วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

จนตรอก


สภาพของประเทศไทย กำลังเดินไปสู่ทางตันของประเทศเข้าทุกวัน ช้าเร็วก็ต้องถึงสภาพที่โบราณเรียก "จนตรอก" นั่นคือ รายได้กับรายจ่าย ไม่สมดุลย์กันอย่างมาก จนวิกฤต

ไม่ได้มาวิวาทะว่า ด้วยสาเหตุใด ใครเป็นคนทำ หากแต่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ว่า นั่นคือ กรรมของประเทศ

หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักกล่าวเสมอในเหตุผลที่แม่ชีเมี้ยน ทิ้งสิ่งนี้ไว้ในแผ่นดินไทย และกล่าวว่าเพื่อตอบแทนแผ่นดินเกิด

ท่านขยายความให้พิจารณาได้เด่นชัดขึ้นว่า เพราะเหตุที่คนไทย ไม่มีความสามารถในการแข่งขันระดับโลกได้ นั่นเอง ไม่ว่าทางใด ที่นับวันแต่ละประเทศจะพัฒนาตนให้มีขีดความสามารถสูงขึ้น เพื่อแข่งขันกับประเทศอื่น อันจะเป็นรายได้เข้าสู่ประเทศ ไม่ว่า เทคโนโลยี นวัตกรรม และในไม่ช้า แม้นแต่รายได้หลัก ที่ค้ำจุนประเทศอย่างเกษตรกรรม ก็จะหดหายลงไป

เมื่อแข่งขันกับประเทศอื่นไม่ได้ ย่อมหมายถึงอำนาจต่อรองในระดับโลก ย่อมสูญเสียไป กลายเป็นผู้เสียเปรียบไปทุกประตู แลการจะผลิกผันให้ฟื้นคืนกลับมาย่อมต้องอาศัยบุคคลากรที่มีสมองของประเทศ แต่นั่นเป็นสิ่งที่ประเทศไทยขาดแคลน และขาดการสนับสนุน ดูจากอันดับของการศึกษาไม่ว่าในระดับใด แม้นกระทั่งอุดมศึกษา ที่เคยโดดเด่น ก็นับวันมีแต่ถอยลง หากแม้นจะมีผู้ใดมีสมองชั้นหัวกระทิ ก็ถูกแรงดึงดูดจากเพื่อนบ้าน นำไปใช้ด้วยการเสนอสิ่งจูงใจนานาชนิด ทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดไปกันหมด

ดังนั้น ศาสตร์ของพระภูมีหากคนดี มีอำนาจเห็น ย่อมสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการกอบกู้ประเทศได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุที่ไม่มีประเทศใด สามารถทำแข่งได้นั่นเอง

หลวงพ่อนิพนธ์ ให้คิดเล่นๆ ว่า เอาเฉพาะมะเร็ง หากทางการแพทย์ ทำเฉพาะในส่วนที่ตนถนัด นั่นก็คือ การผ่าตัด ส่วนการฟื้นฟู เปลี่ยนมาใช้สมุนไพร ไม่ต้องเสียเงินไปกับการซื้อเครื่องมือแพทย์ ฉายแสง คีโม ประเทศก็ประหยัดงบประมาณมากมายมหาศาล มิเพียงแค่นั้น ยังได้บุคคลากรที่ดี มีสุขภาพดี กลับคืนมาช่วยประเทศชาติได้อีก งบประมาณก็ไปใช้ในส่วนอื่นได้อีก

หากมองไปทั้งโลก ยอดผู้ป่วยมะเร็งหลายล้านคน เลือกมาใช้หนทางสมุนไพร ต้องเดินทางเข้าประเทศ ต้องใช้วัตถุดิบสมุนไพรในประเทศ มะนาว มะกรูด มะพร้าว ดีปลี พริกไทย .... มีค่าใช้จ่ายในการพักอาศัย สร้างรายได้ให้แก่ประเทศมหาศาล

