คนทั้งหลายทั้งปวงที่มา ล้วนแล้วแต่ฟังคำกล่าวขานในเรื่องสมุนไพรจึงแห่แหนกันมา
หลวงพ่อนิพนธ์ จึงชี้ให้เห็นว่า สมุนไพร จึงเปรียบเสมือนเหยื่อของพระภูมีที่ใช้ล่อนั่นเอง
หากแต่สิ่งที่เป็นสุดยอดของดีของพระภูมี นั่นคือ "ธรรม" ที่เมื่อปฏิบัติแล้วไซร้ เป็น "บุญ" อันเปรียบได้เหมือนแก้วสารพัดนึก ที่บันดาลให้ได้ตามปรารถนา
หลวงพ่อนิพนธ์ได้แสดงให้เห็นประจักษ์ ในคราหนึ่งที่อยู่ระหว่างช่วงเดินธุดงค์ อันเป็นกิจของพระสงฆ์ที่แม่ชีเมี้ยน ให้เดินตามรอยของพระพุทธเจ้า ที่ซึ่งเรียกกันว่า เป็น "ภาคปฏิบัติ" ของสงฆ์พระพุทธเจ้าที่จะใช้ความรู้ที่เรียนมาตลอดปี ไปเผชิญเหตุนั่นเอง
ความโด่งดังในเรื่องการบำบัดยาเสพติด จากเมื่อครั้งถ้ำกระบอก แลเมื่อกลับมาเปิดสำนักที่ลพบุรี นั่นทำให้ผู้เสพยาและผู้ปกครอง ล้วนมีความมั่นใจ ในสรรพคุณของยาสมุนไพรที่ใช้เพื่อบำบัดสารเสพติดและฟื้นฟูร่างกาย อย่างไม่มีข้อสงสัย
แลในปีนั้น พระกำลังอยู่ในระหว่างธุดงค์ ก็มีแม่ของเด็กหนุ่มที่เข้าวัยประมาณยี่สิบปี พาลูกของตนที่ติดยาเสพติดมาให้หลวงพ่อนิพนธ์ช่วย
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวกับแม่ของเด็กหนุ่มว่า ตอนนี้พระกำลังอยู่ระหว่างธุดงค์ คงไม่สะดวกในการช่วยเหลือ ด้วยสมุนไพร
หากแต่ความจำเป็นของแม่ ประกอบกับความอยากเลิกของเด็กหนุ่ม ก็รบเร้าขอให้หลวงพ่อนิพนธ์ช่วย
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า เมื่อสมุนไพรไม่สะดวก ยังทำไม่ได้ จะลองให้เขาใช้บุญช่วยเอาไหม
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ด้วยเหตุที่ระหว่างธุดงค์นั้น ท่านต้องติดตามดูแลพระไปตลอดระยะทาง ด้วยเหตุที่กว่าครึ่งก็มักเป็นพระที่ป่วย แลเพื่อให้มั่นใจ จึงให้คนขับรถ ส่งข้าว ส่งน้ำ แลจัดเตรียมเสาะหาที่ที่เหมาะสมในการปักกลด ในแต่ละวัน ก็ให้เด็กหนุ่มติดรถไป และทำหน้าที่ช่วยพระตลอดการเดินธุดงค์
ด้วยความอยากเลิก เด็กหนุ่มก็รับปาก ทั้งๆที่หลวงพ่อนิพนธ์บอกว่า มันเหนื่อยและลำบากหน่อย ไม่เหมือนการทานสมุนไพรเพื่อเลิก แต่ก็เชื่อเถอะบุญเขามีอำนาจ ต้องคลี่คลายได้
เด็กหนุ่มทำหน้าที่คอยถวายอาหาร จัดสถานที่ในการฉัน และก็เดินธุดงค์ตามพระ ตามกำลังที่มี เป็นกิจวัตร
วันแรกด้วยความเป็นห่วงทั้งพระทั้งเด็กหนุ่ม หลวงพ่อนิพนธ์ จึงไปหาพระแต่เช้า แลดูอาการเด็กหนุ่ม แลมีแต่สมุนไพรเขียว ให้เด็กหนุ่มทาน เพื่อช่วยตน
แลเป็นธรรมดา การอดสารยาในวันแรก อาการลงแดงย่อมรุนแรง หากแต่การเดินตามพระ ในสภาวะที่แแดดแรงกล้า ทำให้เด็กหนุ่มเหงื่อออก และอ่อนเพลีย กลับช่วยให้อาการของเขาทุเลาลงอย่างรวดเร็ว
หลวงพ่อนิพนธ์ก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะเมื่อวันที่สองผ่านไป เด็กหนุ่มกลับแทบไม่เหลืออาการลงแดงอีกเลย จะมีก็แต่เรียวแรงที่ยังน้อย ก็อาศัยเดินไหวก็เดิน เดินไม่ไหว ก็นั่งบนกระบะรถบรรทุกน้ำ แลสัมภาระตามไป
หลังจากเดินตามพระได้สัปดาห์ พระก็ถึงที่หมาย คือ สำนักที่ศรีสวัสดิ์ เด็กหนุ่มขี้ยา กลับกลายเป็นเด็กหนุ่มที่แข็งแรง เดินขึ้นลงเขาตามพระได้ตลอดวัน
หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า นี่แลเป็นสุดยอดแนวทางในการฟื้นฟูตน นั่นคือ อาศัยบุญเป็นหลัก อาศัยสมุนไพรเป็นผู้ช่วย ให้ผลรวดเร็ว เฉียบขาด ยิ่งนัก
เด็กหนุ่มนี้จึงเป็นคนแรกที่เรียกได้ว่า เลิกยาเสพติด โดยไม่ต้องทานสมุนไพร ที่เรียกกันว่า "ยาตัด" เหมือนในหนังน้ำพุ และก็มีสภาพที่ดี ไม่แพ้กัน ทั้งๆที่ ได้ทานแต่สมุนไพรเขียว เท่านั้นเอง
ปัญหาที่สำคัญ ก็คือ "บุญ" ของพระพุทธศาสนา ทำกันอย่างไร นี่แลเราท่านต้องไปหาพระของหลวงพ่อนิพนธ์เพื่อศึกษา แล้วมาทำเพื่อช่วยตน
หากไม่เรียนรู้ แล้วไปทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นบุญ หากแต่นั่นเป็นบุญลมๆ แล้งๆ ที่หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า "บุญนึกเอาเอง" ทำสักเท่าไหร่ ก็หามีผลมาช่วยตนไม่
บทสรุป ใครอยากลองเอาบุญมาช่วยตน ด้วยเล็งเห็นว่า หนทางแห่งสมุนไพรนั้นหาเพียงพอในการฟื้นฟูตน หรือ ใช้เวลานาน ก็ไปลองได้ที่ลพบุรี ไปศึกษา พิจารณา แล้วทำ ... ดูสิว่า ผลที่ได้จะเป็นเช่นไร
หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า ผลของสมุนไพร เหมือนเดินทางอ้อม ผลของบุญ เหมือนเดินทางลัด
มาแบบไม่หวังผล ก็ไม่ต้องคุยเรื่องบุญ หากแต่มาเพื่อหวังผล บุญนั้นจำเป็นยิ่ง หลวงพ่อนิพนธ์จึงย้ำว่า "ใครทำได้ รอดแน่"