วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สอนลูกหลาน

ศาสนา หรือ ลัทธิความเชื่อใดๆ ย่อมมีไว้เพื่อเป็นที่พึ่งของบุคคลที่นับถือนั้นๆ โดยเฉพาะในยามทุกข์

หากแต่ปัญหาหนึ่ง ที่หลายคนที่นับถือศาสนาพุทธ อาจจะสงสัย แม้นจะมีความเชื่อ ศรัทธา มากหลาย นั่นคือ การทำตน เพื่อเป็นคนดี ทำอย่างไร

แม่ชีท่านหนึ่ง กล่าวว่า เมื่อญาติของตนมายังแผ่นดินของศูนย์ปฏิบัติธรรม แม่ชีเมี้ยนกรุณา ประการหนึ่ง ก็เพื่อเยี่ยมท่าน ด้วยเพราะอาการของท่าน ทานสมุนไพรเพียงประการเดียว ที่มูลนิธิ นั้น ไม่เพียงพอ

เมื่อฟังท่าน อาสิ ก็เบนเข็มมาใช้หนทางในการปฏิบัติร่วมด้วย หากแต่ญาติก็ยังฟื้นฟูตน ที่มูลนิธิ

ญาติเห็นตัวท่าน มีสภาพดีขึ้นผิดหูผิดตา จึงถามท่านว่า อยากให้หลานวัยแปดขวบ ได้ปฏิบัติธรรมบ้าง แต่ญาติอีกคนก็กล่าวว่า ลูกของตน ไปเรียนวิปัสสนา กรรมฐาน จากวัดดัง ตั้งแต่เล็ก หากแต่เมื่อโตขึ้น กลับเกลียดวัดไปเลย

แม่ชีก็บอกว่า ที่นี่ ไม่มีวิปัสสนากรรมฐาน ไม่มีกติกาว่าต้องบวชมีใบสุทธิ ไม่ทำเหมือนที่อื่น และที่สำคัญท่านเองก็ไม่รู้ธรรมอะไรมากนัก แม้นจะบวชมาหลายเดือน รู้แต่ว่า ทำตามแม่ชีอ้อสอน ไม่ต้องสนอะไร พยายามถือสัจจะตามที่ให้ไว้ เท่านั้นเอง อาการของท่านก็ฟื้นฟูดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่ต้องพึ่งยาเคมีใดๆอีก

ท่านจึงถามแม่ชีอ้อว่า แล้วหลานวัยแปดขวบ หากจะสอนธรรมเขาต้องทำอย่างไร ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้รู้ธรรมอันใด

แม่ชีอ้อจึงชี้ให้เห็นว่า เรื่องของศาสนา ไม่จำเป็นต้องรุ้ธรรมมาก เพราะศาสนา คือ เราทำ ขอเพียงทำตาม แล้วนำสิ่งที่ทำได้ ไปสอน นั่่นคือ ทำอย่างไรแล้วผลถูกเกิด ก็ว่าไป ทำอย่างไรผลผิดเกิด ก็ว่าไป เท่านัน พอ ไม่จำเป็นต้องรู้ธรรมมากมายเลย

เด็กวัยแปดขวบ ก็เสมือนตัวเรา หากมีวันเวลา ธรรมของพระภูมี ไม่ว่าจะเป็นประการใด ก็ล้วนเริ่มที่กายเป็นสำคัญ ต้องทำกายก่อน

ตัวเรายังต้องเริ่มที่การสละแรงกายทำงานเพื่อศาสนา อันเป็นปฐมแห่งการให้สุขแก่ผู้อื่น แล้วทานสมุนไพร เด็กก็เช่นกัน เขามีวันเวลา ก็สอนเขาทำให้ผู้อื่น และ ทานสมุนไพร

เมื่อวันเวลาผ่านไป ทำถูกผลถูกย่อมเกิด วันเวลาจะเป็นบทพิสูจน์ เมื่อเด็กโตขึ้น ความแตกต่างระหว่างเขากับเพื่อนจะปรากฎ เพราะตัวเขาเอง จะเห็นเพื่อนป่วย ไปโรงพยาบาลกันประจำ ในขณะที่ตัวเอง นั้น ไม่เคยต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการป่วยเลย

ไม่ต้องสอน ผ่านวันผ่านเดือน เด็กก็จะรู้ได้ สัมผัสปาฏิหาริย์ ของแม่ชีเมี้ยน อันนี้ได้ และเขาก็จะรู้และเข้าใจ คำว่า ศาสนา คือ เราทำ ต้องลงมือทำเอง

คนทั้งหลายก็เช่นกัน มาหาศาสนา แต่ทุกที่มักสอนให้ก้าวกระโดด ให้ทำใจ ผลสุดท้ายก็ตกลงมา ศาสน์ของพระภูมีที่แม่ชีเมี้ยนนำมา หลวงพ่อนิพนธ์จึงสอนให้เริ่มจากการทำ ทานบารมีก่อน เป็นสำคัญ ประกอบกับการสร้างบุญ ด้วยกาย วาจา เป็นปฐม โดยเว้นใจไว้ก่อน เพราะเป็นเรื่องที่มีรายละเอียด

การมาทานสมุนไพร และทำกิจกรรม จึงเป็นการเรียนรู้ มิใช่เพียงเพื่อตน เราท่านสามารถนำความรู้นี้ ไปสอนให้ลูกหลาน ช่วยตนของตนได้ เพราะผ่านการพิสูจน์ ด้วยตัวของเราท่านเองแล้ว ว่าถูก ผลถูกคือการหายโรค จึงปรากฎ