ที่สำคัญ กลายเป็นอำนาจต่อรองระดับประเทศได้อย่างง่ายดาย เพราะคงไม่มีใครอยากเสียชีวิต และก็คงไม่มีประเทศใด ที่จะไม่รับผิดชอบต่อประชากรของตน เมื่อคนทั้งหลายรู้ว่า มีหนทางช่วยตนรอดได้

บทสรุป ผู้ที่ทานสมุนไพรในวันนี้ มิใช่เพียงเพื่อตน แต่นี่คือประวัติศาสตร์ ที่จะทำให้คนที่จะตามมา รู้ว่ามีหนทางที่ทำให้รอดได้ แค่ฟัง เรียนรู้ และพิจาณา ทำตน ให้เป็นร่องรอยที่ถูก ให้คนรุ่นหลังได้เดินตาม ก็นับว่าสร้างคุณมหาศาลแล้ว หากแต่ประวัติศาสตร์ในภาพที่สร้างพฤติกรรมที่ทำแล้วไม่รอด ไม่อยากให้มีเลย ถ้าไม่คิดจะทำ ก็ไปทำในสิ่งที่ตนชอบเสียดีกว่า

ประเทศไทยเสมือนต้องคำสาป ต้องรอจนเสียกรุง ประเทศย่ำแย่ ข้าวยาก หมากแพง จึงจะสามัคคี รวมพลัง นี่ก็ใกล้แล้ว ... แล้วเราท่านก็จะได้เห็นว่าพยากรณ์ของแม่ชีเมี้ยนเป็นจริง สมุนไพรศาสตร์ของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมานี้แหละ กอบกู้แผ่นดินนี้ได้

แล้วคนทั้งโลกจะรู้ว่า โรค นั้น อยากหายง่ายนิดเดียว ... แค่เป็นคนดี มีนิสัยธรรม ตามคำสอนของพระภูมีเท่านั้นเอง ไม่สนหรอกต้องนับถือ แต่ทำได้ ได้สุขภาพเป็นของแถม

แค่เปลี่ยนนโยบายเป็นประเทศปลอดสงคราม ไม่ต้องนำเงินไปซื้ออาวุธ ซื้อเรือดำน้ำ เครื่องบินรบ ... เท่านี้ประเทศก็ไปฉิวแล้ว จริงหรือไม่ ไม่ต้องมีทหารให้มากมาย ใครก็ไม่กล้าบุก เพราะล้วนแล้วแต่มีญาติ มีพี่น้อง ผองเพื่อน เป็นโรคกันทั้งหมดทั้งสิ้น ทำลายไทย ก็ทำลายคนที่ตนรักนั่นเอง ถึงประเทศนั้นอยากบุก แต่ประเทศอื่น เขายอมหรือ นี่แหละ ไทยนี้รักสงบที่แท้จริง แถมไม่ต้องรบอีก

เขียนไปอย่างนั้น เพราะจะเป็นจริง ก็ต้องรอประเทศเข้าโซนฉิบหายก่อนนั่นแหละ คนมีอำนาจจึงหันมามอง ตอนนี้ความโลภมันบังตา บังใจ มองอย่างไรก็ไม่เห็น ก็งบแต่ละปีมันล่อใจ แค่ค่าซื้อยา เวชภัณฑ์ ก็ยากจะอดใจไหว ปีละ สามแสนล้านบาทเชียวหนา ...

ฉะนั้น คนที่ทานในวันนี้ ทานสมุนไพรแค่ตนรอด หาใช่ไม่ แต่จะเป็นแสงน้อยๆ ที่วันใดเมืองไทยมืดมน แสงนี้จะเด่นชัด นำทางประเทศและคนอีกมากมายได้ วันเวลานั่นแหละะเป็นเครื่องพิสูจน์ อย่าท้อใจ ชีวิตเรามีความหมาย คือ ประวัติศาสตร์ และเมื่อทำได้ วันหนึ่งคนจะมาเรียนรู้ มาอ่านประวัติศาสตร์ ท่านจะภูมิใจที่ตนคือหนึ่งในประวัติศาสตร์ ของผู้ทำตน ให้คนมาอ่าน

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44