ศาลารักษาโรค แนวทางการรักษาด้วยสมุนไพรควบคู่ไปกับธรรมะ เผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิไทยกรุณา และให้ความรู้ด้านสมุนไพรรักษาโรค
วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
บัวสี่เหล่า
เล่าเรื่องที่ไม่ตรงกับความเข้าใจของคนทั้งหลายให้ได้ฟัง ได้พิจารณาบ้าง
หลวงพ่อนิพนธ์ แบ่งคนที่มา เป็นสี่กลุ่ม หากแต่มีที่มาเฉกเช่นเดียวกัน นั่นคือ ด้วยสัญญา หรือ ตัวกระทำที่กระทำแก่ศาสนาในอดีต เป็นเครื่องพามา
การฟื้นฟูตน จึงเอาเหมือนกันไม่ได้ เพราะตัวกระทำต่างกัน นิสัยต่างกัน เป็นสำคัญนั่นเอง
คนกลุ่มแรก แค่ทานสมุนไพร มีการกระทำนิดหน่อย ก็อาจจะพ้นเคราะห์กรรมอันนี้ไปได้ แม้นจะดูว่าสิ่งที่เป็นอยู่เลวร้ายนัก เข้าข่ายหมอกาวันที่ให้ก็ตามที ก็ฟื้นฟูตนได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยของเดิมทำมาดีนั่นเอง
คนกลุ่มที่สอง ก็เรียกว่า หืดจับขึ้นมาหน่อย เพราะของเดิมนั้นไม่เพียงพอส่งให้ถึงฝั่ง การจะพ้นถึงฝั่ง จึงต้องออกแรงช่วยบ้าง อาทิ การมาเป็นจิตอาสา ให้สุขแก่ผู้อื่น จึงจะถึงฝั่ง คนกลุ่มนี้ก็มีให้เห็นมากมาย
คนกลุ่มที่สาม นี่เรียกว่า เข้าขั้นเพราะลำพังสมุนไพร หรือ การเป็นจิตอาสา นั้นไม่เพียงพอในการฟื้นฟูตน ด้วยเหตุต้นทุนมีในอดีตมีน้อย หรือแทบไม่มีเลย ดังนั้น จึงต้องพัฒนาไปอีกขึ้น มิเพียงจะอาศัยสมุนไพร หากแต่ยังต้องพึ่งบุญของศาสนา เป็นตัวหนุนช่วย จึงจะพ้นได้ เรียกว่า ต้องปรับเปลี่ยนนิสัย อย่างเด่นชัด ใช้นิสัยของพระพุทธเจ้ามาบังคับตน เป็นเครื่องหาบุญช่วยเกื้อหนุน
คนกลุ่มที่หนึ่ง กลุ่มที่สอง หากสามารถทำเลยไปเฉกเช่นคนกลุ่มที่สาม นั่นคือ หาบุญจากการทำนิสัยด้วยแล้ว มิเพียงแต่ฟื้นฟูตนได้ บุญยังหนุนส่งให้ชีวิตเหนียวแน่น อีกต่างหาก
ในทางกลับกัน ตัวของตนอยุ่กลุ่มที่ต่ำชั้นกว่า ทำมาน้อย แต่กลับทำตนเหมือนกลุ่มแรกๆ หลวงพ่อนิพนธ์ก็บอกว่า อย่างดีก็แค่ยืด หรือแม้นจะโชคดีหายโรคตายห่า ก็ยากที่จะเลี่ยงโรคตายโหง
ส่วนคนกลุ่มสุดท้าย ที่เราท่านมักเรียกว่าพวกบัวก้นบึ้ง คนเหล่านี้ มักเป็นผู้ที่จะหวังพึ่งสมุนไพรเพียงอย่างเดียว โดยไม่ทำอะไรเลย อันนี้ก็แล้วแต่เลือก หากแต่ต้องยอมรับผลที่จะพึงเกิด ว่ายากที่จะคาดคะเนผลได้ ส่วนใหญ่ก็มักจะเห็นว่าได้แค่ยืดวันเวลาออกไปเท่านั้นเอง
บัวสี่เหล่าของท่านเป็นอย่างไร เราไม่ถกเถียง แต่บัวสี่เหล่าของหลวงพ่อนิพนธ์ เป็นเครื่องยืนยันว่า "ต่างคน ต่างกรรม ต่างวาระ" จะเอาเหมือนกันไม่ได้เลย
นี่เอง จึงเป็นสิ่งที่จะสรุปผลแห่งตน ว่า การได้เวียนว่ายมาที่นี่ หายไม่หาย รอดไม่รอด อยู่ที่ตัวเราท่านกำหนดเองทั้งหมดทั้งสิ้น ทำอย่างไรได้อย่างนั้น ไม่มีใครช่วยใครได้ อยากได้ต้องทำเอง แต่จะทำมากน้อยแล้วยังผล อันนี้ใครก็บอกไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของอดีตที่ทำกันมา
บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า หัวใจของการมา คือ การมารับผลแห่งอดีต แล้วพิจารณาเอาเองว่า ควรจะทำต่อ เพื่อผลแห่งอนาคตตนหรือไม่ หากคิดว่าดี ก็ทำต่อ หากคิดว่าไม่ดี ก็รับของเดิมแห่งตน แล้วก็บ้านใครบ้านมัน ไม่ว่ากัน มีปัญญามารับสมุนไพร ศาสนาก็มีปัญญาหามาให้ทานเช่นกัน