะมาช่วยไม่ได้เลย"

ดังนั้น ขอย้ำ อย่ามามั่ว และที่มักกล่าวกัน ไปทำบุญมา ทำเผื่อให้แล้ว แบ่งบุญให้คนโน้นคนนี้ ... นั่นคือคนไม่รู้ คนรู้ธรรม ย่อมเข้าใจดีในคำตรัสของพระภูมี "ใครทำ ใครได้"

จะมียกเว้นก็แต่เพียง สายเลือด พ่อแม่ลูกเท่านั้นเอง ที่กรรมเขาอนุโลม ทำแทนกันได้ หากแต่ก็เพียงเสี้ยวหนึ่ง มิใช่ทั้งหมด

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44