วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2562

บอกอะไร


บทสวด "ยันทิกะ" เป็นบทสวดที่นับตั้งแต่ยุคถ้ำกระบอกเริ่มก่อตั้ง พระจะสวดเป็นบทแรกเสมอ

เป็นบทสวดที่บอกเรื่องราวของพระพุทธเจ้า ทุกพระองค์ ต้องมีครู

แลครูผู้สอนในทุกยุค คือ "โลกุตระ"

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงชี้ว่า ศาสนา เป็นของนอกโลก เป็นองค์กรที่สาม มีธรรมเป็นอำนาจ ผู้ทำตาม ผลที่ได้ คือ "บุญบารมี ทานบารมี"

แปลความว่า บุญบารมี ทานบารมี นั้นมีเจ้าของ ไม่ใช่ที่ไหนก็มี ที่สำคัญ มีวันเวลา ผุดเกิด แลดับลง ไม่ใช่อยู่คู่โลก

ส่วนการกระทำใดในโลก เกิดผลแค่สองอย่าง คือ กรรมดี กรรมชั่ว อันนี้แลคู่โลก เป็นของโลกียะ

พระเคยถามว่า แล้วรู้ได้อย่างไร ว่าที่ใดเป็นศาสนาที่แท้จริง

หลวงพ่อนิพนธ์ตอบว่า พระพุทธเจ้าก่อนดับขันธ์ให้แว่นส่องจักรวาล เพื่อหาศาสนา เมื่อใดพบ "ความไม่มีโรค" ที่นั้นแลมีศาสนา

เพราะคนที่มีศาสนา จะได้เป็นของแถม

แล้วอย่างไรเรียกมีศาสนา

ท่านชี้ว่า บทยันทิกะ อธิบายว่า ด้วยการสร้างคุณสมบัติ คือ โพธิกิริยา หรือ นิสัยของพระพุทธเจ้า ให้เกิดกับตน นั่นเอง

ใครยิ่งมีมาก ผู้นั้นยิ่งสุขมาก

ผู้ที่จะบรรลุมรรคผล นิพพาน ก็คือ ผู้ที่ทำได้ ทุกเวลา นั่นเอง จึงไม่สร้างกรรม ไม่ว่า กรรมดี กรรมชั่ว ผลคือ ไม่มีตัวกรรมนำเกิดแล้ว จึงไม่ต้องเกิดอีก

ส่วนพวกที่ยังทำไม่ได้ทุกเวลานาที ก็จึงยังต้องเกิด เพราะยังสร้างกรรมอยู่นั่นเอง

หลวงพ่อนิพนธ์จึงว่า เราท่านมาพานพบ มิใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะเคยทำนิสัยดีๆนี้ไว้ จึงพามาพบ

คำถามก็คือ พบเพื่อตัด หรือเพื่อต่อ

ท่านจึงชี้ว่า ทำไมคนที่มาทานสมุนไพร ทุกตัวคนจึงดีขึ้น นั่นเพราะผลที่ทำไว้แล้วในอดีต นั่นเอง

แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ของเดิมหมด ก็ต้องสร้างใหม่ หรือ สร้างเพิ่ม จึงไม่แปลก แรกไปกินดี ทานไปมีแต่ทรงกับทรุด

บทสรุป บทสวดนี้จึงชี้ว่า เราจึงควรมีปณิธาน ในการมุ่งหวัง มรรคผล นิพพาน และมีสัจจะ นับถือศาสนาพุทธ ตลอดชีวิต ชาติใดที่มาพานพบ ก็จะได้ทำในสิ่งที่ยังทำไม่ได้ หรือยังไม่ได้ทำ สะสมไปเรื่อยๆ ชาติหนึ่งชาติใด ก็จะได้บรรลุ ไปกับเขาได้ เมื่อปรารถนาจะบรรลุในยุคของพระภูมียุคนั้นๆ

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงชี้ว่า หากไม่มีแม่ชีเมี้ยน เราท่านก็ไม่รู้เรื่องศาสนา ถูกคนโลภหลอกลวง อ้างตนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำสิ่งใดสักฉันใด ก็ไร้ผลช่วยตนไม่ได้ กลายเป็นปราชญ์ รู้หนทางบุญบารมี ทานบารมี ทำช่วยตนได้ ด้วยการลดนิสัยกรรม สร้างนิสัยธรรม ไม่คิดหวังพึ่งผู้อื่น แลแม้ไม่บวช การกระทำก็เป็นพระได้ คือ พระมาลัยโปรดสัตว์ ทำให้คนอื่นเห็นแล้วทำตาม เพื่อช่วยตน

คุณของแม่ชีเมี้ยนจึงมหาศาล คนที่รู้คุณ แม้นจากไปยังที่แห่งตน ก็ต้องมาสักการะให้ได้ ทุกปีเราท่านจึงอาจเห็นที่คนผู้นั้น ไม่เคยเดินในมูลนิธิเลย แต่มากราบ

ในพุทธประวัติ เขาบอกมาฆะบูชา สงฆ์มาประชุมมิได้นัดหมาย แท้จริงแล้วทุกองค์รู้ว่า นี่คือวันที่พีะพุทธเจ้าระลึกคุณการลาสังขารของโลกุตระ จึงมาพร้อมเพรียง

จึงไม่แปลกที่พระที่แยกไปตั้งตนเป็นเกจิ ล้วนไม่มีใครนำบทสวดนี้ไปด้วย เพราะมันฟ้อง มันข้ามโลกุตระ จะตัั้งตัวเป็นอาจารย์นั่นเอง

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงชี้ว่า การมารวมกันในวันลาสังขารของแม่ชีเมี้ยน ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า มีคนเชื่อ แลทำตนอยู่ดูศาสนา สิ่งที่ท่านทิ้งไว้ให้ ยังมีคนทำ ยังมีคนร้องขออยากได้ แลถ้าแม่ชีเมี้ยนยังให้ ก็เป็นเพียงปีต่อปี เหมือนข้อสอบนั้นแล

แต่ถ้าไม่ให้ ก็ตัวใครตัวมัน รอรับกรรมของตน สมุนไพรก็ไร้ความหมาย เหมือนถ้ำกระบอก ที่เป็นเพียงมัมมี่ ไม่มีวิญญาณ ช่วยใครไม่ได้ ที่นี้ก็ต้องปิดลง

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44