วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

อยากได้แต่ทำไม่เป็น

สธ.กำหนดให้วันที่ 29 ตุลาคมของทุกปี เป็น "วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ" ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทย มีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดโพธิ์ จัดทำศิลาจารึกตำรายา 1,061 ตำรับ หล่อรูปฤาษีดัดตน 80 ท่า รวบรวมและจารึกสรรพวิชาการนวดแพทย์แผนไทยลงบนแผ่นหินอ่อนจำนวน 60 ภาพ ซึ่งองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ประกาศรับรองขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้คนไทยเข้าถึงการบริการที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะภูมิปัญญาไทยและบริการการแพทย์แผนไทย เพื่อเป็นระบบการแพทย์หลักคู่ขนานกับการแพทย์แผนปัจจุบัน ขณะนี้โรงพยาบาลในสังกัด มีการบริการแพทย์แผนไทยที่แผนกผู้ป่วยนอกร้อยละ 67 คาดในปี 2561 จะครบทุกแห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังได้นำยาสมุนไพรบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติแล้ว 74 รายการ เป็นการบูรณาการการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพอย่างครบวงจร

ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ย่อมจริงแท้แน่นอน วันหนึ่ง ก็ต้องมาถึงทางตันของยาเคมี ในการกล่าวอ้างความสามารถในการรักษาโรค หากแต่สะดุดหยุดตามที่หลวงพ่อนิพนธ์ ได้ชี้ให้เห็น นั่นคือ โรคกรรมผ่าน มาแล้วก็ไป หรือ โรคอุบัติเหตุ เท่านั้นแล

หากยามใดที่ต้องเผชิญกับโรค ที่มาทำลายชีวิต หรือ ที่แม่ชีเมี้ยนทรงตรัสเรียกว่า "โรคตาย" แล้วไซร้ ตัวเลขของการตายย่อมสะท้อนให้เห็นความจริงอย่างเด่นชัด ว่า เกินกว่ายาเคมีจะเยียวยา ดีที่สุดก็แค่ประทัง เท่านั้นเอง เมื่อถึงเวลาที่ยาคุมไม่อยู่ อาการทั้งหมดทั้งปวงก็จะแสดงออก และตายตามกันไป

ครั้นพอจะหันมาหาสมุนไพร ก็กลัวๆกล้าๆ ลักปิดลักเปิด ทำให้คนโลภ เห็นเป็นช่องทางทำมาหากินกับชีวิตมนุษย์ สมุนไพรสารพัดตำหรับ จึงถูกหยิบยก อวดอ้างเกินเลย บางตำหรับ ก็อาศัยเสตียรอยด์ มาเป็นเครื่องช่วย เหล่านี้ยิ่งทำให้คนป่วย เสี่ยงแก่การเสียชีวิต หรือ ซ้ำเติมอาการเข้าไปอีก ก็มีให้เห็นบ่อย

เราจึงสงสัยว่า ประเทศไทยของเราท่านนี้ ยังมีเวลา ยังมีเงินเหลือมากมาย ให้ลองผิดลองถูกอีกกระนั้นหรือ เสียทั้งเงิน เสียทั้งชีวิตของคนในชาติ เสียทั้งโอกาส

หลวงพ่อนิพนธ์ ชี้ให้เห็นคุณสมบัติของสมุนไพร อย่างเด่นชัด เพื่อให้เราท่านไม่หลงทาง หลงคำโฆษณาที่เกินเลย แลข้อจำกัด ของสมุนไพร

ประการแรก ทำไมทั้งโลกรู้สรรพคุณ ของพืชสมุนไพร แต่นำมาใช้ไม่ได้ อาทิเช่นขิง มีสรรพคุณไล่ลม แต่กินขิงมาตั้งแต่เกิด ยังเป็นโรคลม นั่นเพราะ สมุนไพรจะใช้เพียงตัวเดียวโดดๆไม่ได้ หลวงพ่อนิพนธ์บอกเหมือนมีคู่ ต้องจับแต่งกัน จึงจักบังเกิดผล.

ประการที่สอง สมุนไพร ต้องมีสัดส่วน ต้องมีลำดับ ในการปรุง ซึ่งมิใช่เกิดจากการลองผิดลองถูก

สมุนไพรแม้นจะให้ผลดี ไม่มีผลข้างเคียง หากแต่อาการเฉพาะหน้า ก็ยากที่จะแก้ไขได้ทัน ดังนั้น จึงมิใช่อวดเก่ง อวดอ้าง ไม่สนความเชียวชาญ หรือความชำนาญของแพทย์แผนปัจจุบัน อาทิเช่น การเกิดเสลด ในลำคอ ที่ซึ่งอาจจะทำให้อุดตันหลอดลม เสียชีวิตได้ เครื่องมือทางการแพย์ในการดูดเสลด สามารถใช้ได้ดีและรวดเร็ว ปลอดภัย หรือแม้นกระทั่ง อาการน้ำล้น ท่วมปอด หากจะรอสมุนไพรมะพร้าวช่วยไล่น้ำส่วนเกินนี้ออกจากร่างกาย ก็อาจไม่ทันการแล้ว อย่าถือทิฐิ ไม่พึ่งหมอ เพราะมีสมุนไพรดี คิดเช่นนี้ผิดถนัด

