วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2562

ไม่เชื่อตน


กับดักที่สำคัญประการหนึ่งที่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้พิจารณา นั่นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกตัวคนมีอยู่แล้ว เป็นอำนาจปกป้องคุ้มครองตน ที่เรียกกันว่า "พรหมลิขิต" อันเป็นสิ่งที่ผู้ใดหรือใครจะมาทำลายไม่ได้เลย นอกเสียจากตัวของเราเอง

เมื่อไม่เชื่อกรรม ไม่เชื่อพรหมลิขิต ที่ตนทำไว้แล้ว ไม่มีศาสนา คนทั้งหลายจึงเดินสวนทางกับหลักพระภูมี ที่สอนให้พึ่งตนเอง พึ่งการกระทำที่ตนทำได้

ทุกวันนี้ คนจึงไปร้องขอพร เดินในวินัย พึ่งผู้อื่นตลอดเวลา แลตกเป็นเหยื่อของความโลภ ของผู้มีสติปัญญาเหนือกว่า แต่อ้างคำเดียว ไม่ทำตาม ไม่ตาย ก็ต้องวิบัติ ฉิบหาย

ดูสิเริ่มแค่ความดัน คนโลภก็ชี้เลยว่า ตาย ตาย ตาย คนฟังขาดสติ เสมือนภาษิต "กระต่ายตื่นตูม" วิ่งไปร้องไป มิเพียงตนไม่รอด ผู้อื่นพาฉิบหายไปด้วย

หลวงพ่อนิพนธ์เคยอรรถาธิบายเมื่ครั้งประชุมสงฆ์ เมื่อพระถามท่านว่า ทำไมไม่เคยเห็นท่านลุกเข้าห้องน้ำเลยสักครั้ง ท่านตอบว่า นี่แลความวิเศษของร่างกาย สามารถแก้ไขความวิกฤติที่เกิดกับร่างกาย เพื่อมีชีวิตให้ครบพรหมลิขิตนั่นเอง เมื่อร่างกายมีน้ำเกินต้องถ่าย ถ้าเราไม่เข้าห้องน้ำ ร่างกายก็ต้องขับออกโดยวิธีอื่น

ความเชื่อนี้คนทั้งหลายมิใช่ไม่เชื่อ หากแต่ความกลัว ทำให้คนทั้งหลายไม่กล้าเดิน ยิ่งพอคนโลภกรอกหู ตาย ตาย ตาย ด้วยแล้ว รีบวิ่งไปให้เขาช่วย ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากปวด ด้วยความกลัวตายนั้นเอง

ท่านจึงมักยกอดีตที่เปิดสำนักปี 30 ให้ฟัง เมื่อครั้งท่านบวชเปิดหลักธรรมของแม่ชีเมี้ยนอีกครั้ง วันหนึ่งท่านมีอาการ ไส้ติ่ง ปวดท้องมาก ลูกศิษย์ที่เป็นหมอแลคนใกล้ชิด ต่างลงความเห็นว่า ต้องพาท่านไปผ่าตัดด่วน มิฉะนั้นตายแน่ แม่ชีนงค์ที่เป็นพี่สาว จึงวางแผนใส่ยานอนหลับให้ท่านทาน เพราะท่านไม่ยอมไป ด้วยรู้ทัน ท่านจึงเข้าห้องล็อคประตูหน้าต่าง แล้วบอกว่า ท่านไม่ตายหรอก ท่านนอนทนปวดในห้อง 48 ชั่วโมง ในที่สุด ถ่ายไส้ติ่งออกมา แล้วก็หายปวด

สิ่งที่ได้จากการทนปวดครั้งนั้นนั่นคือ ท่านได้ภูมิกลับมาจึงไม่เคยมีอาการปวดท้องอีกเลยนับแต่นั้น

บทสรุป เมื่อคนไม่รู้เรื่องศาสนา ไม่เชื่อกรรม ไม่เชื่อบุญ จึงไม่เชื่อพรหมลิขิต ท้ายที่สุด เขาจึงไม่เชื่อตน ว่าตนของตนทำได้ แลตนของตนเท่านั้นที่ช่วยตนได้ ก็พาตนไปพึ่งผู้อื่น ไปร้องขอพร วิ่งหายาดี สุดท้าย ไม่ต่างอะไรกับภาษิต กระต่ายวิ่งไปวิ่งมา ไม่ได้ตายด้วยโรค ตกเหวอุบัติภัยตาย ตายก่อนพรหมลิขิต เห็นกันมากมาย

แม่ชีเมี้ยนจึงชี้ให้เห็นว่า สงฆ์ของพระภูมี ไม่มีหรอกที่เป็นโรคตาย เดินธุดงค์หลังตรงจนวันตาย คนโลภมันหลอกกิน มันจึงต้องเขียนว่ามีชีวกพราหม์ มาทำยาให้พระพุทธเจ้า ถ้าต้องพึ่งผู้อื่น ย่อมเป็นหนี้ จะไปนิพพานโดยวิธีใด ทั้งที่มีหนี้

คนที่มาทุกวันนี้ ปวดนิดปวดหน่อยว่าจะตาย ไม่เอาปวด ร้องหายา แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า ... ก็แล้วกรรมที่ทำมาหล่ะจะเอาไปไว้ไหน จะร้องให้ใครช่วย ไม่ได้ผล

เชื่อกรรม เชื่อธรรม จึงต้องพึ่งตน เชื่อตน ช่วยตน ด้วยเดินในวินัยธรรม เท่าที่ตนพอทำได้ ด้วยขันติอดทน เดินตามรอยพระภูมี จึงจักมีโอกาสช่วยตนได้

ถ้าพึ่งผู้อื่นแล้วช่วยตนได้ โลกนี้ไม่ต้องมีศาสนาหรอก

ดูไอ้พวกคนเก่ง มันท้ากรรม เดี๋ยวก็พายุ เดี๋ยวก็ไฟป่า น้ำท่วม แผ่นดินไหว มันจะเก่งสักฉันใด สู้กรรมได้หรือ เหล็กที่ว่าใหญ่ แค่เขย่านิดเดียวเหมือนหยวกกล้วยเลย ทำยาเก่งนัก นี่ล่าสุด เจอ "ซอมบี้กวาง" ผวาทั้งเมือง

จึงไม่แปลก ลมชัก มาทำให้ทรมาน วิตกจริต ไม่ตายหรอก แต่วิ่งหายากันชัก ยิ่งกินยิ่งชัก แล้วก็พาลเป็นโรคอื่นตามมา นี่แลพึ่งผู้อื่น ไม่รับกรรม แล้วมีใครหาย พระรุ่นเรา วันหนึ่งชักหลายหน ทุกวันนี้ไปเป็น ปลัด อบต ที่นครปฐม ผ่านมากว่ายี่สิบปีแล้ว ไม่เห็นเขาชักอีกเลย


ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44