และก็เฉกเช่นเดียวกัน ท่าน อาสิ จึงชี้ว่า วันหนึ่ง เราท่านก็ควรขยับการเรียนของตน ให้ขึ้นชั้นไป เข้าหมวด บุญบารมี เป็นที่พึ่ง ด้วยการรับสัจจะ นำมาเป็นสติธรรมนำตน

หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักอุปมาให้เห็นภาพของศาสนา เช่น เราท่านหิวข้าว จะมัวนั่งภาวนาสักฉันใด ก็หามีข้าวกินไม่ ต้องลุกขึ้นไป ตักข้าว ซาวน้ำ ตั้งหม้อ จุดไฟ เอากายไปทำ จึงได้ข้าวมากิน ฉันใดก็ฉันนั้น

วิปัสสนา กรรมฐาน จึงเป็นเพียงลม ลืมตามา ก็อยู่ที่เดิม ไม่มีประโยชน์แก่ผู้ใด แต่สิ่งที่แม่ชีเมี้ยนนำมา หากทำตาม แม้นจะเป็นเพียงมะกรูดห้าลูก เอามาทำสมุนไพรแจกคน ผลที่เกิดย่อมให้สุขแก่ผู้อื่น แลเป็นสุขย้อนมายังตน จึงหายโรค ไม่ใช่นั่งสวดมนต์อ้อนวอนของให้หายโรค

คำของแม่ชีอ้อ สอนแม่ชีท่านนั้น จึงชี้ให้เห็นว่า ไม่จำเป็นต้องสอนธรรมอะไรให้หลานฟังเลย เพียงแต่ให้สอนให้เขาทำตาม ทำในสิ่งที่ให้สุขแก่ผู้อื่น แล้วทานสมุนไพร เมือเวลาผ่าน เด็กก็จะรู้เองว่า ธรรมคืออะไร ก็เพราะเขาได้เรียนรู้แล้วว่า เมื่อเขาใช้กายทำ ให้สุขแก่ผู้อื่น ทานสมุนไพร ผลที่ได้คือสุขภาพที่ดี ... ก็แล้วถ้าวันหนึ่ง เขาพัฒนามาใช้วาจา และใจทำเล่า อะไรที่รอเขาอยู่

บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงพูดอย่างมั่นใจว่า แม่ชีเมี้ยนมีปาฏิหาริย์ สมุนไพรของท่าน ช่วยให้หายโรคได้ ธรรมของท่านช่วยให้พ้นกรรมได้ ปัญหาก็มีเพียงประการเดียว คือ เราท่านเข้าถึงท่านหรือไม่ .... ก็ขึ้นกับตัวเอง จะเปลี่ยนแปลง ความคิด พฤติกรรม มาอยู่ในร่องธรรม และมีความขันติ อดทน สักขนาดไหน สร้างคุณสมบัติ รองรับปาฏิหารย์

หากสอนลูกหลานทำ แต่ผลที่ปรากฎไม่แก้ทุกข์ของเขาได้เลย ช้าเร็วเขาก็ต้องเบื่อและหันหลังให้ เป็นแน่แท้ แต่ถ้าเขาทำแล้ว แก้ทุกข์ที่มีได้ เขาย่อมซึมซับและอยากเข้าใกล้ เป็นธรรมดา เสมือนสมาชิกหลายท่าน ที่ให้ลูกหลานทานสมุนไพรเขียวแต่เด็ก จนเกิดสัญชาติญาณ วันใดเมื่อตัวมีไข้ เขาก็จะเดินไปหายาเขียว รินเอง ทานเอง โดยไม่มีวันนึกถึงยาเคมีแม้นแต่น้อย

วันใดที่เราท่านจากโลกนี้ไป ลูกหลานก็จักขอบคุณมรดกที่ล้ำค่านี้ มากกว่าทรัพย์สมบัติใดๆ

คำถามที่ควรคิด หลวงพ่อนิพนธ์จึงมักกล่าวว่า เมื่อเราท่านมีวาสนามาพบ ทำไมไม่ทำ มิใช่แต่เพียงเพื่อตนของตน แต่เพื่อคนที่เราท่านรัก ลูกหลาน ได้มีหลักที่พึ่งพิง ฤาจะมาเอาแต่สมุนไพร ช่างน่าเสียดายนัก นั่นมันของแถม ธรรมของพระภูมีต่างหาก นั่นคือ ยอด ....

ท้ายที่สุด แม่ชีอ้อ จึงกล่าวว่า เสียดายสมาชิกผู้หญิงท่านหนึ่งเป็นมะเร็ง ท่านร้องขอให้มาเรียนรู้เรื่องศาสนา แล้วนำไปปฏิบัติ เธอตอบว่า ไม่มีเวลา ไว้มีเวลาจะมา นั่นคือช่วงที่หลวงพ่อนิพนธ์จากพวกเราไป มาวันนี้ เธอกลับมาหาแม่ชีอ้ออีกครั้ง บอกว่า อยากมา แต่สภาพของเธอตอนนี้ ถึงอยากมาก็มาไม่ได้แล้ว เพราะช่วยตัวเองยังไม่ได้เลย .... แล้วเราท่านคนไหนรู้บ้าง ว่ามีเวลาเหลือสักเท่าไหร่ จึงไม่คิดไปเรียน เพื่อมาปฏิบัติ นี่แหละอำนาจกรรม

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44