ที่สำคัญ หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ยิ่งถ้าสภาพของผู้ป่วยที่มา ขาดอาหารมานาน กินไม่ได้ การให้เลือด และน้ำเกลือ เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีที่สุด ทำให้คนป่วยมีกำลัง แลมีวันเวลาให้สมุนไพรทำงาน

ประการที่สำคัญอีกหนึ่ง ที่หลวงพ่อนิพนธ์ มักเตือนอยู่เสมอ นั่นคือ คุณค่าของสมุนไพร จะเสียไป จนเกือบหมด หากนำไปสกัด ... วิทยาการการสกัด ทางวิทยาศาสตร์ แม้นจะเลอเลิศเพียงใด แต่ใช้กับสมุนไพรไม่ได้ โดยเฉพาะสมุนไพรของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา อย่างดีสุด ก็แค่การแปรรูป เช่น การทำให้เข้มข้น ด้วยการดูดน้ำออก เสมือนทำยาน้ำของเด็ก ที่ทำให้ไม่ต้องทานปริมาณมาก แค่ช้อนเดียว ก็เสมือนทานปกติเป็นแก้วแล้ว

น่าเสียดาย สิ่งที่แม่ชีเมี้ยนทิ้งไว้ให้ หลวงพ่อนิพนธ์ ได้พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์มาหลายสิบปี มีผู้ประสพผลมากมายนับไม่ถ้วน ไม่เคยที่รัฐจะเหลียวแล สนับสนุน แม้นเพียงวัตถุดิบ แต่ไปสนับสนุนตำราที่ไม่เคยทำให้ผู้ใดรอดได้เลย

เราไม่ประสงค์ จะว่ากล่าวติเตียน ผู้ใด องค์กรใด หากแต่อยากจะเตือนเฉพาะสมาชิกว่า ชีวิตไม่ใช่หนูทดลอง เขาว่าดี ก็ลอง นั่นมันอดีต ไม่ว่ากัน เมื่อมาพบศาสตร์สมุนไพรของพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา อย่าเสียเวลาไปกับสิ่งเหล่านั้นอีกเลย

ฟังคำสอนหลวงพ่อนิพนธ์ แล้วพิจารณา ดูผล แล้วตัดสินใจ

บทสรุป คำเตือนของหลวงพ่อนิพนธ์ อันเสมือนคาถาในการทานสมุนไพรของพระภูมี "อย่าเหยียบเรือสองแคม" มิฉะนั้น ยากที่จะประสพความสำเร็จ ในการฟื้นฟูตน ด้วยศาสตร์สมุนไพรของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา

แล้วก็นั่งดู ไม่ว่าจะศาสตร์อื่นใด ที่โฆษณาว่าตนแน่ ทั้งแผนปัจจุบัน และสมุนไพร วันเวลาจะเป็นเครื่องชี้ ว่าไร้ผล ถ้าถูกนำมาใช้กับโรคตาย ผู้ที่หลงเข้าไป เสียทั้งเงิน ทั้งเวลา แลสุดท้าย เสียทั้งชีวิต

ก็ไม่แปลกว่า ทำไมวงการแพทย์ จึงหยามสมุนไพรกันนัก แลชี้ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้คนป่วยมีอาการเลวร้ายมากยิ่งขึ้น เป็นภาระซ้ำซ้อน

ศาสตร์สมุนไพร ไม่ใช่ใครก็ทำได้ หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า แม่ชีเมี้ยนทรงตรัสว่า สมุนไพรเป็นของฟ้าดิน มีวิญญาณ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติ แค่เริ่มคิด ด้วยความอยาก ความโลภ ก็ฉิบหายตั้งแต่ต้นทั้งคนทำ คนกิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาเผ่นป่าราบไปแล้ว

จีนที่ว่าแน่ๆ คุยนักคุยหนา ... เป็นเจ้าแห่งสมุนไพร แล้วเป็นไง หาผลงานมาอวดชาวโลก ไม่ได้สักชิ้น ที่เป็นรูปธรรม สัมผัสได้

อย่าให้เป็นแค่ ไม่อยากเสียงบประมาณ ก็ปัดให้ไปกินสมุนไพร จะได้เสียงบน้อยหน่อย กินแล้วจะเป็นอย่างไร ไม่รับรู้ ... มันโหดเกินไปหรือเปล่า ฤาชีวิตคนไทย มันต่ำ... ขอยืนยันหน่อยเถอะ สมุนไพรที่จะให้คนไทยไปกิน มันมีผล ได้ผ่านการติดตามผล ตามหลักการแพทย์มาแล้ว ใครก็ได้ ที่สนับสนุนให้ไปกิน ... (โรคตายน่ะ แก้ไอไม่ต้องมาเสนอ)

มิได้บังคับ ฟังแล้ว พิจารณาแล้ว ไม่เห็นด้วย ไม่ชอบ ก็ไม่ควรเลือกทางสายนี้ ไปเดินในทางที่ตนชอบ อย่างน้อยก็สบายใจ ไม่ค้างคาใจกัน ในยามที่ผลปรากฎ เพราะเราท่านได้เลือกเอง

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44